เหยื่อท้องถนนตายพุ่ง 162 ศพ ขณะที่กรมคุมประพฤติเผยเมาขับสงกรานต์ 4 วันพุ่งเกือบ 4 พันคดี “กรุงเทพฯ” นำโด่งอันดับหนึ่ง น่าห่วงตัวเลขชี้ทำผิดกฎหมายเพิ่มกว่าปี 66 “ผช.ผบ.ตร.” สแกนเด็ก-เยาวชนดื่่มแอลกอฮอล์ห้ามโผล่บนถนน สั่งเตรียมพร้อมรับมือคนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงหลังสิ้นสุดเทศกาล
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในวันที่ 14 เม.ย. 2567 รวมทั้งสิ้น 2,136 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 2,106 คดี และคดีขับเสพ 30 คดี สำหรับยอดรวมสะสม 4 วัน ของ 7 วันอันตราย มีจำนวน 3,890 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 3,737 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.07 คดีขับรถประมาท 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.08 คดีขับเสพ 150 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.85
"โดยกรุงเทพฯ มีคดีเมาขับสูงสุดอันดับหนึ่ง 399 คดี รองลงมานนทบุรี 227คดี และสมุทรปราการ 214 คดี ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 4 ของ 7 วันอันตรายปี 2566 พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 315 คดี และปี 2567 จำนวน 2,106 คดี เพิ่มขึ้น 1,791 คดี" นายเรืองศักดิ์ระบุ
ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 โดยได้กำชับในที่ประชุมให้ทุกกองบัญชาการเร่งรัดผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยให้ได้รับผลการตรวจภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถพิสูจน์ทราบในการประกอบพยานหลักฐานทางกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว
"ส่วนกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นเด็กหรือเยาวชนที่มึนเมาสุรา ได้กำชับให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยง พร้อมทั้งให้วางแนวทางการปฏิบัติลดวงจรการเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน โดยให้กวดขันตรวจสอบผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชน หากพบให้มีการบูรณาการกับผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น ติดต่อประสานให้ผู้ปกครองมารับตัวเยาวชนและยานพาหนะกลับไป" ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันนี้เป็นช่วงที่ประชาชนเริ่มเดินทางกลับเข้ามายังกรุงเทพฯ อาจทำให้การจราจรมีความหนาแน่น ซึ่งได้กำชับการอำนวยความสะดวกการจราจร หากมีอุบัติเหตุให้ใช้ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปแก้ไขและจัดการจราจรทันที พร้อมให้ทุกหน่วยปรับแผนจัดการจราจรตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ทั้งในทางหลวงสายหลักและสายรอง โดยเฉพาะถนนสายรองที่ใช้เป็นทางเลี่ยงการจราจรในช่วงเทศกาล
พล.ต.ท.กรไชยกล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ โดยพิจารณาจัดกำลังสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้เหมาะสม เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด กรณีมีข้าราชการตำรวจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้ต้นสังกัดและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้การช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยให้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสมสองวัน 11-14 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 1,259 ครั้ง ลดลงร้อยละ 12.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 162 ราย ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 1,279 คน ลดลงร้อยละ 10.68
ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม 3 วัน รวม 15,859 ราย สถิติสูงสุดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 4,305 ราย รองลงมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 3,483 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากไปท่องเที่ยวและกลับบ้านร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัวตามจังหวัดต่างๆ ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กันแล้วเพื่อเลี่ยงรถติดในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.)
ทำให้สภาพการจราจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนเอเชีย ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท ฝั่งขาล่องเข้ากรุงเทพฯ มีปริมาณรถมากประมาณ 2,000 คันต่อชั่วโมง แต่ยังคล่องตัว ใช้ความเร็วได้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีติดขัด มีชะลอตัวช่วงทางโค้ง และช่วงกิโลเมตรที่ 139 ก่อนเข้าสี่แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ คาดว่าตลอดทั้งวันนี้จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง