ไทยโพสต์ ๐ “ทักษิณ” ลุยเชียงใหม่ เชียร์ดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้อง เปรียบ “เศรษฐา” เป็นเครื่องยนต์ดีเซลติดช้า “สร.ธกส.” เริ่มฮึ่ม! บอกธนาคารยังไม่ขยับเรื่องนี้จนกว่า “สคร.-ธปท.-กฤษฎีกา” ตีความให้ชัด “วรงค์-สมชัย” เตือนบอร์ดหากไม่อยากติดคุกอย่าตีความศรีธนญชัย
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 เม.ย.2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการพักโทษ ได้เดินทางมารับประทานข้าวเที่ยงที่ร้านเกียรติโอชา จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยรถตู้เลกซัส ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร โดยทันทีที่มาถึงนายทักษิณกล่าวว่า เป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น แต่คิดว่าหลังจากดิจิทัลวอลเล็ตออกมา จะกระเตื้องขึ้นเยอะ เพราะตอนนี้เงินในระบบไม่พอ เพราะหลายฝ่ายเป็นห่วง แต่ธนาคารเงินถูกดูดออกไปหมด ไม่มีเงินจะให้กู้ ส่วนที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นเรื่องธรรมดา ใครทำอะไรก็มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่คิดว่ารัฐบาลทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ และประเทศเราโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนทั้งหมด เพราะเงินในระบบเราไม่พอหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงอยากเติมเงินเข้าไปหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่น่าจะมีอะไรนะ แล้วผมดูแล้ว เพราะตอนนี้รัฐบาลอาจเพิ่มหนี้ชั่วคราว แต่จะมีตัวที่ลดหนี้ของรัฐบาลเข้ามา หนี้เพิ่มทางหนึ่ง ลดทางหนึ่ง ก็จะเจ๊า”
ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จ นายทักษิณอวยพรวันปีใหม่ว่า “ปีนี้มีอะไรส่งท้ายที่ไม่ค่อยดีหลายอย่าง หวังว่าปีหน้าพี่น้องคนไทยจะได้พบแต่สิ่งดีๆ เพราะปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีเพราะมีควันหลงมาจากสถานการณ์โควิด-19 และ PM 2.5 ก็หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายขึ้น และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ตั้งใจทำงาน คงจะประสบผลสำเร็จในเร็วๆ นี้ เครื่องยนต์ดีเซลติดช้าหน่อย แต่ติดแล้วมันวิ่งไม่หยุด"
ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 เม.ย. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (สร.ธกส.) ได้ออกแถลงการณ์ถึงการใช้เงินกู้จาก ธ.ก.ส. เพื่อดำเนินโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จำนวน 1.732 แสนล้านบาทว่า มติคณะกรรมการ สร.ธกส. ให้ดำเนินการ ดังนี้ 1.ส่งเรื่องให้หน่วยงานกำกับดูแล ธ.ก.ส.ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาว่ารัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส. ไปดำเนินการโครงการ Digital wallet ได้หรือไม่ 2.ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาเพื่อพิจารณาข้อกฎหมายว่า รัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส.ไปดำเนินการโครงการ Digital wallet ได้หรือไม่ และ 3.ให้ธนาคารเร่งสื่อสารทำความเข้าใจ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ว่าในปัจจุบัน ธ.ก.ส.ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Digital wallet เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ความเห็นจากส่วนงานกำกับดูแลตามข้อ 1 และ 2
“สร.ธกส.ยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ของ ธ.ก.ส.เกี่ยวกับโครงการ Digital wallet จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ขององค์กร และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผู้ฝากเงินกับ ธ.ก.ส. สมกับคำขวัญของธนาคาร เคียงคู่ รู้ค่า ประชาชน”
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในเรื่องการใช้เงิน ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาทว่า ขอเตือนไปยังผู้บริหาร ธ.ก.ส. ต้องยึดหลักการ เพราะการใช้เงินของ ธ.ก.ส.ตามวัตถุประสงค์ ที่กำหนดในมาตรา 9 ของพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. หมายถึงการสนับสนุนพี่น้องเกษตรกรในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและอื่นๆ สิ่งที่ผู้บริหาร ธ.ก.ส.ต้องตระหนัก โครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือการแจกเงินให้ประชาชนทุกคนตามที่รัฐบาลแถลง เกษตรกรจึงได้รับเงินในฐานะประชาชน ไม่ใช่ได้รับในฐานะเกษตรกร โครงการนี้จึงไม่ใช่โครงการที่ทำเพื่อเกษตรกรโดยตรงเหมือนโครงการรับจำนำข้าว ดังนั้นแม้เขาจะเป็นเกษตรกร แต่ได้รับเงินในฐานะประชาชน และจะไปซื้ออะไรก็ได้แม้ไม่เกี่ยวกับการเกษตร การนำเงิน ธ.ก.ส.ไปแจกผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. และมีความเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย ขอให้หยุดตีความแบบศรีธนญชัย
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า ใครมีเงินฝาก ธ.ก.ส.ไม่ต้องรีบถอนเงิน เพราะดิจิทัลวอลเล็ต 172,300 ล้านบาทจาก ธ.ก.ส. ยากมาก ยกเว้นคณะกรรมการอยากย้ายบ้าน เพราะ 1.พระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. 2509 ข้อ 9 เขียนวัตถุประสงค์ไว้ชัดเจนว่า (1) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร ไม่ใช่ครอบครัวเกษตรกร แม้จะมีคำว่า ครอบครัวเกษตรกรใน (ค) และ (ง) แต่การให้ต้องให้ต่อเกษตรกรตาม (1) 2.ตัวเลขเกษตรกร 17.23 ล้านคน จึงเป็นตัวเลขยกเมฆ เอาครอบครัวเกษตรกรที่ไม่รู้ชัดเจนว่ามีอีกกี่คน ทำอาชีพอะไร ร่ำรวยแค่ไหน แล้วมารวมให้ถึง 17.23 ล้านคน ทั้งๆ ที่เกษตรกรที่จดทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ มีแค่ 8.9 ล้านคน 3.ยังไม่นับข้อ 10 ของพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. ที่ให้อำนาจกระทำกิจการต่างๆ ในฐานะธนาคาร รวม 17 อย่าง เช่น ให้กู้ รับฝาก ขายตั๋วเงิน ฯลฯ ซึ่งอ่านสิบรอบก็ไม่เจอคำว่าแจกเงินหรือให้ รัฐบาลยืมเงินไปแจก 4.พิจารณาจากกฎหมายแล้วเอาเงิน ธ.ก.ส.ไปสนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ ยกเว้นคณะกรรมการ ธ.ก.ส.จะลงมติให้โดยเสี่ยงติดคุก และ 5.มีข่าวจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐมนตรีการคลังที่มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ใหม่หรือรู้ตัวเลยจะเปลี่ยนคนติดคุก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ทักษิณ’ ติงสื่อขยายข่าวมากเกินไป! หลัง คุยกับ ‘อันวาร์’
27 ธ.ค. 2557 - ที่อาคารมูลนิธิไทยรัฐ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
'ทักษิณ' ยอมรับแล้ว! ดอดพบ 'อันวาร์' บนเรือยอชต์กลางทะเล
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวสะพัดขึ้นเรือยอชต์จาก จ.ภูเก็ต ไปเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อพูดคุยกับนายอันวาร์ อิบราฮิม
'สส.ปชน.' จับตา 'ทักษิณ-อันวาร์' พบกันกลางทะเลในที่แปลกๆ น่าสนใจคุยอะไรกัน
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เกือบจะ 24 ชั่วโมงแล้ว เพจของนายกฯ อันวาร์ยังไม่ได้บอกเล่าเกี่ยวกับการพบปะกลางทะเล
'อดีตบิ๊กศรภ.' ฟันธง! หลัง ม.ค.68 'ทักษิณ' จะคึกคะนองไม่ออก
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทักษิณ VS. สนธิกับสหายร่วมรบ หลังมกราคม 68 มีเนื้อหาดังนี้
เอาแล้ว 'บิ๊กเนมหลายวงการ' พูดเหมือนกัน รัฐบาลคงอยู่ไม่ครบเทอม น่าจะไม่พ้นปีหน้า
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พูดเหมือนกัน
ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร