กรุงเทพฯ ๐ “เศรษฐา” ห่วงปัญหาอิหร่าน-อิสราเอล เตือนคนไทยติดตามการแจ้งเตือนสถานทูตอย่างใกล้ชิด โอดเศรษฐกิจในบ้านเมืองไม่ดีจึงทำให้ต้องไปหารายได้ข้างนอก “ธนกร” ดีดปากฝ่ายค้านพูดเรื่องเมียนมา
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 เม.ย.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทวีตข้อความผ่าน X ทั้งข้อความภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า ได้ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดอยู่ และด้วยความกังวลใจ โดยเฉพาะความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่างๆ ของสถานทูตของเราในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
ต่อมาในเวลา 11.52 น. วันที่ 13 เม.ย. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีกครั้งว่า ออกหมายเตือนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีความเคลื่อนไหวจากนานาประเทศเยอะพอสมควร ซึ่งเราต้องเฝ้าระวัง และกระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมถ้ามีการยกระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ก็ต้องดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับรายงานว่าคนไทยที่นั่นมีความกังวลบ้างหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่มีรายงานอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง หากจำได้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ที่มีปัญหาอิสราเอลกับฮามาส เราก็ไปรับแรงงานไทยประมาณ 8,000 คน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นปัญหาพื้นฐานว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่ง ก็มีแรงงานไทยอีกหลายคนที่กลับไปอีก แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องช่วยดูแล หากมีเรื่องการยกระดับความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลพี่น้องคนไทยทุกคน
เมื่อถามย้ำว่า แผนรับมือพร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า พร้อมแน่นอน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายเศรษฐามีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง จึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดทำประกาศแจ้งเตือนคนไทยให้เตรียมความพร้อม รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินด้วยแล้ว จึงขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่างๆ
วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจแก้ไขปัญหากรณีการสู้รบในเมียวดี ประเทศเมียนมา ว่าเป็นการแสดงความเห็นที่มีความสุ่มเสี่ยง อาจไปก้าวก่ายกิจการภายในของเมียนมา ถือว่าไม่เหมาะสม ส่วนบริเวณแนวชายแดน กองทัพและฝ่ายความมั่นคง รวมถึง กต. ติดตามลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้บริสุทธิ์ตามหลักมนุษยธรรมและตามหลักกฎหมายที่สามารถทำได้ ซึ่งนายกฯ ได้แสดงจุดยืนแล้วว่าไทยจะเป็นกลาง และไม่ให้รุกล้ำน่านฟ้าของไทยโดยเด็ดขาด
“ขอให้ฝ่ายค้านระมัดระวังการแสดงความเห็นผ่านสื่อ เพราะสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การพูดอะไรต้องดูข้อมูลให้ถูกต้อง รอบด้าน” นายธนกรกล่าว
ด้านเว็บไซต์เมียนมานาวรายงานว่า กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ประกาศแผนการจัดตั้งกลไกการบริหารของตนเองขึ้นในดินแดนที่ยึดไว้ได้จากกองทัพเมียนมาทั้งในและโดยรอบเมืองเมียวดีแล้ว หลังจากเคเอ็นยูยึดเมืองเมียวดีได้
ส่วนสื่อท้องถิ่นรายงานสถานการณ์สู้รบในเมืองเมียวดีว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ทหารเมียนมาที่ถอนกำลังออกจากที่มั่นในเมืองเมียวดีไปหลบอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาในฝั่งเมียนมา ได้ถูกกองกำลังของฝ่ายต่อต้านใช้โดรนโจมตี แต่ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้