ไทยโพสต์ ๐ ศปถ.แถลงอุบัติเหตุสงกรานต์วันที่ 2 เสียชีวิตสะสม 63 ราย ขับรถเร็วรั้งเบอร์หนึ่ง ร้อยเอ็ดครองแชมป์ตาย “ศปก.ตร.” ประเมินตัวเลขลดลงอย่างมีนัยสำคัญ “บิ๊กต่าย” ชี้เป็นโอกาสดี ตร.สร้างภาพลักษณ์
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 เม.ย.2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ ว่าเกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว 41.37%, ดื่มแล้วขับ 21.17%, ตัดหน้ากระชั้นชิด 20.20% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 84.91% ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 86.32%, ถนนกรมทางหลวง 40.07%, ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 25.73% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01-17.00 น. และเวลา 19.01-20.00 น. 7.49% ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี 18.69% จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,762 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,496 คน ขณะที่จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พะเยา 15 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์และพะเยา 14 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และเชียงราย 3 ราย
สำหรับอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (11-12 เม.ย.2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 541 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 550 คน ผู้เสียชีวิต รวม 63 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 42 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงรายและประจวบคีรีขันธ์ 21 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราชและสงขลา 22 คน และจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 5 ราย
ส่วนที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วง 2 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ พบว่าลดลงอย่างมีนัยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วงหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและต่อวินัยการจราจรของผู้เดินทางเอง โดยเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก และความจริงจังเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสม 2 วัน 11-12 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 632 ครั้ง ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 76 ราย ลดลง 17.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 621 คน ลดลง 11.43% ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม 2 วัน รวม 7,236 ราย สถิติสูงสุดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 2,089 คน รองลงมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 1,718 ราย
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวฝากถึงข้าราชการตำรวจทุกนาย ทุกหน่วยในการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะใช้บทบาทหน้าที่การเป็นตำรวจในการดูแลพี่น้องประชาชน ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ก้าวไปสู่การเป็นตำรวจอาชีพ อยากจะเชิญชวนตำรวจทุกคนร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกับตนในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้มาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ณ เวลานี้ ตนยืนยันว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกคน ขณะเดียวกันผมก็อยากได้รับความร่วมมือจากตำรวจทุกคนด้วย
“ผมเองก็มีความฝัน พวกท่านก็มีความฝัน ฝันของผมอยากจะขายให้พวกท่าน มีหลายคนที่กล่าวว่าผมขายฝัน จริงผมยอมรับว่าผมขายฝัน ผมต้องการให้องค์กรนี้คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนหยัดอยู่บนเกียรติภูมิที่เราควรจะเป็น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง