เขี่ย‘สุทิน-ชลน่าน’ สะพัดโผครม.‘เศรษฐา’ทิ้งคลังควบกห.‘พิชัย’ผงาดแทน

เปิดโผ ครม. “เศรษฐา 2”      ทักษิณจัดให้ หึ่งนายกฯ ทิ้งเก้าอี้ขุนคลัง คุมกองทัพนั่งควบกลาโหม ลือ “บิ๊กเล็ก-ณัฐพล น้องรักลุงตู่” ประกบเป็น รมช.กลาโหม ดัน “พิชัย-บิ๊กบางจาก” ผงาดคุมวายุภักษ์ หลังแต่งตัวรอ เทขายหุ้นเกลี้ยงพอร์ต 1.1 ล้านหุ้น สะพัด “สุทิน-ชลน่าน”  โดนทักษิณริบคืนเก้าอี้ โยกสมศักดิ์ไปใส่เสื้อกาวน์คุมหมอ ดันวิสุทธิ์ ปธ.วิปรัฐบาลนั่ง รมช.เกษตรฯ แทน “ไชยา”  

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า  หลังจากรัฐบาลทำงานมา 7 เดือน ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่านายเศรษฐา ทวีสิน   นายกรัฐมนตรี จะปรับ ครม.ในช่วงหลังเสร็จสิ้นเทศกาลสงกรานต์ โดยจะมีทั้งการปรับเข้า ปรับกระทรวง บางตำแหน่งเป็นคนใหม่เข้ามา เช่น นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญในวงการธุรกิจคือ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยังเป็น ประธานกรรมการ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และประธานกรรมการ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) มีแนวโน้มสูงที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

โดยก่อนหน้านี้ นายพิชัยถูกจับตามองว่าจะเข้ามารับตำแหน่งทางการเมืองหลัง เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2567 ได้โอนหุ้น BCP (บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ออกจากพอร์ตทั้งหมดจำนวน 450,000 หุ้น โดยทำรายการนอกตลาดผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และต่อมาเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ได้ดำเนินการขายหุ้นบิ๊กล็อตบางจากฯ ถึง 1.1 ล้านหุ้นอีกครั้ง

โดยมีรายงานว่า นายเศรษฐา แม้ไม่เป็น รมว.การคลังแล้ว แต่จะยังนั่งควบกระทรวงอื่น ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะไปนั่งควบกระทรวงกลาโหม แทนนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่สังเกตได้จากการประชุมหน่วยงานความมั่นคงรับมือสถานการณ์เมียนมา แต่นายสุทินไม่ได้เข้าร่วม ซึ่งนายสุทินอาจต้องกลับไปรับหน้าที่ดูแลเวทีสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรค พท. เหมือนกับนายไชยา พรหมา ที่อาจหลุดจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ทำงานไม่เข้าเป้าในช่วงที่ผ่านมา

โดยมีรายงานว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อาจเข้ามาเป็น รมช.เกษตรฯ แทน แต่กลุ่ม สส.อีสานเพื่อไทยอาจไม่ยอม เพราะมองว่าโควตารัฐมนตรีของนายไชยาเป็นโควตาของภาคอีสานเพื่อไทย หากนายไชยาโดนปรับออก คนที่จะมาเป็น รมช.เกษตรฯ แทน ก็ควรเป็นโควตาของภาคอีสาน ซึ่งหากนายวิสุทธิ์มาเป็น รมช.เกษตรฯ จริง ก็จะทำให้นายสุทินอาจไปเป็นประธานวิปรัฐบาลแทน 

ส่วนกระทรวงที่มีแนวโน้มสลับกัน คือ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีโอกาสสลับตำแหน่งกับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม รวมถึงยังมีกระแสข่าวอีกว่า  พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก  อดีตรอง ผบ.ทบ. และอดีตเลขาธิการ สมช. ที่ตอนแรกเมื่อครั้งตั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 มีชื่อเป็น รมว.กลาโหม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยผลักดันตอนตั้งรัฐบาล แต่โผพลิกเพราะมีแรงต้านจากหลายฝ่าย เลยทำให้ได้เป็นแค่เลขานุการ รมว.กลาโหมไปพลางก่อน และในช่วงที่ผ่านมา 7 เดือน ก็มีข่าวว่าอาจได้ลุ้นเป็น รมช.กลาโหม เพื่อคอยดูแลงานต่างๆ  ของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพให้นายเศรษฐา และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ อาจได้คั่วเก้าอี้ใหญ่ รมว.สาธารณสุข แทน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

รทสช.เสียงแข็ง ไม่ขอปรับ ครม.

นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เคยแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ถ้าจะมีการปรับ ครม. นายกฯ คงหารือระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จากนั้นหัวหน้าพรรคจะมาหารือกับสมาชิกพรรค แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการส่งสัญญาณจากนายกฯ

 “ส่วนของพรรคคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรับ ครม. แต่ข่าวปรับ ครม.มีการปล่อยมาเป็นระยะ แม้กระทั่งพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็ยังถูกปล่อยว่าจะดึงเข้าร่วมรัฐบาล ข่าวปล่อยจึงออกมาได้ทุกวัน วิเคราะห์การเมืองกันได้ทุกวันว่าคนนั้นจะเข้าคนนี้จะออก”

รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า ข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องง่ายจะวิเคราะห์ให้แม่น  เพราะการปรับ ครม.ต้องตัดสินใจโดยนายกฯ ว่าจำเป็นต้องปรับหรือไม่ ถ้าปรับต้องส่งสัญญาณให้พรรคร่วมรัฐบาลรู้ว่า มีวัตถุประสงค์ในการปรับเพื่ออะไร แต่ละพรรคจะได้กลับไปพิจารณา แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีการยืนยัน เป็นแค่ข่าวที่มีออกทางสื่อ ส่วนจะจริง-ไม่จริงต้องรอดูสัญญาณจะส่งมาเมื่อไหร่

 “คนอยากเป็นรัฐมนตรีมีเป็นธรรมดา ต้องมีการตั้งก๊วนมานินทากัน พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีโควตารัฐมนตรีมาก การตั้งรัฐมนตรียังมีผู้ใหญ่ในพรรคอีกหลายคนที่เคยเป็นรัฐมนตรีมีความสามารถก็อาจคิดอยากจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกรอบ แต่อำนาจนี้อยู่ที่นายกฯ ถ้าไม่เริ่มจากนายกฯ การปรับ ครม.คงไม่เกิด ต้องดูสัญญาณที่ชัดเจนจากนายกฯ ก่อนจะส่งมายังพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งนี้เป็นประเพณีปฏิบัติทางการเมือง ไม่ใช่ว่าพรรคใดทะเล่อทะล่าอยากจะขอปรับ ครม.เอง” รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

วันเดียวกันนี้ ที่สนามกอล์ฟ ทบ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธานเตรียมทหารรุ่น 6 (รุ่นฝนแรก) เปิดให้เพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 นำโดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), พล.อ.นพดล อินทปัญญา รดน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวให้พรเพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 ว่า พรที่ให้ตนเอง ขอให้พรนั้นกลับไปถึงทุกคนร้อยเท่าพันทวี

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อได้พบเพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 พร้อมกับพรมน้ำและหยอกล้อกับเพื่อน จากนั้นได้รับประทานกลางวันร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรถึงกระแสข่าวจะไปเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงให้รัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตรร้องอุทานว่า “หึ่ย” พร้อมส่ายหน้าแทนคำตอบ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ว่า เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอทิ้งท้ายตอนที่อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่มองว่าหลังจากรัฐบาลทำงานมาแล้ว 7 เดือน รัฐมนตรีคนไหนที่อาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ ก็ควรจะมีการปรับ แต่ภาพรวม ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพรรคก้าวไกล เพราะไม่ว่าจะปรับ ครม.หรือเปลี่ยนจำนวนรัฐมนตรีที่แต่ละพรรคมี ท้ายสุดแล้วเราก็มองว่าวาระเป้าหมายของรัฐบาลก็ยังเหมือนเดิม และพรรคก้าวไกลก็ยังคงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อไป

 “เรายึดตามข้อเสนอของคุณพิธา ที่ตั้งข้อสังเกตไว้ ก็มองว่าอาจมีบางกระทรวง ที่เริ่มเห็นว่าการผลักดันนโยบายอาจล่าช้า หรือบางครั้งก็ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีที่เข้ามาทำงานอาจไม่มีความเชี่ยวชาญในนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงนั้นมากนัก ผมคิดว่ากระทรวงไหนเข้าข่ายเกณฑ์แบบนี้ ก็ควรต้องปรับในลำดับต้นๆ ซึ่งคิดว่าทั้งหมดเป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่จะตัดสินใจ” นายพริษฐ์กล่าว.