ทักษิณชูลูกสาวพาเพื่อไทยยิ่งใหญ่

"เพื่อไทย" คึก! เปิดคลิป "ทักษิณ" สอน สส.ต้องเข้าถึง ปชช.ทั้งใจและกาย อวย "เศรษฐา" เหมาะสมกับสถานการณ์ ชมเปาะ "อุ๊งอิ๊ง" ได้ดีเอ็นเอส่วนดีของพ่อและแม่ มั่นใจเป็นผู้นำที่ดีได้  "อิ๊งค์" ลั่นนำพรรคเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้วยความจงรักภักดี ไม่มีวันเป็นอนุรักษนิยมใหม่ "นายกฯ" ฟุ้ง 3 ปีครึ่งนำ  พท.กลับสู่ชัยชนะในสนามเลือกตั้ง "อีสานโพล" เผยชาวอีสานยังนิยม "ก้าวไกล"   คะแนน "เพื่อไทย" ลดฮวบ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 5 เม.ย. มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค  พท. พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง  เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะสมาชิกพรรค และบรรดารัฐมนตรีสัดส่วนพรรค รวมถึงแกนนำพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึง สส.พรรค พท. เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งในการประชุมใหญ่ มีการเปิดวีดิทัศน์การให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ ให้แก่สมาชิกพรรคได้รับฟัง

นายทักษิณระบุตอนหนึ่งว่า พรรค พท.ถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ เรื่องนี้ตนบอกได้เลยว่าไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอของพรรค พท.หรือไทยรักไทย แต่พรรค พท.จริงๆ สร้างมาจากไทยรักไทย เป็นพรรคที่รีฟอร์มหรือเป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ถ้าจำได้พรรคไทยรักไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบประกันสุขภาพ การเอาเงินจากเมืองหลวงกลับไปสู่ชนบท กระจายเงินออกไป และเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร ทุกเรื่องเป็นเรื่องใหม่หมดที่ไทยรักไทยทำ และพรรค พท.ก็ทำมาต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้พรรค พท.ก็กำลังจะทำดิจิทัลวอลเล็ต โคตรใหม่ ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา ฉะนั้นวันนี้เราไม่ได้อยู่กับเรื่องโบราณ​แน่นอน เพราะโลกเปลี่ยนไป เพื่อไทยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ระบบทุนนิยมที่ไร้ความเมตตาธรรมจะไม่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้ 

"วันนี้ต้องเข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว  การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญทั้งทางกายภายหรือทางสื่อ และต้องสะท้อนปัญหาของประชาชนในสภาได้ ถึงแม้จะไม่เป็นผู้บริหาร ฉะนั้นอยากให้ สส.ของพรรคเข้าถึงประชาชน การทำงานในสภาให้เข้มแข็ง และหัวใจคือต้องเป็นนักการเมืองที่รักประชาชน ประชาชนเดี๋ยวนี้มองตาเราก็รู้ว่ามีเมตตาธรรม หรือเราเป็นคนถือตัวไม่สนใจ เขามองออก ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะอยู่กับความรู้สึกของชาวบ้าน จะมาเสแสร้งไม่กี่วัน หนึ่งเดือนตอนเลือกตั้งเขาก็รู้หมดแล้ว ฉะนั้นเราต้องอยู่กับชาวบ้านให้ได้" นายทักษิณกล่าว

อดีตนายกฯ ระบุด้วยว่า มั่นใจว่านายเศรษฐาสามารถนำพาประเทศได้ เพราะท่านเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์มาก การมีเครือข่ายที่ส่งเสริมช่วยเหลือสนับสนุนกันเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับตนเป็นคนบ้านนอก ตอนเป็นนายกฯ ก็ไม่มีเครือข่ายในกรุงเทพฯ มีทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง เป็นการวางตัวที่เหมาะของพรรค พท. นายเศรษฐาเหมาะที่จะลงไปในช่วงที่เปลี่ยนผ่านระหว่างการเมืองที่มีหลายพรรค

ทักษิณชู 'อิ๊งค์' เป็นผู้นำที่ดี

"สำหรับ น.ส.แพทองธาร ผมมั่นใจว่าจะสามารนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เป็นดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์  กับผม ผสมกันเป็น น.ส.แพทองธาร คือเอาส่วนเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาดมาจากคุณหญิงพจมาน และเขาเอาส่วนที่พบปะผู้คน เข้าใจการเมืองมาจากผม และเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูก แต่ในเมื่อผมทำได้ ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย" อดีตนายกฯ ระบุ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ปธ.วิปรัฐบาล) กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยสรุปว่า สภาที่เข้มแข็งคือรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยมีผลประโยชน์สูงสุดคือประชาชน เมื่อผลงานของรัฐบาลออกมา ความชัดเจนจะอยู่ในหัวใจประชาชน และเชื่อว่าวันนั้นพรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง  รัฐบาลจะแข็งแค่ไหนต้องร่วมมือกับสภาเพื่อออกกฎหมายให้รัฐบาลผลักดันนโยบายต่อไป

จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า เราตั้งใจเปลี่ยนแปลงพรรคครั้งใหญ่ตั้งแต่รากฐานเพื่อให้พรรคอยู่คู่กับประเทศไทยไปตลอด  ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไปอีกกี่คน  บริบทในอนาคตจะเป็นอย่างไร พรรคจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้เสมอ เหมือนจุดเริ่มต้นตั้งแต่พรรคไทยรักไทย บางคนบอกว่าพรรคเราจะเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ที่เน้นคงสิ่งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ขอยืนยันว่าไม่มีวันเป็นแบบนั้น เพราะดีเอ็นเอของเราคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่เราเป็นรัฐบาล เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทุกอำเภอของประเทศไทยจะมีการอัดฉีดเงินลงไป เมื่อมีเงินมากกว่า 5 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจทั้งประเทศจะถูกกระตุ้น พรรคไทยรักไทยได้ส่งต่อการเปลี่ยนแปลงจนมาถึงพรรค พท.

"เราคือพรรคปฏิรูปที่ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าด้วยนโยบาย โดยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  หลังจากวันนี้วันที่งบประมาณผ่านแล้ว ดิฉันเชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา จากที่วิ่งเร็วอยู่แล้ว จะเร็วขึ้นอีก หลายนโยบายที่เคยติดขัดเพราะงบประมาณ จากนี้จะผ่านฉลุย หลายนโยบายจะสำเร็จได้เห็นผลเร็วๆ นี้แน่นอน และพบกับการสรุปผลงานของรัฐบาลเพื่อไทยที่ไม่ต้องรอ 10 เดือนในวันที่ 3 พ.ค.นี้" หัวหน้าพรรค พท.กล่าว

ส่วนนายเศรษฐา กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า เรื่องแลนด์บริดจ์หลายคนอาจมองว่าเราเป็นคู่แข่งสิงคโปร์ แต่เมื่อโครงการนี้เสร็จ ไม่ว่าจะ 10 หรือ 15 ปีข้างหน้า ช่องแคบมะละกาอาจไม่เพียงพอ และไม่ใช่แค่ด้านการลงทุน ซึ่งจุดยืนของไทยเป็นกลางในเวทีโลก ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เมื่อโครงการแลนด์บริดจ์แล้วเสร็จจะไม่มีใครมาคอนโทรลการขนถ่ายสินค้าจากอันดามันไปอ่าวไทยได้นอกจากประเทศไทย ทุกประเทศจะต้องการการขนถ่ายสินค้าจากแลนด์บริดจ์ ทำให้เราเป็นมหาอำนาจเล็กๆ ทางเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องพึ่งพา

นายเศรษฐากล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราแพ้เลือกตั้ง ฟังแล้วบีบหัวใจ แต่มันคือความจริง 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนในฐานะสมาชิกพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็มีความเจ็บปวด ต้องยอมรับ ไม่ว่าความอ่อนหัดด้านการเมือง เข้าถึงประชาชนไม่เต็มที่ ไม่ได้ไปดีเบต ไม่เถียงอะไรทั้งสิ้น พร้อมน้อมรับทุกข้อกล่าวหา ขอเรียนว่าตนเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล นายทักษิณบอกว่าตนเป็นนายกฯ ช่วงการเปลี่ยนผ่าน ตนไม่ใช่คนอายุน้อย ถ้าได้เห็นประวัติ ทุกท่านทราบชีวิตตนครบทุกอย่าง แต่ที่ก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่ตนปรารถนาในชีวิต ต้องนำการเปลี่ยนผ่านที่เป็นบวก และนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

"ผมบอกเพื่อน ครอบครัว อย่างเดียวในชีวิตที่ผมต้องการคือชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรจะทำให้ผมทำไม่ได้ จะทุ่มเทกายและใจใน 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา  อดีตที่ผ่านมามีทั้งความขมขื่น ไม่ว่าจะถูกยุบพรรค 2 หน วาทกรรมที่ถูกต่อว่า แม้เป็นคนหน้าใหม่ แต่จิตวิญญาณของผมก็เหมือนพวกท่าน อยากบอกว่าเรามองอนาคตที่สดใส ดีกว่าที่เรามาร่วมในวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ เรามี 141 เสียงจาก 500 เสียง วันนี้เรามีรองประธานสภาฯ มีนายกฯ มีรองนายกฯ 3 คน ดูแลความมั่นคง มีกระทรวงคมนาคม เราควรโฟกัสเรื่องเหล่านี้หรือไม่ แทนที่จะไปโฟกัสว่าพรรคเพื่อเขาได้อะไร" นายเศรษฐากล่าว

 ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณชื่นชมจะสามารถนำพรรค พท.ให้พลิกเกมกลับมาชนะเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ว่า เป็นกำลังใจที่ดีที่คนที่รักและเคารพที่สุดท่านเชื่อมั่นในตัวเรา ซึ่งตนก็จะพยายามทำให้เต็มที่อย่างสุดความสามารถที่สุดในทุกตำแหน่งที่ได้รับ

ส่วนนายเศรษฐา กล่าวเสริมในลักษณะแซว น.ส.แพทองธารว่า “คำถามเมื่อสักครู่ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่กับคุณอิ๊งค์”  ตนคิดว่าหากมาจากคนอื่นจะได้ความเห็นที่ดีกว่า และคิดว่าหากดูแววตาของสมาชิกพรรคที่ให้ความมั่นใจกับหัวหน้าพรรค ความทุ่มเทที่มีอยู่ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ที่ขณะนั้น น.ส.แพทองธารยังตั้งครรภ์จนคลอด เราได้ผ่านวิกฤตต่างๆ มา ตนเชื่อว่าเป็นนิมิตหมายอันดี และคิดว่าทุกคนก็รักลูกของตัวเอง

 “เชื่อว่านายทักษิณเข้าใจคุณสมบัติของลูกสาวตัวเองว่าเป็นอย่างไร รวมถึงมีการซัปพอร์ตที่ดีจากผู้อาวุโสในพรรค ที่ให้ความโอบอ้อมอารี ความเมตตา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่กับ น.ส.แพทองธาร แต่รวมถึงสมาชิกทุกคนและผมด้วย ซึ่งทุกคนพร้อมจะเติบโตไปกับหัวหน้าพรรค แม้เราจะมีเวลา แต่เราก็เร่งการทำงาน” นายเศรษฐากล่าว

อีสานก้าวไกลยังนำเพื่อไทย

ถามว่า นายทักษิณก็ชมนายกฯ ด้วยเช่นกัน นายเศรษฐาตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ขอบคุณครับ" ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะขอไมค์ไปตอบแทนว่า ตนขอตอบให้ จริงๆ แล้วเคยคุยกันตั้งแต่สมัยที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมกัน โดยตนได้บอกกับนายเศรษฐามาตลอดว่าตนเชื่อในตัวของนายเศรษฐามาก แม้นายเศรษฐาอาจจะใหม่ในแง่การเมือง เรื่องการหาเสียง รวมถึงการพูดในที่สาธารณะ แต่ตอนนี้นายเศรษฐาสามารถพูดได้สบายมาก ซึ่งตอนนั้นที่ตนบอกว่าเชื่อมั่นในตัวนายเศรษฐา

"ความตั้งใจและอุดมการณ์ของนายเศรษฐาชัดเจนมาก ซึ่งจะสามารถพัฒนาประเทศ เศรษฐกิจ หรือเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ได้อัปเดตเรื่องความเชื่อมั่นที่มีต่อนายเศรษฐากับครอบครัวของตน ซึ่งทุกคนก็เชื่อมั่นในตัวของนายเศรษฐาเช่นเดียวกัน ฉะนั้นคำชมของนายทักษิณถือว่าไม่เกินจริง" น.ส.แพทองธารกล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้อีก 3 ปีครึ่ง จะมีอาวุธอะไรที่จะนำพาพรรค พท.มีชัยชนะในการเลือกตั้ง นายเศรษฐากล่าวแซวผู้สื่อข่าวกลับว่า “มีเวลากี่ชั่วโมงในการตอบเรื่องนี้ เป็นคำถามที่กว้างเหลือเกิน”  แต่สารตั้งต้นคือรัฐบาลนี้เรามาจากประชาชน เราทำงานเพื่อประชาชน และคิดว่านโยบายของพรรค พท.เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง

 “ผมคิดว่าคำพูดเป็นแค่เรื่องเรื่องหนึ่ง แต่ผมอยากให้ดูใน 7 เดือนที่ผ่านมาว่ารัฐบาลทำงานร่วมกับรัฐสภา รวมถึงทุกฝ่าย เราทำงานหนักกันขนาดไหน ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้เราไม่ต้องมาพูดว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง และหากยังไม่ทราบอีก เราก็จะมีการประกาศอีกครั้งในต้นเดือนพ.ค.นี้” นายเศรษฐากล่าว

วันเดียวกัน รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์  หัวหน้าโครงการอีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนด้านต่างๆ และคำนวณดัชนีภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาส 1/2567 และคาดการณ์ไตรมาส 2/2567 พร้อมประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม และมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่คนอีสานต้องการให้รัฐบาลเร่งทำให้เห็นผลโดยเร็ว ซึ่งผลการสำรวจพบว่าคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลยังนำพรรคเพื่อไทยในอีสาน

ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างตอบข้อถามที่ว่า ถ้าเลือกตั้ง สส.วันนี้มีแนวโน้มจะลงคะแนน สส.บัญชีรายชื่อให้พรรคใด พบว่าคะแนนของพรรคก้าวไกล เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.1 เป็นร้อยละ 47.4 ขณะที่คะแนนของพรรคเพื่อไทย ลดลงจากร้อยละ 45.7  เหลือร้อยละ 40.7, พรรคภูมิใจไทย ลดลงจากร้อยละ 4.7 เหลือร้อยละ 2.4, พรรครวมไทยสร้างชาติ ลดลงจากร้อยละ 5.6 เหลือร้อยละ 1.9, ไทยสร้างไทย ลดลงจากร้อยละ 1.7  เหลือร้อยละ 1.5,  พลังประชารัฐ ลดลงจากร้อยละ 1.2 เหลือ ร้อยละ 0.7, ประชาธิปัตย์ ลดลงจากร้อยละ 1.1 เหลือร้อยละ 0.5, เสรีรวมไทย ลดลงจากร้อยละ 1.1 เหลือร้อยละ 0.4 และอื่นๆ ลดลงจากร้อยละ 1.2 เป็นร้อยละ 0.6 ขณะที่มีผู้ตอบว่ายังไม่มีพรรคที่ถูกใจร้อยละ 3.9.