ปชป.ท้าเปิดชื่อใครจ้องร่วมรบ.

นายกฯ ย้ำฝ่ายค้านบางพรรคดอดคุยขอร่วมรัฐบาล เย้ยไม่รับเพิ่ม 314 เสียงแน่นแล้ว ยัน รมต. 1 เก้าอี้ยังเป็นโควตา พปชร. ไม่มีเดดไลน์ พร้อมเมื่อไหร่เสนอมา "จุรินทร์” ฟาดจิตใต้สำนึก “เศรษฐา” เปรียบฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา รำคาญเสียงประชาชน "ชัยชนะ" ท้าเปิดชื่อใครจ้องผสมพันธุ์ โวยโดนวางยา

ที่รัฐสภา วันที่ 4 เมษายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีที่ยืนยันกลางสภาวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นรัฐบาลตัวจริงเสียงจริง ว่ายืนยัน เพราะมีการพูดและตั้งคำถามมาว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงหรือไม่ ซึ่งตนยืนอยู่ตรงนี้ และพูดจริงเสียงจริง ยืนยันทำจริง และเชื่อว่าหากดูอย่างเป็นธรรมจริงๆ แล้ว เอาแต่เรื่องที่เราได้ทำมาทำเพื่อประชาชน  ไม่อยากให้ไปพูดอะไรกันมากมาย

ส่วนที่ฝ่ายค้านอภิปรายเน้นเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ นั้น  นายเศรษฐากล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้วหลายหนเหมือนกัน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจหรือการดึงดูดนักลงทุน เขตการค้าเสรี (FTA) และต้องไปบอกเขาว่าประเทศไทยเปิดแล้ว อันนี้มีความมั่นใจและสบายใจ อย่างที่บอกการจะลงทุนเป็นแสนๆ ล้าน แม้แต่การตัดสินใจซื้อบ้าน 3-5 ล้านบาท ยังตัดสินใจอยู่ตั้งหลายเดือนใช่ไหม ใจเขาใจเรา เงินเขาเงินเรา ต้องพิจารณาให้รอบคอบ บางประเภท บางธุรกิจ เป็นธุรกิจใหม่ ต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลที่ค่อนข้างมาก มั่นใจภายใน 2 ปีข้างหน้านี้จะได้เห็นการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย

เมื่อถามถึงกรณีที่ชี้แจงในสภาถึงฝ่ายค้านว่า วันหนึ่งค้าน อีกวันขอร่วมรัฐบาล แสดงว่ามีพรรคฝ่ายค้านมาเจรจาขอร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าต้องมีบ้าง แต่เขาคงไม่พูดกับผมหรอก เพราะผมพูดตลอดเวลา โดยส่วนตัว 314 เสียงแน่นแล้ว  และเราเองก็ทำงานกันได้ดี ส่วนจะไปคุยอะไรกับใครก็เป็นเรื่องของเขาไป แต่ว่ามันมีแน่นอน” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการพูดคุยกันจริงจะรับเพิ่มหรือไม่ นายเศรษฐา หัวเราะในลำคอพร้อมกล่าวว่า "ผมว่าไม่  อย่างที่บอก 314 เสียงก็ชัดเจนอยู่แล้ว"

นายกฯ กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ได้ย้ายทำเนียบรัฐบาลมาที่สภา นัดประชุมทำงานที่นี่ มีหลายๆ หน่วยงานที่มาพูดคุย และวันนี้จะมีรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาด้วย

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องวินิจฉัยปมคุณสมบัติต้องห้ามความเป็นรัฐมนตรีของนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้ดู เดี๋ยววันนี้จะเจอพรรค พปชร. คงมีโอกาสได้พูดคุย

เมื่อถามว่า หากพรรค พปชร.ขอโควตาเดิมมา นายเศรษฐากล่าวว่า พรรค พปชร.ไม่ต้องขอ เพราะเป็นโควตาของพรรค พปชร.อยู่แล้ว หากรายชื่อและการตรวจสอบถูกต้องตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ เป็นโควตาของพรรค พปชร.ชัดเจน

เมื่อถามย้ำว่า มีเดดไลน์ให้พรรค พปชร.หรือไม่ว่าต้องมีคำตอบให้เมื่อไหร่  นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเดดไลน์ เป็นสิทธิ์ของ พปชร. อยู่ด้วยกันต้องเคารพกันหมด เมื่อไหร่ที่ พปชร.คิดว่าพร้อม มีบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมเสนอมา เรายินดีอยู่แล้ว

ทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรกว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย  ถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในส่วนของประชาธิปัตย์เอง ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ มี สส.ใหม่หลายคนที่อภิปรายทำหน้าที่ได้ดี

ส่วนกรณีนายกฯ เปรียบฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ บางวันเป็นฝ่ายค้าน บางวันขอร่วมรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า "ความจริงเรื่องแมลงหวี่มันสะท้อนจิตใต้สำนึกรัฐบาลเทวดาเหมือนกันว่ารำคาญเสียงประชาชน ถ้าผมเป็นนายกฯ จะไม่เทียบกับแมลงหวี่ มันไม่ได้บวก มันเข้าตัวรัฐบาล เข้าตัวนายกฯ  เพราะแปลว่ารำคาญเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อันนี้ประชาธิปไตยเทวดา ไม่ใช่ประชาธิปไตยตัวจริง"

เมื่อถามว่า นายเศรษฐายังเหน็บว่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ขอไปร่วมรัฐบาล  นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อสักครู่มีคนให้สัมภาษณ์แล้วไม่ใช่หรือว่าเสียงพอแล้ว จะเป็นรัฐบาลเท่านี้ จำคำพูดของตัวเองไว้ด้วย

เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนวันนี้หากมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล จะไม่ร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของตนในสภาเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร นายกฯ ต้องจำคำพูดตัวเองไว้ด้วยในสิ่งที่พูดไป ส่วนมองว่าเป็นการวางยาอะไรหรือไม่ที่มีการปล่อยข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาลก่อนการอภิปรายนั้น ไม่ขอวิจารณ์ แต่สิ่งที่นายกฯ พูดเผยให้เห็นตัวไอ้โม่งว่ามาจากไหนอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงต้องย้ำให้นายกฯ จำคำพูดตัวเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ธรรมดา พูดอะไรไปก็ต้องจำ

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ บอกว่าฝ่ายค้านอยากร่วมรัฐบาลขอให้ระบุมาเลยว่าใคร พรรคไหนอย่างไร อย่าพูดลอยๆ นายกฯ เป็นผู้นำประเทศ ต้องมีวุฒิภาวะ การที่จะออกมาพูดกับสังคม และให้สังคมเชื่อถือต้องบอกว่าเป็นใคร การอภิปรายของฝ่ายค้านตามมาตรา 152 เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะวิจารณ์หรือแนะนำรัฐบาล สิ่งที่นายกฯ กระทำคือควรฟัง และนำไปแก้ไขจุดที่บกพร่อง แต่ถ้าจะทำตัวเป็นซูเปอร์แมนที่ไม่ฟังใคร คิดว่าคงจะบริหารประเทศไม่ได้

ส่วนที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ขอเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ข่าวคือข่าว ซึ่งเป็นการคาดเดาเหมือนกับหมอดูที่ทำนาย ยังไม่ทราบเลยว่าข่าวนี้มีความเป็นมาอย่างไร และที่บอกว่าประชาธิปัตย์ปล่อยข่าวเองนั้น  อยากจะถามว่าจะปล่อยมาเพื่ออะไร ซึ่งการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ทำหน้าที่ได้ดีทุกคน

เมื่อถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้าน และเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราพูดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และข่าวนี้ออกมาก่อนที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 152 ต้องถามว่าออกข่าวอย่างนี้มาเพื่ออะไร ซึ่งต้องมองในเรื่องของการเมืองด้วย ทั้งนี้ ตนเป็นคนหนึ่งที่มีชื่ออยู่ในข่าว ยังไม่รู้เลยว่ามีชื่อออกมาได้อย่างไร

ส่วนมองว่าเป็นการวางยาพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายชัยชนะกล่าวว่า คิดได้ทั้งหมด อาจจะถูกวางยา หรืออาจจะรับงานจากใครก็ได้ หรืออาจมาจากผู้ประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายก็ได้ ยืนยันว่า 25 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ยังรักกันดี ผูกพันสามัคคี และจะมีความสามัคคีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 ครั้งนี้ ดูเหมือนจะแตะเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีน้อยเกินไป จะเก็บไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในสมัยหน้าใช่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ขอให้ติดตามการอภิปราย ซึ่งวันนี้เป็นการทำหน้าที่ตามมาตรา 152 ส่วนการอภิปรายในการประชุมสภาสมัยหน้าที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 151 นั้น  จะเข้มข้นแน่นอน.