หมายจับ!โจ๊กมอบตัว ลั่นบริสุทธิ์ประกันสู้คดีไม่หวั่นหลุดเก้าอี้/บิ๊กต่ายยังแทงกั๊ก

"โจ๊ก" ดิ้นไม่หลุด ศาลอาญาออกหมายจับ เหตุมีหลักฐานเชื่อกระทำผิด ชี้ชัดคดีเป็นอำนาจศาลอาญา ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียก หลัง บช.น.ยื่นขอออกหมายเรียกฐานฟอกเงิน 3 ครั้ง "กิตติ์รัฐ"   กำชับตำรวจ สอท.นำเครื่องมือทันสมัยปราบเว็บพนัน ยันใครผิดไม่เอาไว้  "ทนายตั้ม" แจ้งความดำเนินคดีเพจ "พระจันทร์ ลายกระต่าย" ใส่ร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวบัญชีม้า ขณะที่ "ทนายอั๋น"   พา "เสี่ยตี๋" แฉคลิปเสียงบัญชีม้าถูก  "ทนายตั้ม" พาไปพักเซฟเฮาส์            

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เดินทางมายื่นคำร้องขอออกหมายจับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกัน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5, 9, 10

จากการสืบสวนสอบสวนเส้นเงินที่เชื่อมจากคดีที่ สน.เตาปูน ได้เคยขออนุมัติหมายจับคดีเว็บการพนันที่ 4543-4547/2566 ของศาลอาญาไว้แล้ว ต่อมาได้จับกุมตัวผู้ต้องหาบางคนได้  และมีนางพิมพ์ (ชื่อสมมติ) เป็นผู้จัดการเว็บ BNK Master ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยื่นขอออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งศาลอนุญาตออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย เเยกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย เเละพลเรือน 1 ราย ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ออกหมายเรียกก่อน จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการออกหมายเรียกทั้งหมด 3 ครั้ง เเต่ยังไม่สามารถส่งหมายเรียกถึงรอง ผบ.ตร.ได้ ในวันนี้จึงเดินทางมาขอออกหมายจับในช่วงเช้า

มีรายงานว่า ภายหลังมีการยื่นขอออกหมายจับในช่วงเช้า ทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เรื่องขอชี้เเจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหากมีการยื่นคำร้องขอออกหมายจับ

โดยชี้เเจงสรุปความว่า พ.ต.ท.คริษฐ์มีการทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษช่วยรับคดีอาญาที่ 391/2566 สน.เตาปูนเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมทั้งส่งพยานหลักฐานให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวมีการดำเนินคดี พ.ต.ท.คริษฐ์ ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงินเกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ซึ่งมีเงินหมุนเวียนเกิน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายกำหนดไว้ และเป็นอำนาจการสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นการดำเนินคดีอาญาซ้ำกับคดีอาญาที่ 724/พ.ศ.2566 ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วและเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และกรมตรวจสอบคดีพิเศษได้รับไว้ดำเนินการเป็นเรื่องสืบสวนที่ 37/ 2567 อยู่ในความรับผิดชอบของกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญารับคำชี้เเจงไว้พิจารณา

ศาลอนุมัติหมายจับ 'โจ๊ก'

ต่อมาเวลา 16.00 น.เศษ ศาลอาญาพิจารณาคำร้องพร้อมไต่สวนเเล้วอนุญาตให้ออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จากนั้นเวลา 16.40  น. ที่บริเวณประตูข้างศาลอาญา พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.สายไหม ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดี BNK Master เปิดเผยว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป หมายจับของตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อย หากพบตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็สามารถจับกุมได้ทันที

มีรายงานว่า ศาลให้เหตุผลในการออกหมายจับว่า พยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนในคดีดำเนินการรวบรวมมาเสนอต่อศาลในวันนี้ มีหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ และเป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนในคดีนี้สามารถดำเนินการได้ ประกอบกับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาในคดีมีความพยายามในการหลบเลี่ยง การแสดงตัวกับพนักงานสอบสวน หลังจากพนักงานสอบสวนมีการอนุมัติหมายเรียกถึง 3 ครั้ง รวมถึงคดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา จึงเป็นสาเหตุให้ศาลอาญามีคำสั่งอนุมัติหมายจับ และขณะนี้ในคณะทำงานมีการติดตามตัวพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยจะนำหมายจับเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อนำเรียนผู้บังคับบัญชาและบังคับใช้หมายต่อไป

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เดินทางมา สน.เตาปูน ด้วยรถยนต์ โดยจอดหน้าสถานีตำรวจ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึง ทีมตำรวจติดตามได้ย้ายรถไปจอดด้านหลัง สน.เตาปูน  และขอความร่วมมืองดบันทึกภาพ

จากนั้นเวลา 18.20 น. พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย และ พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาคดีมินนี่ และเป็นนายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมาถึง สน.เตาปูน ทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้พบพนักงานสอบสวนอยู่ที่ห้องสอบสวนชั้น 1 ของ สน.เตาปูน ทั้งนี้พบว่ามีนายตำรวจประมาณเกือบ 10 นาย ยืนดูแลความเรียบร้อยบริเวณรอบห้องพนักงานสอบสวน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ

กระทั่งเวลา 20.10 น. ภายหลังที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เข้ามอบตัวข้อหาสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ใช้เวลาในการให้ปากคำกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง

 โดยเมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้ปากคำเสร็จ รถของรอง ผบ.ตร.มาจอดเทียบบริเวณทางขึ้น-ลง ผู้สื่อข่าวกรูเข้าสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า วันนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ยืนยันไม่ได้กังวลใดๆ เมื่อศาลออกหมายจับก็มามอบตัว และประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

 เมื่อถามว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตอบว่า เป็นรายละเอียดในสำนวนไม่ขอพูด 

เมื่อย้ำว่า มั่นใจหรือไม่ในการที่จะต่อสู้คดี รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า วันนี้ต้องบอกว่าอยู่ในขั้นตอนการกล่าวหา เพราะฉะนั้นในระบบกระบวนการยุติธรรมไทย เมื่ออยู่ในขั้นตอนการกล่าวหา ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ วันนี้กระบวนการเพิ่งเริ่มต้น ความจริงแล้วตนออกหมายเรียกมานานแล้ว เมื่อศาลออกหมายจับเราก็ต้องยอมรับมาต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม

 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าได้ปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่า ไม่มี พิมพ์ไปตามปกติ เมื่อศาลออกหมายจับก็ต้องยอมรับดำเนินการไปตามกระบวนการนั้น ทั้งนี้ไม่ได้กังวล ทำงานไปตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กลัวหลุดจากตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ตอบ แล้วขึ้นรถตู้เดินทางกลับทันที

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้กำชับให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นคร บัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ดำเนินการปราบปรามแก๊งพนันออนไลน์ Call Center Fake News รายใหญ่ โดยขีดเส้นให้มีผลเป็นรูปธรรมภายใน 30 วันว่า ได้ให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ฯ เร่งรัดข้อสั่งการตามที่นายกฯ ได้กำชับเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามกำหนดที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้   พร้อมให้ สอท.นำเครื่องมือทันสมัยที่สามารถตรวจสอบเรื่องเว็บไซต์มาใช้เพื่อให้เกิดการจับกุมที่จริงจัง พร้อมยืนยันว่าหากพบใครที่เกี่ยวข้อง ตนรับรองว่าไม่เอาไว้

เมื่อถามว่า หากครบ 30 วันยังไม่มีความชัดเจน จะมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ต้องให้เวลาผู้ปฏิบัติงาน เพราะนายกฯ พูดว่าผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์คน ฉะนั้นขอให้ดูกันไป

เมื่อถามว่า ตำรวจหนักใจหรือไม่หากต้องมีการออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุว่า   เขากำลังดำเนินการตามกฎหมายอยู่ ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ ส่วนหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่มาพบกับพนักงานสอบสวน ก็ต้องทำเรื่องเสนอไปยังศาล แล้วแต่ศาลจะพิจารณาไปทางใด ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการ

สำหรับกรณีที่ทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ส่งพยานหลักฐานมาให้กับรรท.ผบ.ตร.แล้วนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนเมื่อวันที่ 25 มีนาคม โดยจะนำเรื่องไปรวม และขณะนี้ตนให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอยู่ โดยกระบวนการพิจารณาเพื่อความรอบคอบ ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบพิจารณาและเสนอแนะขึ้นมา

เมื่อถามว่า ทางตำรวจจะพิจารณาเองหรือส่งเรื่องให้กับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูในรายละเอียดข้อเท็จจริงทางกฎหมาย และเสนอกลับมาให้ตนพิจารณา เรื่องนี้อยู่ที่พนักงานสอบสวนสืบสวน แต่ถึงอย่างไรตอนนี้อำนาจหน้าที่อยู่ที่พนักงานสืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ฉะนั้นขอเวลาเขาให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ แต่หากเป็นกฎหมายของ ป.ป.ช. มีเวลา 30 วันซึ่งทันอยู่แล้ว

ทนายตั้มแจ้งความเพจดัง

ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด  หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเพจพระจันทร์ ลายกระต่าย v2 และ v3 ในความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการนำคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของนายณัฐพงศ์ ซึ่งเป็นบัญชีม้าที่ตนแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อวานนี้ พูดกล่าวอ้างหาว่าถูกทนายตั้มพามาอยู่ที่เซฟเฮาส์

นายษิทรากล่าวว่า ทั้ง 2 เพจเอาคลิปเสียงดังกล่าวมาลง โดยอ้างว่าเป็นคลิปเสียงของนายณัฐพงศ์ พร้อมกล่าวหาว่าตนเป็นคนพานายณัฐพงศ์มาอยู่ที่เซฟเฮาส์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนไม่มีเซฟเฮาส์ตามที่กล่าวอ้าง และไม่รู้จักนายณัฐพงศ์ อีกทั้งนายณัฐพงศ์เป็นญาติกับดาบยาว ซึ่งเป็นฝั่งที่ถูกตนเองดำเนินคดี ถือเป็นคนละฝั่ง ถ้าตนนำไปไว้ที่เซฟเฮาส์ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว  ทำไมถึงไม่แจ้งความดำเนินคดีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวตั้งแต่ตอนนั้น ตนยังได้มีโอกาสพูดคุยกับคนทำงานกับนายณัฐพงศ์ ซึ่งยืนยันว่าเสียงในคลิปไม่ใช่เสียงของนายณัฐพงศ์ พร้อมเชิญสื่อมวลชนให้ไปตรวจสอบที่บ้านของนายณัฐพงศ์และพ่อแม่ของนายณัฐพงศ์ได้เลย

ทนายตั้มยังกล่าวท้าทายไปยังบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนายณัฐพงศ์และทนายความที่พามาด้วยในช่วงบ่ายวันนี้ว่า ให้แจ้งความดำเนินคดีกับตนเองไปเลยในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่ใช่มากล่าวหาลอยๆ ทั้งสองเพจดังกล่าวเป็นเพจตำรวจที่ต้องการดิสเครดิตตน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีบิ๊กตำรวจใหญ่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ตนทราบแค่ว่าคลิปเสียงดังกล่าวยังนำไปลงในเพจนายอัจฉริยะอีกด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด

"ผมเป็นเพียงแค่ทนายความ ไม่ใช่มาเฟีย ไม่ได้มีเซฟเฮาส์ที่จะไปกักขังหน่วงเหนี่ยวใครเป็นเดือนๆ ส่วนคลิปเสียงแฉเรื่องส่วยคาราโอเกะที่ผมได้ลงไปก่อนหน้านี้นั้น ถ้าหากว่ามีคนไม่เชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริงๆ หรือเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงที่ทำขึ้น ก็มาแจ้งความจับผมได้เลย" นายษิทรากล่าว 

ขณะเดียวกัน ที่ สน.เตาปูน นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ พานายธนกฤต หรือเสี่ยตี๋ บุคคลที่ให้ข้อมูลคลิปเสียงสนทนาของนายธนพล หรือ ดาบโจ หนึ่งในบัญชีม้าเครือข่ายเว็บ พนัน น.ส.พิมพ์วิไล ที่อ้างว่าถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำตัวไปพักที่เซฟเฮาส์ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชน และเข้าแจ้งความนายธนพล ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินฯ เพราะนายธนพลถือเป็นพยานคนสำคัญที่สามารถนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้าสู่สำนวนคดีฟ้องร้อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.

โดยทนายอั๋นกล่าวถึงกรณีทนายตั้ม บอกว่าคลิปเสียงดังกล่าวไม่ใช่เสียงของ นายณัฐพงศ์นั้น ตนยอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดและพิมพ์ชื่อผิดจากชื่อนายธนพลเป็นนายณัฐพงศ์ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่มองว่าทนายตั้ม มีปฏิกิริยากับเรื่องดังกล่าว จึงออกมาแจ้งความ หากนายธนพลอยู่ที่เซฟเฮาส์ ทนายตั้มจริง ทำไมทนายตั้มถึงไม่นำตัวนายธนพลออกมาให้ข้อมูล แต่คงไม่แจ้งความจับทนายตั้มในฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว เพราะนายธนพลอาจไปอยู่เซฟเฮาส์ด้วยความสมัครใจ ทั้งนี้ นายธนพลเป็นบัญชีม้าที่รับเงินจาก น.ส.พิมพ์วิไล ก่อนจะโอนเงินให้นายณัฐพงศ์ 2 ยอด จำนวน 800,000 บาท กับ 300,000 บาท ที่ทนายตั้มเคยนำข้อมูลมาเปิดเผยในวันแถลงข่าว

ทนายอั๋นกล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเส้นทางการเงินทั้งหมด 38 เส้น ที่ตอนนี้เปิดเผยมาเพียงแค่ 2 เส้น ต้องการให้บัญชีม้าทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนบิ๊กตำรวจทั้ง 2 นาย ยืนยันว่าตนไม่ได้สนใจ แต่มองว่าการกระทำของทั้ง 2  คนไม่สง่างาม จึงเรียกร้องให้ทั้ง 2 คน ลาออก โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างลูกผู้ชาย

ด้านนายธนกฤตเปิดเผยว่า ต้องการให้สังคมรู้พฤติกรรมของทนายตั้ม ซึ่งคลิปเสียงดังกล่าวเป็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายธนพลพูดคุยระบายความในใจกับตำรวจ ป. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนเองเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกนำตัวไปไว้ที่เซฟเฮาส์ และกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะขายข้อมูลให้กับทนายตั้ม เพื่อเปิดโปงเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยเป็นคลิปที่บันทึกจากการสนทนาจริงเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ก่อนที่นาย ป. จะส่งคลิปเสียงดังกล่าว มาให้กับตน พร้อมเปิดแชตไลน์ที่นายธนพลพูดคุยกับนาย ป. ซึ่งบอกว่าหากอยู่เฉยๆ ในเซฟเฮาส์คงไม่รอด ไม่ปลอดภัย ขอให้สื่อมวลชนช่วยจับตาเรื่องความปลอดภัยของนายธนพลหลังจากนี้ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง