ชงกาสิโนเข้าครม.สัปดาห์หน้า

“คลัง” ดีเดย์สัปดาห์หน้าชงกาสิโนเข้า ครม. ตั้งเป้าเป็น Entertainment Complex ดึงเอกชนลงทุนแสนล้านบาท เล็งผุดคณะกรรมการ 2 ชุดดูแล ปัดล็อกสเปกปักหมุดอู่ตะเภา แจงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ฝันดึงดิสนีย์แลนด์-ยูนิเวอร์แซลผุดฮอลคอนเสิร์ตร่วมลงขันได้ "อนุทิน" ยันกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์-เศรษฐกิจ และบรรจุในนโยบายรัฐบาลแล้ว แจง "นายกฯ" หลังให้สัมภาษณ์สื่อฝรั่งเศสสร้างความเสียหายให้คนไทย ชี้หากเปลี่ยนแปลงต้องแก้ กม.หลายตัว-มติ ป.ป.ส.ชุดใหญ่-เยียวยาผู้ทำถูกต้อง

เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เปิดเผยว่า คลังจะเสนอรายงานการศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะมีการถกเถียงหรือมีข้อสั่งการเพิ่มเติมอย่างไร และจะมอบหมายให้หน่วยงานใดรับผิดชอบโครงการเพื่อมาลงในรายละเอียด โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่จะมาเป็นตัวกำกับเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไป

 “เท่าที่ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบกับ ครม.ก็พบว่าหลัก ๆ มีสัญญาณที่ดี ส่วนร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นเพียงการขึ้นโครงไว้ว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อ จะต้องปรับแก้อะไรบ้าง โดยเฉพาะกฎหมายลูกที่เกี่ยวเนื่อง และสุดท้ายกลไกของกฎหมายจะต้องส่งกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อแปร” นายจุลพันธ์กล่าว

นายจุลพันธ์กล่าวว่า กมธ.ได้ให้ข้อเสนอว่าจำเป็นจะต้องมีหน่วยงานแยกออกมาเพื่อดูแล Entertainment Complex โดยเป็น 2 ระดับ คือ 1.ระดับคณะกรรมการดูแลนโยบาย ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีและ ครม.หลายคนร่วมด้วย เพื่อดูแลในเรื่องการบริหาร และ 2.คณะกรรมการระดับส่วนราชการ แต่จะไม่ใช่องค์กรอิสระมากำกับดูแล

ส่วนกระแสข่าวลือที่ระบุว่า มีการล็อกสเปกพื้นที่อู่ตะเภาเพื่อสร้าง Entertainment Complex นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่พูดกันไปคิดกันไปเอง นั่งคิดนั่งฝันกันไป แล้วมีคนไปลงทุนซื้อที่ซื้ออะไร มองว่าอาจจะโดนหลอกหมด โดยยืนยันตั้งแต่ครั้งแรกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ และรัฐบาลไม่ได้มีการล็อกสเปกพื้นที่ เพราะสุดท้ายต้องรอกลไกของกฎหมายทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าได้ และตอนนี้กลไกทั้งหมดยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ

"คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในการพัฒนา Entertainment Complex ต่อแห่งไม่น่าจะต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนรายได้ตอบแทน เมื่อเทียบกับสิงคโปร์ที่แต่ละปีรัฐบาลสิงคโปร์จะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีและรายได้ในรูปแบบอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ไทยเองไม่ได้มีจุดที่ด้อยกว่า โดยรัฐบาลมองว่าการลงทุนที่จะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นการสร้างงาน สร้างเงิน สร้างรายได้ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละเลยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสังคม"

รมช.คลังกล่าวอีกว่า รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบในการจัดตั้งทั้งหมดยังไม่มี เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ  แต่เบื้องต้นมองว่า Entertainment Complex เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ ก็น่าจะมีโอกาสที่จะเปิดให้เป็นการลงทุนในรูปแบบบริษัท จำกัด (มหาชน) เพราะต่างประเทศก็เป็นรูปแบบดังกล่าวและอยู่ในตลาดทุนขนาดใหญ่ทั้งนั้น ส่วนจะเป็นการลงทุนจากนักลงทุนไทยหรือนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ความเหมาะสม แต่ว่าถ้าผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับผ่านการลงทุน ที่จะคืนมาในรูปแบบภาษีต่างๆ ถ้าคุ้มรัฐบาลก็พร้อมจะพิจารณาทั้งหมด

 “ประเด็นสำคัญคือ การให้ใบอนุญาตหรือไลเซนส์จะต้องโปร่งใสและยุติธรรม โดยจะเป็นกาสิโนไม่เกิน 5% ของพื้นที่ ส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวประเภทอื่นๆ เพื่อดึงดูดคนเข้ามา เรื่องนี้ประเทศไทยพูดกันมา 30-40 ปีแล้ว แต่ไม่เคยเดินหน้า และการยกร่างกฎหมายก็ต้องมีกลไกในการกำกับหลายอย่าง เช่น เรื่องกองทุนที่จะมาเยียวยา การพัฒนาการศึกษา การช่วยเหลือพัฒนาชุมชนในพื้นที่ กลไกกำกับในเรื่องการสร้างข้อจำกัดในการเข้าถึง เช่น บุคคลที่อาจจะไม่มีความพร้อมในด้านการเงิน ที่ไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าไปเล่น ตรวจดูเรื่องรายได้การเสียภาษี หรือมีการเก็บค่าเข้าสำหรับคนในประเทศ เช่น สิงคโปร์เก็บค่าเข้า 4-5 พันบาทต่อคนต่อวัน และยังมีกลไกกำหนดว่า ครอบครัวสามารถส่งเรื่องเข้ามาเพื่อที่จะยับยั้งการเข้าไปเล่นของคนในครอบครัวได้ด้วย” รมช.การคลังระบุ

นอกจากนี้ มองว่าปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีสถานที่จัดงานที่มีความพร้อม เช่นก่อนหน้านี้ไทยมีคอนเสิร์ต Bruno Mars ในสังคมโซเชียลของไทยมีการพูดกันเยอะว่า  สถานที่จัดงานยังไม่มีความพร้อม ตรงนี้อาจถึงจุดที่สามารถบอกได้ว่าไทยจำเป็นต้องทำ Entertainment Complex แต่ต้องมีการพัฒนาประกอบเข้ามาด้วย เช่น อาจจะพัฒนาเป็น Indoor Stadium ขนาดใหญ่ ความจุ 5-6 หมื่นคน และอาจจะต้องกำหนดว่าในพื้นที่ดังกล่าวต้องมีธีมปาร์ก มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ต้องมีดิสนีย์แลนด์ ต้องเป็นยูนิเวอร์แซล ทุกอย่างทำได้หมด เหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาประเทศ ดึงดูดการท่องเที่ยวและการลงทุนออมสินมาใช้

ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านสำนักข่าว FRANCE 24 ของประเทศฝรั่งเศส ตอนหนึ่งว่า ...จะนำกัญชาให้กลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด โดยมองว่าสร้างความเสียหายให้คนไทยมากกว่าจะมีผลดีทางเศรษฐกิจ ว่า ตนยังไม่ได้อ่านแต่มีคนส่งไลน์มาให้ดู ซึ่งตนคิดว่าการรายงานข่าวครั้งนี้อาจจะต้องมีการถอดเทปดูอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายกัญชาเพื่อทางการแพทย์ เศรษฐกิจ และใช้เพื่อวิจัยพัฒนา อยู่ในนโยบายที่นายกฯ ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ซึ่งถือว่ามีความชัดเจน

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนตัวเคยมีนโยบายเรื่องนี้มาก่อน ตั้งแต่ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็เห็นด้วยทุกอย่างจึงออกมาเป็นนโยบายในรัฐบาลชุดนี้ได้ และเมื่อได้ชี้แจงต่อรัฐสภา ก็เท่ากับเป็นการชี้แจงให้กับประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อย ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของนโยบาย อาจจะต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆที่มีผลบังคับใช้ อาทิ กฎกระทรวงสาธารณสุข ประกาศจากกรมการแพทย์แผนไทย ที่ระบุถึงการใช้กัญชาอย่างถูกวิธี บัญชีการใช้ยาหลักแห่งชาติ ได้บรรจุยาที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชาอยู่ในบัญชียาหลักแล้ว มติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ชุดใหญ่ รวมถึงอาจจะต้องเยียวยาผู้ที่ใช้ กฎระเบียบกฎหมายเหล่านั้น ทั้งการปลูก การลงทุน และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายต่างๆ ฉะนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย อาจจะต้องเริ่มจากการแก้ไขกฎหมายซึ่งจะมีอีกหลายขั้นตอน

เมื่อถามว่า หากเรื่องที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อเป็นความจริง นายอนุทินจะรู้สึกอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึง Entertainment Complex นายอนุทินกล่าวว่า ในด้านของนโยบายตนก็ทำตามหัวหน้ารัฐบาล แล้วตอนนี้ตนก็ไม่ได้กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่ขอยืนยันว่ากัญชงกัญชา ถ้าใช้อย่างถูกวิธีมีประโยชน์ และเพิ่มค่าทางเศรษฐกิจได้ มีคนได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการสร้างผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชามากมาย อย่างเช่นประเทศเยอรมนี และอีกหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ และเขาก็ยอมรับในการใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ ไม่ได้ใช้ในเชิงสันทนาการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!

"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย

‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา

กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ

เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน

‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’

ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ