‘โจ๊ก’บี้ส่งสำนวนให้ป.ป.ช. ‘ตั้ม’แจ้งความบิ๊กต่อ-เมีย

มาเป็นชุด! "บิ๊กโจ๊ก” ส่งทนายดิ้นสู้หมายจับ ร้องคัดค้านพนักงานสอบสวนเตาปูนไม่มีอำนาจสอบสวน ให้ส่งเรื่องไป ป.ป.ช. ยื่นหนังสือถึง รรท.ผบ.ตร.ให้ตำรวจคายสำนวนคดีบีเอ็นเค ด้าน "ทนายตั้ม” แจ้งความดำเนินคดี "บิ๊กต่อ-ภรรยา-บัญชีม้า" ร่วมกันฟอกเงิน ยันมีหลักฐานเอาผิดได้

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงกรณีการออกหมายเรียกครั้งที่ 3 ว่า ไม่ตอบ ให้ทนายตอบไป วันนี้มาทำงานก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เช่นนี้เป็นการรับรู้หมายเรียกดังกล่าวแล้วใช่หรือไม่ แต่รอง ผบ.ตร.ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามย้ำว่าอย่างนี้จะไปรายงานตัวหรือไม่ ก็ยังไม่ตอบคำถามเช่นเคย โดยบอกเพียงว่าขอทำงานก่อน เมื่อถามอีกว่ากังวลเรื่องหมายจับหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ก็ให้ทนายเขาว่าไป

ที่ สน.เตาปูน นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้ายื่นหนังสือถึง ผกก.สน.เตาปูน คัดค้านพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเค ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะคดีอยู่ในความผิดชอบของ ป.ป.ช.แล้ว

นายณัฐวิชช์เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้ยื่นหนังสือถึง ผกก.สน.เตาปูน เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เคยยื่นหนังสือไว้แล้วมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีความประสงค์จะยื่นต่อคณะพนักงานสอบสวน เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ที่เป็นข้อสำคัญหลักๆ ในเรื่องนี้ รอง ผบ.ตร.รวมถึงทีมทนายความยืนยันว่าเรื่องที่ สน.เตาปูน อำนาจการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่ สน.เตาปูน แล้ว

"เรื่องนี้อำนาจการสอบสวนอยู่ที่ ป.ป.ช. เมื่อไม่มีอำนาจในการสอบสวนหรือดำเนินการเรื่องนี้ รวมถึงไม่มีอำนาจในการออกหมายเรียก ออกหมายจับ แต่ก็มีการปล่อยข่าวทางสื่อมวลชนในทำนองว่าจะออกหมายเรียก ออกหมายจับเพื่อให้เข้าสู่เงื่อนไขต่างๆ นานา ยืนยันอีกครั้งว่าที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เป็นกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีเส้นเงินเข้าไปถึงบุคคลใกล้ชิด ผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่มีเส้นเงินส่วนไหนไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และภรรยา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจะดำเนินคดีกับท่านในเรื่องนี้"

เขากล่าวว่า ถ้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีความผิดฐานฟอกเงิน ก็ต้องรู้ว่าเงินที่มาเกี่ยวพันกับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เป็นเงินจากเว็บพนัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนจับกุมทั่วราชอาณาจักร หากบอกว่าเส้นเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีที่  พ.ต.ท.คริษฐ์ถือใช้เป็นเงินที่มาจากเว็บพนัน และมีส่วนพัวพันกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หาก รอง ผบ.ตร.รู้แล้วไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านต้องมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นด้วย ยังไงก็มีความผิดตามฐาน 157  อยู่แล้ว แต่คณะพนักงานสอบสวนทำไมเลือกเอาเฉพาะความผิดในเรื่องฟอกเงินเหตุ ที่เป็นอย่างนี้เพราะเอาคดีไว้กับตัวแล้วก็ดำเนินการเอง

"หากเป็นความผิดต่อเจ้าหน้าที่ในระดับสูง และระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระดับพลตำรวจเอกอำนาจอยู่ที่ ป.ป.ช. เมื่ออำนาจอยู่ที่ ป.ป.ช. แล้วพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้น และต้องดำเนินการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ภายในเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ถึงปัจจุบันนี้ 120 กว่าวันแล้วไม่มีการส่งไปที่ ป.ป.ช."

ทนายความผู้นี้ยืนยันว่า ที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปทำนองว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หลีกเลี่ยงในการรับหมายเรียก  หลักการต้องมาก่อน การส่งหมายเรียกต้องส่งให้ผู้ถูกออกหมาย ต้องส่งให้กับตัวเขา แต่ครั้งแรกก็รู้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ปฏิบัติหน้าที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนครั้งอื่นก็ใช้ชีวิตปกติธรรมดา ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในส่วนตัวและเรื่องการงานโดยเปิดเผยมาโดยตลอด ไม่ได้มีพฤติการณ์เลี่ยงเพื่อไม่รับหมายเรียก แต่มีข้อมูลออกมายังสื่อสารมวลชนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หลีกเลี่ยง ไม่จริง

 “วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงได้มอบหมายให้ทีมทนายความมายื่นหนังสือยืนยันข้อเท็จจริงว่า พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจในการสอบสวนแล้ว รวมถึงไม่มีอำนาจในการมาออกหมายเรียกหมายจับ และได้มีการทำหนังสือมายื่นกับผู้กำกับ สน.เตาปูน และจากนั้นจะไปยื่นกับ รรท.ผบ.ตร., ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองหัวหน้าชุด ให้เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากขั้นตอนในการสอบสวนที่กำลังทำอยู่” นายณัฐวิชช์กล่าว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายณัฐกร โตสกุล ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เพื่อขอให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 391/2566 ของสถานีตำรวจนครบาลเตาปูนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาตามกฎหมาย โดยมี พ.ต.อ.ณัฏฐ์ บุรณศิริ รอง ผบก.พฐก. ในฐานะเวรอำนวยการเป็นผู้รับหนังสือ

นายณัฐกรเผยว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้เพื่อแจ้งไปยังท่าน ให้มีคำสั่งไปถึงพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้อยู่ให้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. โดยมีหลักฐานสนับสนุนอย่างหนึ่งคือ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ได้มีเอกสารเผยแพร่ข่าวออกมาว่า ดีเอสไอมีความเห็นว่าคดีนี้น่าจะอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. จึงจะมีหนังสือโดยอธิบดีดีเอสไอส่งไปยัง ป.ป.ช.เพื่อสอบถามว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร โดยหนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า หาก ป.ป.ช.มีมติไม่รับและส่งเรื่องกลับมาที่ดีเอสไอ ทางดีเอสไอก็จะดำเนินการไปตามหน้าที่และอำนาจของดีเอสไอ

ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม  เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล, ภรรยา และบัญชีม้าอีก 2 คน ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

โดยก่อนเข้าแจ้งความนายษิทราเปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร., ภรรยา และบัญชีม้าอีก 2 คนในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน โดยได้มีการเตรียมหลักฐานที่ได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว และเส้นเงินเพื่อมามอบให้พนักงานสอบสวน ยืนยันว่าวันนี้ดำเนินคดีไม่ได้แจ้งความเป็นหลักฐาน  ดำเนินคดีจริง โดยหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นชุดเดียวกับที่มอบให้พนักงานสอบสวนที่ บก.ปปป. จำนวน 175 แผ่น

ผู้สื่ข่าวถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ถอนฟ้อง เขาตอบว่าที่ถอนฟ้องคงเป็นเพราะว่ากลัวว่าตนจะไปขอสเตทเมนต์คนในครอบครัวออกมา เดี๋ยววันนี้เสร็จจากที่โรงพักก็จะไปที่ศาล เพื่อขอคัดคำฟ้องว่ามีอะไรที่เป็นเท็จหรือเปล่า ถ้ามีอะไรที่เป็นเท็จจะต้องมีการดำเนินการต่อไป โดยวันนี้แจ้งฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ส่วนข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบยังไม่ได้แจ้ง ถ้าเกิดแจ้งข้อหา 157 เลยเรื่องจะไปที่ ป.ป.ช.เลย

ส่วนหลักฐานที่มอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เรื่องเส้นเงินได้ให้การกับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว และนัดพยานน่าจะวันพุธหรือวันพฤหัสบดีนี้ไปให้ปากคำ นอกจากนี้กำลังจะประสานกับ น.ส.พิมพ์วิไลและสายลับไปให้การ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เมื่อถามต่อว่า จะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยหรือไม่ เขาตอบว่า ไม่เป็นไร ถ้าเอาตำรวจมาดูแลตนยิ่งกลัว

ภายหลังนายษิทราเข้าให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวนเสร็จสิ้น ได้ออกมาเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบถามว่าจะให้รวมคดีนี้เป็นสำนวนเดียวกับคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เลยหรือไม่ ตนจึงได้บอกให้นำไปรวมเป็นคดีเดียวกันด้วย ซึ่งอีกประมาณ 2-3 วันจะเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง