เม.ย.ชงครม.ลุยแจกหมื่น ตรึงค่าไฟงวดใหม่4.18บ.

“เศรษฐา” นั่งหัวโต๊ะดิจิทัลวอลเล็ต ถามหา “ผู้ว่าฯ ธปท.” กลางวง เหตุติดภารกิจต่างประเทศ สั่งหาแหล่งเงิน ย้ำสอดคล้องสถานการณ์  ชอบด้วยกฎหมาย รอฟังข่าวดี 10 เม.ย.  ก่อนชง ครม. คลังเปิด 3 ทางหา 5 แสนล้าน กกพ.เคาะตรึงค่าไฟงวดใหม่ เดือน พ.ค.-ส.ค. เก็บเท่าเดิม 4.18 บาทต่อหน่วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27  มีนาคม เวลา 11.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital  Wallet ครั้งที่ 2/2567 โดยในที่ประชุมช่วงต้น นายกฯ ได้มองหานายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมสอบถามว่า "ท่านผู้ว่าฯ ติดภารกิจหรือครับ" ทำให้นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ  ธปท. ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน  กล่าวตอบว่า “ท่านผู้ว่าฯ ติดภารกิจไปต่างประเทศ”

นายเศรษฐากล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาการเจริญเติบโตต่ำกว่าศักยภาพเป็นเวลายาวนาน และเผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการฟื้นตัวของรายได้ของประชาชนที่ไม่เท่ากันหลังสถานการณ์โควิด-19 และภาระดอกเบี้ยที่ยังสูงตลอดเวลา ดังนั้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ขอเน้นย้ำ โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการระยะสั้นที่จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่น ผ่านประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์และผู้ประกอบการร้านค้า ดังนั้นการดำเนินงานในขอบเขตที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจในปัจจุบัน ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ดังนั้นควรถูกขับเคลื่อนและผลักดันเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

 “วันนี้ในการประชุม ผมเห็นว่าควรพิจารณาทางเลือกแหล่งเงินที่จะใช้ในโครงการ และมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินโครงการ ไปพิจารณาจัดทำรายละเอียดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเป็นไปตามข้อพึงระวังหรือความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมา ผมขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินโครงการเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยกระบวนการต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และที่สำคัญการใช้อำนาจต่างๆ ในการดำเนินการโครงการนี้ จะต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์และสุจริต รอบคอบและระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนโดยรวม ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด” นายกฯ ระบุ

ภายหลังการประชุมประมาณครึ่งชั่วโมง นายเศรษฐาแถลงว่า กระทรวงการคลังได้เสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกเหนือจากการออกพระราชบัญญัติเงินกู้ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปดำเนินการ รวมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์สรุปหลักเกณฑ์ร้านค้าและสินค้า พร้อมมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบอร์ดรัฐบาลดิจิทัล สรุปการพัฒนาระบบและการจัดทำในลักษณะเปิด หรือ Open loop เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วางกรอบการตรวจสอบ วินิจฉัยร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืน โดยให้หน่วยงานทั้งหมดรายงานที่ประชุมในวันที่ 10 เม.ย.

 “วันที่ 10 เม.ย. ได้ข้อสรุปทั้งหมด  และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือน เม.ย. ยืนยันกรอบไทม์ไลน์ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง แถลง โดย 1.ไตรมาสที่ 3 ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน 2.ไตรมาสที่ 4 เงินถึงมือประชาชน ซึ่งที่ประชุมวันนี้ทุกภาคส่วนเห็นด้วยหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ว่าการ ธปท. เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด ฉะนั้นเดี๋ยวคอยฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย.” นายเศรษฐา ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในโครงการดังกล่าวในการจ่ายเงิน นอกจากกู้เงินแล้วยังหาส่วนอื่นมาด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "วันที่ 10 เม.ย.ครับ"

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  กล่าวว่า ผู้ว่าการ ธปท.ไม่ได้เข้าประชุม  แต่มอบตัวแทนมาประชุม ซึ่งได้รับฟังสิ่งที่มีการเสนอ มีการพิจารณา และให้ความเห็นชอบกับสิ่งที่เราดำเนินการอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าหลังจากนี้ผู้ว่าการ ธปท.จะไม่เห็นต่างอีก เพราะไม่ได้เข้าประชุมในครั้งนี้ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ความมั่นใจในเรื่องคนอื่น ตนคงตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งที่แล้วผู้ว่าการ ธปท.มา และระบุว่าอยากจะนำเอกสารความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  และกฤษฎีกา ไปศึกษาอย่างละเอียด  ทางฝ่ายเลขานุการได้เตรียมเอกสารและส่งมอบไปแล้ว ซึ่งผู้ว่าฯ ศึกษาโดยละเอียด แต่ในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงรายละเอียดเหล่านี้ มีเพียงมีการนำรายงานฉบับจริงของ ป.ป.ช.เข้ามารับทราบในที่ประชุม

เมื่อถามว่า ในวันที่ 10 เม.ย. ไม่ว่าผู้ว่าการ ธปท.จะมีความเห็นอย่างไร หรือคัดค้าน รัฐบาลจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราเดินหน้าอยู่แล้ว รับฟังความคิดเห็นทุกคน ทุกฝ่าย เราไม่ปัดความเห็นใดๆ และที่ประชุมครั้งนี้ก็มีความชัดเจน เราจะเดินหน้า ขอให้พี่น้องประชาชนรอรับฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย.

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปหาข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้ ที่มีวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยขณะนี้มี 3 แนวทางที่เป็นไปได้ แนวทางแรกคือ การใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการอย่างเดียว ซึ่งเป็นแนวทางเดิมที่ได้มีการหารือกันมาก่อนหน้านี้ 

แนวทางที่สองคือ การใช้งบประมาณเข้ามาใช้ในโครงการนี้ ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้โครงการนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถที่จะดำเนินการได้ โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนวงเงินในการจัดทำงบปี 2568 เงื่อนไขตรงนี้ที่ผ่านมาไม่มีมาก่อน แต่ขณะนี้มีทางเลือกในการใช้งบปี 2568 เป็นทางเลือกเพิ่มเติม และแนวทางที่ 3 คือการใช้ผสมกันระหว่างเงินกู้กับเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจทำได้หากมีความเหมาะสม

ทั้งนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา ต้องดูว่าแหล่งเงินใดมีความเหมาะสมในสถานการณ์ขณะนี้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดจะได้ความชัดเจนในวันที่ 10 เม.ย.นี้ โดยจะมีการแถลงให้ประชาชนรับทราบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง

วันเดียวกัน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กกพ.มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม- สิงหาคม 2567 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วยแล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ.ได้เปิดรับฟังความเห็นผลการคำนวณค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 8- 22 มีนาคม 2567 โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นจำนวนทั้งสิ้น 147 ความเห็น แบ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อค่าเอฟทีตามกรณีศึกษาที่ กกพ.เสนอ รวมทั้งสิ้น 61 ความเห็น แสดงความเห็นโดยเสนอค่าเอฟทีอื่นๆ นอกเหนือจากกรณีศึกษารวม 50 ความเห็น และความเห็นในลักษณะข้อซักถามหรือคำถามอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับค่าเอฟทีจำนวน 36 ความเห็น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!

"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย

‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา

กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ

เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน

‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’

ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ

1ประเทศ2นายกฯ ระวังจบซ้ำรอยเดิม?

มีหลายส่วนในสังคม คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พ้นโทษออกมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ทำตัวเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของรัฐบาล