พปชร.ปักธงภาคใต้เพิ่ม หลักสี่กองเชียร์ปะทะวุ่น

"ธรรมนัส" หวังปักธงภาคใต้เพิ่ม ส.ส.เข้าพรรค โวนโยบาย พปชร.จับต้องได้มากที่สุด จ้องดึงคนรุ่นใหม่เข้าร่วม "เมียสิระ" ไปไหว้ "ย่าโม" ขอกำลังใจให้เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว เหน็บชายอกสามศอกแข็งขันอย่างสุภาพบุรุษ “สุรชาติ” ประเดิมลุยตลาดเคหะทุ่งสองห้อง ขณะกลุ่มแฟนคลับปะทะคารมกลุ่มเชียร์ “นายกฯ” แต่ไร้เหตุวุ่นวาย "ไทยศรีวิไลย์" ขอแจมส่งอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธรรมไทยลงแข่งด้วย

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความนิยมของพรรค พปชร.หลังจากลงพื้นพบปะประชาชนมาหลายพื้นที่เป็นอย่างไรว่า เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครตอบได้ดีเท่าตน เพราะตนคลุกคลีกับชาวบ้านตั้งแต่ในช่วงที่เป็นรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบันที่คลุกกับชาวบ้านตลอด ซึ่งความนิยมนโยบายของพรรคนั้น เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จับต้องได้มากที่สุด โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเรียกว่าบัตรประชารัฐ เป็นโครงการที่ประชาชนชอบ และมีความสุขกับโครงการนี้ กล้าพูดได้ 100% ว่า นโยบายของพรรค พปชร.จับต้องได้เยอะที่สุด ไม่ใช่นโยบายขายฝัน

เมื่อถามว่าภาพจำของพรรคพลังประชารัฐจะเน้นที่ภาคไหน ร.อ.ธรรมนัส​ กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 62 ภาคเหนือตอนบน และเหนือตอนล่าง เรามี ส.ส.เขต 26 คน ภาคอีสาน 13 คน ภาคใต้ 14 คน ที่เหลือเป็นภาคกลางและ กทม. ซึ่งจะเห็นว่า ส.ส.ของพรรคเป็นการผสมผสานของคนทุกภาค ไม่ใช่เฉพาะภาคใดภาคหนึ่ง ยกตัวอย่างความนิยมของพรรคเพื่อไทยภาคเหนือตอนบน อีสาน

ถามว่า​ พื้นที่ที่คิดว่าเจาะยากคือภาคใต้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ภาคใต้เป็นการช่วงชิงระหว่าง 3 พรรคคือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ และการเลือกตั้งสมัยหน้าจะไม่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเราทำการบ้านมาตลอดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถชนะการเลือกตั้งได้เยอะที่สุด โดยเฟ้นหาคนที่สามารถดูแลจังหวัดแต่ละจังหวัดที่มีความเข้มแข็ง เช่น จ.ระนอง ที่ไม่มี ส.ส.แต่มี ส.จ.เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ และจังหวัดที่มีนายก อบจ.เป็นของเรา การเลือก อบต.ครั้งที่ผ่านมาเราชนะกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ จ.พังงาไม่มี ส.ส.เป็นของเรา แต่สามารถชนะการลือกตั้ง อบต.ได้เยอะ ซึ่งเราสนับสนุน และพวกเขาก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานีก็มีนายก อบจ.ที่คอยดูแลการเมืองให้เราอยู่ จ.นราธิวาส เรามีคนทำงานที่แข็ง และล่าสุดได้เปิดพื้นที่ จ.พัทลุง มีตระกูลธรรมเพชรมาอยู่กับเราหมด

"ดังนั้นการเมืองใน 14 จังหวัดภาคใต้ ในครั้งหน้า เรามีความคาดหวัง แต่จะได้มากได้น้อยดูอีกที โดยภาคใต้ได้วางกลยุทธ์หรือตัวผู้สมัครแทบจะครบ 100 เปอร์เซ็นต์"

เมื่อถามถึงความพร้อมในการเลือกตั้งปี 2565 ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตอนนี้ศึกภายในจะต้องหยุดก่อน ต้องมองศึกการเลือกตั้งแล้ว เพราะระยะเวลาไม่เกิน 15 เดือนจากนี้คือระยะเวลาแห่งการเตรียมตัวเลือกตั้ง

ส่วนงานในสภาตั้งแต่เปิดสภามาพรรคพลังประชารัฐ 95 เปอร์เซ็นต์ที่พวกเราโหวต พรรคเราแทบไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเหมือนกับพลังประชารัฐ​ แต่พรรคอื่นเราไม่มีวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่น่าจะเป็นไปได้​ แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เชื่อมั่นว่าพรรคที่จะมี ส.ส.ของตัวเองเหลือไม่กี่พรรค แต่จะมีแค่พรรคขนาดกลางและขนาดใหญ่

เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวด้วยว่า ในแต่ละจังหวัดหรือแม้แต่ใน กทม.ที่ถือเป็นเมืองสำคัญของคนรุ่นใหม่ หัวหน้าพรรคได้สั่งการว่าให้ทำอย่างไร เพื่อดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม และตอนนี้กำลังทำอยู่ โดยใน กทม.โครงสร้างทำไว้หมดแล้ว​ ยังไม่ได้เริ่มสตาร์ท จะอบรมคนรุ่นใหม่ว่าจะให้เข้ามามีกิจกรรมส่วนร่วมกับเรา โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ร้อยละ 90 เป็นคนรุ่นใหม่ทั้งนั้น ส่วนข้อสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้าคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ พรรคทุกพรรคก็เตรียมไว้ นโยบายต่างๆ เรามีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ใช่เวลามาเปิดตัวตอนนี้ ของดีเอาไว้ขายใกล้ๆ เลือกตั้ง และยังไม่ได้มีชื่อบิ๊กเนมเกี่ยวกับเรื่องนี้

วันเดียวกัน นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ของพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อกราบสักการะท้าวสุรนารี หรือย่าโม โดยนางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาที่ จ.นครราชสีมา เพื่อมากราบขอขวัญกำลังใจให้ทำงานได้สำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะตลอดการทำงานของตนจะยึดย่าโมเป็นต้นแบบ ในเรื่องของจิตใจที่เด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง และไม่ย่อท้อเมื่อเจอกับอุปสรรค ที่สำคัญท่านคือบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู้เมือง

"สนามเลือกตั้งในครั้งนี้ ดิฉันเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่มั่นใจว่าความตั้งใจของดิฉันไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกคนไหนแน่นอน รวมไปถึงการทำพื้นที่ดูแลชาวบ้านอย่างเข้มแข็ง ลุยเต็มที่เมื่อเจอกับปัญหาและอุปสรรค ขอฝากไปยังผู้สมัครรายอื่นๆ ให้ลงแข่งขันอย่างสุภาพบุรุษ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีน้ำใจนักกีฬาด้วย"

นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า เชื่อว่าได้ดูแลทุกครัวเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง ในสถานการณ์วิกฤตเราอยู่ต่อสู้เคียงข้างกันมาโดยตลอด จึงเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวหลักสี่-จตุจักร จะให้โอกาสตนได้เข้ามาดูแลและพัฒนาพื้นที่ต่อไป ตนขอกำลังใจและโอกาสจากชาวหลักสี่-จตจักรทุกท่าน เลือกเราเป็นตัวแทนในการทำงานและเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนในสภาให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างถึงที่สุด

นางสรัลรัศมิ์เปิดเผยถึงการทำหน้าที่ต่อของนายสิระ เจนจาคะ สามีที่พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ว่า ตอนนี้นายสิระมีกำลังใจที่ดี มีชาวบ้านเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุทางการเมืองเท่านั้น โดยนายสิระมีความตั้งใจจะช่วยเหลือทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติต่อไป ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งเป็น ส.ส. เชื่อว่ายังสามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคมได้ ทั้งนี้เชื่อว่าสิ่งที่ตนกับนายสิระทำมานั่งอยู่ในใจชาวหลักสี่-จตุจักรแน่น จึงไม่มีความกังวลใด ๆ เลย

ด้านนายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขต 9 ของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดการเคหะทุ่งสองห้อง เพื่อแนะนำตัวกับประชาชนเป็นครั้งแรก หลังเปิดตัวเป็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย โดยนายสุรชาติเปิดเผยว่า กลยุทธ์ในการหาเสียงครั้งนี้คือการไม่มีกลยุทธ์ ใช้ความจริงใจและการทุ่มเทให้คนในพื้นที่ตลอด 17 ปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทว่าตัวเองนั้นไม่ได้มาอยู่กับประชาชนแค่ช่วงที่มีการเลือกตั้ง แต่ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ยังทำงานเพื่อคนในพื้นที่มาทุกสถานการณ์ ส่วนการแก้ปัญหาให้คนในเขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักรนั้น จะมุ่งไปที่การแก้ปัญหาระบบราชการให้เข้าถึงและเชื่อมโยงกับประชาชนให้มากขึ้น

นายสุรชาติกล่าวถึงการทำงานการเมืองในระยะเวลาที่เหลือของระบบรัฐสภาว่า ระยะหลังมีเหตุการณ์สภาล่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งส่วนตัวต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่จะไม่ทำให้ประชาชนสิ้นหวังกับระบบรัฐสภา และอยากสามารถมีส่วนร่วมในการผลักดันนโยบายต่างๆ ในปีงบประมาณหน้า

“การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่การหาเสียง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าผลแพ้ชนะ มากกว่าการใส่สูทเข้าสภา แต่เป็นการพิสูจน์ชีวิตและสิ่งที่ทำมาทั้งหมดที่ทุ่มเทให้กับประชาชน และเป็นการพิสูจน์อุดมการณ์คำว่าผู้แทนราษฎร และเป็นก้าวสำคัญที่สุดในชีวิต หากได้เข้าไปทำงานในสภา ก็จะทุ่มเททั้งชีวิตทำงานให้ประชาชน” นายสุรชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการลงพื้นที่มีประชาชนให้การต้อนรับ นำดอกไม้มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่มีกลุ่มแฟนคลับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาปะทะคารมกับคนที่มาให้กำลังใจนายสุรชาติ แม้มีการโต้เถียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 ว่า กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์มีมติส่งนายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธรรมไทย ซึ่งลงเลือกตั้งในเขตนี้ จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับชาวหลักสี่และจตุจักร เพราะนายรุ่งโรจน์ถือเป็นลูกหลานในพื้นที่ จากประวัติการศึกษาที่เรียนอยู่ในสถาบันศึกษาในละแวกนั้น และมีประสบการณ์ทางการเมืองมาพอสมควร รวมทั้งตนกล้ายืนยันได้ว่าหากนายรุ่งโรจน์ได้รับเลือกเป็น ส.ส.แล้วจะไม่มีปัญหาอื่นใดให้ต้องมาตีความ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องการคนดีมีความรู้ความสามารถมาดูแลประชาชน โดยกันคนที่ไม่มีความเหมาะสมออกไปจากวงการเมือง ซึ่งนายรุ่งโรจน์ไม่มีประวัติด่างพร้อย และมีประสบการณ์ทางการเมืองพอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง