เอเอฟพี ๐ เจ้าหญิงแคทเธอรีนทรงประกาศว่าพระองค์เป็นมะเร็ง และอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรักษาด้วยเคมีบำบัด พร้อมขอเวลาและความเป็นส่วนตัวในระหว่างนี้ หลังมีกระแสข่าวลือการประชวรในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังฯ เผยพระองค์ยังไม่พร้อมที่จะกลับไปปฏิบัติพระกรณียกิจใดๆ จนกว่าจะผ่านพ้นเทศกาลอีสเตอร์ 31 มี.ค.นี้
แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงประกาศพระอาการประชวรด้วยโรคมะเร็ง ในแถลงการณ์ผ่านวิดีโอซึ่งถ่ายทำที่พระราชวังวินด์เซอร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม (Photo by Handout / BBC STUDIOS / AFP)
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ว่า แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงประกาศว่าพระองค์ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็ง และกำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลืออย่างหนักว่าพระองค์ทรงพระประชวร เพราะทรงไม่ได้ปฏิบัติพระกรณียกิจใดๆ และไม่เป็นที่พบเห็นในสาธารณะเป็นเวลานาน และท้ายที่สุดพระองค์ก็สยบข่าวลือด้วยพระองค์เอง
เจ้าหญิงแคทเธอรีนตรัสว่า คณะแพทย์ค้นพบมะเร็งหลังจากพระองค์เข้ารับการผ่าตัดช่องท้องในเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมาก แต่พระองค์ก็ยังสบายดีและแข็งแรงขึ้นทุกวัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สำนักพระราชวังบักกิงแฮมก็เพิ่งประกาศว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงรับการรักษาด้วยโรคมะเร็ง ส่งผลให้ต้องยกเลิกพระราชกรณียกิจทั้งหมด
และการค้นพบมะเร็งในสมาชิกราชวงศ์อีกครั้ง ได้สร้างความกังวลต่อประชาชนทั้งในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก แต่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้นแล้ว ตรัสว่าพระองค์ภูมิใจในตัวแคทเธอรีนมาก สำหรับความกล้าหาญในการประกาศการเป็นมะเร็งด้วยตัวเอง ท่ามกลางกำลังใจและข้อความสนับสนุนมากมายจากคนทั้งโลก ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร, ประธานาธิบดีสหรัฐ และครอบครัวของเจ้าชายแฮร์รี ที่ปรารถนาให้เจ้าหญิงแคทเธอรีนมีพระพลานามัยที่ดีและหายจากโรคโดยเร็ว
เช่นเดียวกับพระเจ้าชาร์ลส์ เจ้าหญิงเคททรงไม่ได้ตรัสถึงพระอาการประชวรว่าเกิดจากมะเร็งชนิดใด
พระองค์ตรัสว่า ช่วงหลายเดือนนับตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อต่อตัวพระองค์, พระสวามี และโอรสธิดาทั้งสาม
"ในเดือนมกราคม ข้าพเจ้าได้รับการผ่าตัดช่องท้องครั้งใหญ่ในลอนดอน และในเวลานั้น ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ใช่อาการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง" เจ้าหญิงเคทตรัสเสริมในแถลงการณ์ผ่านวิดีโอ ซึ่งถ่ายทำเมื่อวันพุธที่พระราชวังวินด์เซอร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน
"การผ่าตัดประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ผลการตรวจหลังการผ่าตัดพบเจอมะเร็ง คณะแพทย์จึงแนะนำให้ข้าพเจ้าเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดเชิงป้องกัน และตอนนี้ข้าพเจ้ายังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรักษานั้น" เจ้าหญิงเคทตรัส พร้อมทิ้งท้ายว่า พระองค์ต้องใช้เวลานานทีเดียวในการอธิบายสถานการณ์ให้เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์ มั่นใจว่าพระองค์ทรงสบายดี
สำนักพระราชวังบักกิงแฮมคาดหวังว่า การเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมานี้จะยุติการคาดเดาและข่าวลือเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกออนไลน์
ทั้งนี้ มีผู้พบเห็นเจ้าหญิงแคทเธอรีนครั้งสุดท้ายในพิธีโบสถ์วันคริสต์มาสเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พร้อมกับพระเจ้าชาร์ลส์และสมาชิกราชวงศ์อาวุโสอีกหลายท่าน
เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังฯ กล่าวว่า เจ้าหญิงแคทเธอรีนยังไม่พร้อมที่จะกลับไปปฏิบัติพระกรณียกิจใดๆ จนกว่าจะผ่านพ้นเทศกาลอีสเตอร์ในวันที่ 31 มีนาคมนี้
ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่เมืองมอนเตซิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์หลังรับทราบข่าวเจ้าหญิงเคทประชวรด้วยโรคมะเร็งว่า "พวกเราปรารถนาให้เคทสุขภาพแข็งแรง และส่งกำลังใจให้เคทและครอบครัว อีกทั้งหวังว่าพวกเขาจะสามารถมีความเป็นส่วนตัวและได้อยู่อย่างสงบ"
ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ก็ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง โดยระบุว่า ข้าพเจ้าขอส่งความเป็นห่วงถึงเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชวงศ์ และโดยเฉพาะพระโอรส-พระธิดาทั้งสามพระองค์ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
เจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้รับความรักและการสนับสนุนจากคนทั้งประเทศในขณะที่พระองค์ยังทรงรักษาพระวรกาย พระองค์ได้แสดงความกล้าหาญอย่างมากจากพระดำรัสในวันนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พระองค์ถูกจับจ้องอย่างเข้มงวด และได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมจากสื่อบางส่วนทั่วโลกและบนโซเชียลมีเดีย เมื่อพูดถึงเรื่องพระพลานามัย
ดังนั้น เช่นเดียวกับคนอื่นๆ พระองค์จะต้องทรงได้รับความเป็นส่วนตัว เพื่อมุ่งเน้นไปที่การรักษาและอยู่กับครอบครัวที่รักของพระองค์
ข้าพเจ้าขอกล่าวแทนคนทั้งประเทศในการอวยพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววันและเต็มที่ และหวังว่าจะได้เห็นพระองค์กลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจอีกครั้ง
ชิวาน ซิวากุมาร์ รองศาสตราจารย์ด้านเนื้องอกวิทยาจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ กล่าวว่า การให้เคมีบำบัดเชิงป้องกันเกิดขึ้นเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่หมุนเวียนอยู่ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
พญ.แครีย์ แอนเดอร์ส ศูนย์มะเร็ง มหาวิทยาลัยดุ๊ก กล่าวว่า การรับเคมีบำบัดจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่เจ้าหญิงแห่งเวลส์จะทรงประกอบพระกรณียกิจบางอย่างในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ปกติแล้วแพทย์อยากให้ผู้ป่วยมีความสดชื่นสดใสในระหว่างการรักษา เพราะมีกระบวนการสนับสนุนมากมายที่จะช่วยลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัด
ส่วน ผศ.พญ.ชีตัล เคอร์เชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยา มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น เผยว่า มีผลการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นผลชัดเจนว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่มีคนดูแลอย่างดี มีกำลังใจจากคนรอบข้าง และได้รับบริการสนับสนุนด้านโภชนาการ นักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะสามารถรับมือและต่อสู้กับมะเร็งได้เป็นอย่างดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทร.บวงสรวง เรือพระที่นั่ง นำลงน้ำ4ก.ค.
สิริมงคล "กองทัพเรือ" บวงสรวงเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค
ไฟเขียวรบ.ก่อหนี้ใหม่ กู้ทะลุ1ล้านล้านบาท
ครม.อนุมัติปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่สอง ปีงบ 67
ครม.สัญจรหนีม็อบ ทุ่มงบเอาใจอีสาน
"เศรษฐา" หลบม็อบเหมืองโปรแตช เปลี่ยนเส้นทางพร้อมเลิกชมนิทรรศการ
กฤษฎีกาเบรกชาญนายกอบจ.
เลขาฯ ป.ป.ช.แจงปมชี้มูล “ชาญ” ทุจริตอยู่ขั้นสืบพยานในชั้นศาล
วุ่น!เลื่อนรับรองสว. กกต.ไม่ทันแห่ร้องฮั้วอื้อ จับตาเลือก‘ปปช.-ตศร.’
"กกต." วุ่น! เจอแห่ร้องเรียนเลือก สว.รายวัน ต้องเพิ่มเวลาตรวจสอบ
ดันไทยสารพัดศูนย์กลาง จับตากวาดล้างยาเสพติด
"เศรษฐา" ร่อนอีสานตีปี๊บโคราชโมเดล มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต