ก่อการร้ายรัสเซียถล่มกว่า100ศพ

มอสโก ๐ ผู้ก่อการร้ายเปิดฉากยิงใส่คอนเสิร์ตฮอลล์แห่งหนึ่งในกรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก อีกทั้งยังลามเป็นไฟเผาอาคารวอด ด้วยฝีมือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ออกมาอ้างความรับผิดชอบ

อาคารแสดงคอนเสิร์ต 'โครคัสซิตี'   กำลังถูกไฟเผาไหม้ หลังเหตุกราดยิงในเมืองครัสโนกรอสค์ นอกกรุงมอสโก   ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 มีนาคม  (Photo by STRINGER / AFP)

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 23  มีนาคม 2567 ว่า เกิดเหตุคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกกราดยิงในคอนเสิร์ตฮอลล์แห่งหนึ่งของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งอาคารถูกเผาวอด

สำนักข่าว RIA Novosti รายงานว่า   กลุ่มคนร้ายซึ่งแต่งกายด้วยชุดลายพรางบุกเข้าไปในอาคาร, เปิดฉากยิง และขว้างระเบิดมือหรือระเบิดเพลิงใส่ฝูงชน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วทั่วอาคารแสดงคอนเสิร์ต 'โครคัสซิตี' ในย่านชานเมืองครัสโนกรอสค์ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก

ผู้ประสบเหตุที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่า ผู้คนต่างกรีดร้องหลังได้ยินเสียงปืน และวิ่งหนีตายอลหม่านท่ามกลางเปลวไฟและควันดำปกคลุมอาคาร

หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 100 คน โดยการบาดเจ็บส่วนใหญ่มาจากการสำลักควันและการเหยียบกันบริเวณทางออกฉุกเฉินของอาคารแสดงคอนเสิร์ต

มิคาอิล มูราชโก รัฐมนตรีสาธารณสุขรัสเซีย กล่าวว่า มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 115 คน รวมถึงเด็ก 5 คน และ 60 คนในจำนวนนี้มีอาการบาดเจ็บสาหัส

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การสอบสวนเหตุการณ์คล้ายก่อการร้ายได้เริ่มขึ้นแล้ว และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังติดตามข้อมูลอัปเดตอย่างต่อเนื่อง

               กองกำลังพิทักษ์ชาติของรัสเซียถูกเรียกมายังที่เกิดเหตุเพื่อตามหาผู้กระทำความผิด ทั้งในอาคารและบริเวณโดยรอบ

ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำถูกเรียกมาช่วยเหลือในการดับไฟ โดยการทิ้งระเบิดน้ำลงบนอาคารขนาดยักษ์ที่จุคนได้หลายพันคน และเป็นที่ต้อนรับศิลปินชั้นนำระดับโลก ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถดับได้ทั้งหมดหลังเที่ยงคืนไม่นาน

มีรายงานเพิ่มเติมว่า คนร้ายจำนวนระหว่าง 2-5 คน ซึ่งสวมเครื่องแบบทางยุทธวิธีและถืออาวุธอัตโนมัติ ได้เปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้าอาคาร จากนั้นจึงเริ่มยิงใส่ฝูงชนในอาคารดังกล่าว หลายคนสามารถหลบหนีออกมาได้ผ่านทางชั้นใต้ดิน ขณะที่บางส่วนหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณที่นั่งติดหลังคา

หลังเกิดเหตุ มีชาวมอสโกจำนวนมากที่ทราบข่าวได้เดินทางมายังอาคารแห่งนี้ เพื่อตามหาเพื่อน, ญาติ และสมาชิกในครอบครัวที่มาชมคอนเสิร์ตและเผชิญเหตุร้าย โดยที่ยังไม่สามารถติดต่อกันได้

ขณะที่คณะกรรมาธิการสอบสวนของรัสเซีย เปิดเผยล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีที่โครคัสซิตีฮอลล์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 93 รายแล้ว และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ยังระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้จุดไฟเผาภายในฮอลล์คอนเสิร์ตที่มีผู้ชมจำนวนมากอยู่ โดยใช้ของเหลวไวไฟ หลังจากเปิดฉากกราดยิง

ตายทะลุร้อยศพ

อย่างไรก็ตาม ช่วงค่ำวันเสาร์ของประเทศไทย พบว่าสื่อต่างประเทศรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทะลุหลัก 100 คนไปแล้ว

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า นี่คือการโจมตีของผู้ก่อการร้ายกระหายเลือด

"ประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมดต้องประณามอาชญากรรมที่น่ารังเกียจนี้" เธอกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประณามการโจมตีดังกล่าว และยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ว่ามีความเชื่อมโยงกับความขัดแย้งในยูเครน

ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว โดยเชื่อว่ารัฐบาลมอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีและสร้างเรื่องเพื่อให้เกิดประเด็นพุ่งเป้ามายังยูเครน

กลุ่ม Freedom of Russia Legion ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนยูเครนและรับผิดชอบการโจมตีบริเวณชายแดนของรัสเซีย ก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการกระทำครั้งนี้เช่นกัน

สหภาพยุโรป, ฝรั่งเศส, สเปน และอิตาลี ออกแถลงการณ์ร่วมกับหลายประเทศประณามเหตุโจมตีดังกล่าว  และเชื่อว่าเป็นการก่อการร้าย

ล่าสุด กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส  ออกแถลงการณ์เสมือนกล่าวอ้างความรับผิดชอบว่า นักรบของกลุ่มได้ลงมือโจมตีสถานที่ที่มีการรวมตัวจำนวนมากในเขตชานเมืองมอสโก จากนั้นได้ถอยกลับไปยังฐานทัพของพวกเขาอย่างปลอดภัย

ที่ผ่านมา มอสโกและเมืองอื่นๆ ของรัสเซียมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์ แต่ก็มีเหตุการณ์หลายครั้งที่ไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมืองที่ชัดเจนเช่นกัน

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐในรัสเซียระบุว่า กำลังติดตามรายงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงที่กำลังวางแผนมุ่งเป้าโจมตีการชุมนุมขนาดใหญ่ในกรุงมอสโก รวมถึงคอนเสิร์ตด้วย

ทั้งนี้ รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และหลังจากนั้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีตามแนวชายแดนโดยกองกำลังต่อต้านรัสเซียมาตลอด

เอเอฟพีรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า กองกำลังรัฐอิสลาม-ISIS ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบดังกล่าว

ISIS กล่าวว่า นักรบของกลุ่มได้โจมตีการรวมตัวกันจำนวนมากในเขตชานเมืองมอสโก และถอยกลับไปที่ฐานของเขาอย่างปลอดภัย

จับกุมผู้ต้องสงสัย

หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลกลางรัสเซีย (FSB) ได้รายงานตรงต่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เกี่ยวกับการจับกุมบุคคล 11 คน ซึ่งรวมถึง 4 คนที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในงานคอนเสิร์ตที่โครคัสซิตีฮอลล์

สมาชิกสภานิติบัญญัติรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ คินช์ทีน เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ขับหลบหนีก่อนจะถูกตำรวจในแคว้นไบรอันสก์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 340 กิโลเมตร สังเกตพบและเรียกให้จอด แต่ผู้สงสัยฝ่าฝืนคำสั่งและขับรถหลบหนีไป จนตำรวจต้องออกไล่ล่าและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ส่วนอีก 2 คนตามจับกุมได้ขณะหลบหนีเข้าป่า

จากการตรวจค้นรถพบปืนพกหนึ่งกระบอก แมกกาซีนปืนไรเฟิล และพาสปอร์ตของประเทศทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียในแถบเอเชียกลาง และเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​ และ ​รมว.การคลัง​ เผยว่า ได้รับรายงานคร่าวๆ ในเบื้องต้นไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ตนได้กำชับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องของอาวุธเถื่อน ปืนเถื่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ  เพราะเรื่องนี้ถือเป็นต้นเหตุ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก แจ้งเตือนคนไทยในกรุงมอสโก เฝ้าระวังสถานการณ์เหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมอสโก แจ้งคนในไทยรัสเซียว่า

1.นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก และผู้ว่าการภูมิภาคมอสโก ได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมทางกีฬาและวัฒนธรรม และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะมีการรวมตัวของคนจำนวนมากทั้งหมดในกรุงมอสโกและเมืองใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุในช่วงสุดสัปดาห์นี้

2.ขอให้ชาวไทยในรัสเซียติดตามประกาศและปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด

3.ในขั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังไม่ได้รับรายงาน/ข้อมูลว่ามีชาวไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

กรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่เบอร์ฉุกเฉิน +7 916 939 2155 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง