ทนาย "บิ๊กโจ๊ก" ตั้งโต๊ะแถลงอีก ยันไม่เกี่ยวเว็บพนัน "บีเอ็นเค" เผยเส้นทางการเงินถึงตำรวจจำนวนมาก ถามกลับตั้งใจปกปิดข้อมูลผู้บังคับบัญชาเป็นวิถี "อินทรีเลือกเหยื่อหรือไม่" แจงเงินกฐินหลวง-ตั๋วเครื่องบิน ป.ป.ช.ไม่เกี่ยวบัญชีม้า ขู่ดำเนินคดีผู้เผยแพร่ 1 ใน 8 ลูกน้องแฉนายพล "ต." เอี่ยวเว็บพนัน ขณะที่ "บิ๊กต่อ" ท้าหากมีหลักฐานตร.รับเงินเว็บพนันระบุมาเลย อย่ากล่าวอ้างเป็นการด้อยค่าทางสังคม เป็นหัวหน้าองค์กรแอ่นอกรับการกระแทก
ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ถนนสุขุมวิท 22 วันที่ 19 มีนาคม นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตั้งโต๊ะแถลงกรณีถูกออกหมายจับคดีเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ที่ สน.เตาปูน ว่าจากการตรวจสอบแล้วไม่มีเส้นทางการเงินไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เลย พร้อมกันนี้นายณัฐวิชช์ได้แสดงผังเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำธุรกรรมให้กับเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าการที่พนักงานสอบสวนไปตั้งเรื่องเป็นอีกคดีหนึ่งที่ สน.เตาปูนพยายามยื่นคำร้องออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเรื่องที่มีการปรากฏในคดีมินนี่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติรับไว้ไต่สวน วันที่ 4 มี.ค.67 ยืนยันอีกครั้งว่าเมื่อมติ ป.ป.ช.รับคดีไว้แล้วอำนาจการสอบสวนไปอยู่ที่ ป.ป.ช. คณะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนต่อ
เส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล ที่ระบุไว้ในคำร้องขอออกหมายจับวันที่ 22 ก.ย.66 ระบุว่ามีเงินหมุนเวียน 600 ล้านบาท ในคดีร้องทุกข์กล่าวโทษ สน.เตาปูน ผู้ร้องทุกข์บอกว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้าน คดีนี้พนักงานสอบสวนบอกว่าเป็นคดีฟอกเงินเป็นคดีใหม่ เฉพาะคดีฟอกเงิน พนักงานสอบสวนชุดนี้มีอำนาจทำหรือไม่ โดยนายณัฐวิชช์ได้เปิดกฎหมายดีเอสไอ ประกาศบัญชีท้ายของประกาศพระราชบัญญัติกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำหนดไว้ว่าคดีที่มีความผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ
จากนั้นนายณัฐวิชช์ได้มีการแสดงเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล จำนวน 34 เส้นทาง โดยเส้นทางที่ 5-31 เป็นการโอนเงินจาก น.ส.พิมพ์วิไล เป็นข้าราชการตำรวจที่เปิดบัญชีรับเงิน เงินวิ่งเข้าตรง รวมแล้วหลายสิบล้านบาท แต่ปรากฏว่ามีการออกหมายจับเฉพาะ คณะพนักงานสอบสวน มีเหตุผลอะไรไม่ออกหมายจับเส้นทางการเงินที่เหลือ เป็นข้อสังเกตมีพฤติกรรมปกปิดอะไรต่อผู้บังคับบัญชาหรือเปล่า เพราะเหตุใดจึงจงใจเอาตรงนี้ให้ได้ ไม่มีวาระอื่นนอกจากจะต้องให้ออกหมายจับให้ได้ จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องมีมลทินให้ได้
นี่คือสาเหตุที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นคำร้องต่อ ผบ.ตร. ให้เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน ส่งไปถึง 3 ครั้ง ผบ.ตร.ไม่มีคำสั่งในเรื่องนี้เลยจนถึงปัจจุบัน แต่กลับมีความพยายามออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้ได้ พยายามออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาให้ได้
"เส้นเงินถูกประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ สามารถอธิบายได้ คณะพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น มีการเลือกเฉพาะเส้นที่จะไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า อินทรีเลือกเหยื่อ ทำไมไม่ทำให้ถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย" นายณัฐวิชช์ กล่าว
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ 1 ใน 8 ลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนันมินนี่ มาในฐานะผู้ต้องหา ได้ขึ้นใช้สิทธิ์ชี้แจงเป็นคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดี สน.เตาปูนหรือไม่ พร้อมย้อนความในคดีว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ใช้บัญชีคนอื่น 6 บัญชี ข้อเท็จจริงนี้อยู่ในสำนวนที่ สน.ทุ่งมหาเมฆแล้ว มีการสอบสวนเจ้าของบัญชีแล้ว แต่กลับมีการนำข้อเท็จจริงเส้นทางการเงินช่วงเดียวกันมีการอ้างว่าสืบสวนขยายผลไปจับกุมจากเส้นเงิน พ.ต.ท.คริษฐ์ ไปสู่การจับกุม สน.เตาปูน
โดยทาง พล.ต.ต.นำเกียรติได้ชี้แจงเส้นทางการเงินโดยใช้ผังของทีมทนายที่แสดงไปก่อนหน้านี้ชี้แจง น.ส.พิมพ์วิไล ที่ถูกจับกุมพร้อม พ.ต.ท.คริษฐ์ โดยบอกว่าเส้นทางการเงินมีมากกว่านี้ โดยเฉาะเส้นที่ 3 นาย ค. จากการข่าวที่ได้รับบัญชีนี้ขยับขับเคลื่อนไป เคยมีการโอนเงินให้กับเครือญาติของผู้บังคับบัญชาระดับสูง นายพล “ต.” ภรรยาอักษรย่อ “ก.” พี่สาวอักษรย่อ “จ.” พี่ชายอักษรย่อ “ช.”
มูลเหตุแห่งการดำเนินคดีพวกตนเชื่อว่าทำงานกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้ตกเป็นผู้ต้องหา มูลเหตุมาจากการที่เคยร่วมงานทำคดีผู้การชลบุรี 140 “เป้รักผู้การเท่าไหร่” เมื่อทำงานไปแล้วมีการข่าวและข้อเท็จจริงปรากฏต่อเราส่วนหนึ่งว่ามีข้าราชการตำรวจที่เป็นผู้ต้องหาบางคนในคดีนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องคือ พ.ต.อ."ด." เมื่อการสืบสวนพบว่ามีเส้นทางการเงินส่วนหนึ่งจาก พ.ต.อ."ด." มีการกระทำน่าเชื่อว่าที่อาจผิดกฎหมาย หลังจากนั้นมีการทำธุรกรรมไปยังคนอื่นอีกหลายคน ส่วนหนึ่งพบว่าเป็นตำรวจ ที่สำคัญข้าราชการส่วนหนึ่ง 2 คน เป็นข้าราชการตำรวจหญิง น.ส."ว." และ น.ส."ก." เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับข้าราชการตำรวจระดับสูง เชื่อว่าจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
นอกจากนี้ นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ชี้แจงกรณีใช้เงินบัญชีทำบุญกฐินหลวงพระราชทานและซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมที่ขอออกหมายจับ พ.ต.ท.คริษฐ์ เข้าตรวจค้นจับกุม พ.ต.ท.คริษฐ์ และได้มีการตรวจยึดเอกสารภายในรถ หนึ่งในนั้นมีการตรวจยึดใบอนุโมทนาบัตรที่ปรากฏรายชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าวถูกนำมาใช้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นบัญชีที่มีการโอนเงินในยอดที่ตรงกับใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าว 2 แสนบาท ไปทำบุญเป็นบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ถือใช้อยู่ เป็นเพราะผู้มีจิตศรัทธาชื่อ น.ส.หลุยส์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้มอบเงินสดส่วนตัวให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ เพื่อนำไปใช้ในการร่วมทำบุญทอดกฐินพระราชทานที่วัดศาลาปูน จึงได้โอนเงินไปให้กับพระอาจารย์วัดศาลาปูน เมื่อวัดได้รับข้อมูลวันเดียวกันคือ 9 ก.ย.65 จึงได้ออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อของผู้ร่วมทำบุญคือ น.ส.หลุยส์ รายการโอนเงิน 2 แสนบาท ไม่เกี่ยวกับใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ส่วนใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ทางเจ้าหน้าที่ยึดไว้ กลับปรากฏว่าใบอนุโมทนาบัตรลงวันที่ 29 ต.ค.65 เป็นวันทอดกฐินพระราชทานที่ รอง ผบ.ตร.เดินทางไปด้วยตัวเองร่วมทำบุญวันดังกล่าว โดยได้มอบเงินสดส่วนตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เองรวมกับเงินที่รวบรวมมาทำบุญให้กับวัดศาลาปูน และวัดศาลาปูนได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในวันดังกล่าว ทนายกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้ปล่อยข้อมูลในสำนวนคดีสอบสวน ตลอดจนผู้เผยแพร่ข้อมูลใบอนุโทนาบัตร
นายณัฐวิชช์กล่าวว่า อีกประเด็นที่น่าเศร้าใจ คือมีความพยายามที่จะบอกว่าที่ พล.ต.อ.ทำอย่างนี้ เป็นความผิด 112 ด้วย ไม่เป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
นายวราชันย์กล่าวต่อว่า ที่มีการกล่าวหาว่ามีการซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเงินจากบัญชีม้าและเชื่อมโยงมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้แลดูเสมือนว่าใกล้ชิดกับสำนักงาน ป.ป.ช. การซื้อตั๋วเครื่องบินเกิดขึ้นวันที่ 11 มี.ค.65 โดยมีการโอนงินจากบัญชีที่เป็นประเด็นให้กับผู้ประกอบการที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดในการซื้อตั๋วเครื่องบิน 13,100 บาท เป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินของ พ.ต.ท.คริษฐ์ กับครอบครัวรวม 3 คน ภรรยาและบุตร จากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่ มีชื่อ พ.ต.ท.คริษฐ์เป็นผู้เดินทางร่วมกับภรรยาและบุตร
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงการออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ออกหมายจับคดีฟอกเงิน เกี่ยวข้องกับเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ ว่า ได้รับรายงานแล้ว และได้ส่งกลับไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิอาญาได้เลย พยายามทำให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย คดีนี้ยังไม่ส่ง ป.ป.ช. เพราะเป็นความผิดส่วนบุคคล ยังไม่ได้พิจารณา หากสอบสวนแล้วเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องส่งไปยัง ป.ป.ช. และวานนี้เห็นหนังสือที่ดีเอสไอส่งมาขอข้อมูล เดี๋ยวขอพิจารณาอีกที
ถามถึงกรณีที่ทีมทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชี้แจงไม่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องและได้มีการเผยว่ามีตำรวจระดับนายพล “ต.” รับเงินจากเว็บพนัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ตอบว่า เส้นทางการเงินเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ สามารถตรวจสอบได้หมด ไม่มีทางที่จะแก้ได้ ตนจะให้ทีมงานรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน
ส่วนที่ทีมทนายกล่าวอ้างว่าบุคคลเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่พนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เจาะจงเลือกแจ้งข้อหากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ผบ.ตร.ตอบว่า เรื่องนี้จะต้องสั่งไปตรวจสอบเรื่องขอร้องเรียนของทีมทนายรองสุรเชษฐ์ ต้องระบุมาเลย ถ้าคิดว่าผิดจริงมั่นใจก็ระบุมาเลย การกล่าวอ้างเขาเรียกว่าการด้อยค่าทางสังคม ไม่ถูก พูดมาเลยใครผิด เส้นทางการเงินเป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์เข้ามากี่เส้นก็จะตรวจสอบ
เมื่อถามถึงประเด็นที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ระบุว่า พ.ต.อ."ด." ระบุว่าทำผิดกฎหมายแล้วโอนไปให้ตำรวจหญิง 2 นาย มีความสัมพันธ์กับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ถามกลับว่า “ด.” ไหน พล.ต.ต.นำเกียรติต้องระบุเลยว่า พ.ต.อ."ด." เป็นใคร ถ้าคิดว่าพยานหลักฐานชัดเจนก็ว่ามาเลย ใครก็กล่าวอ้างได้ ถ้ามันชัดเจนก็ว่ากันไปเลย และไม่เกี่้ยวกับคดีอดีตผู้การชลบุรี 140 และคดีกำนันนก เคยบอกแล้วว่าใครผิดก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีการกลั่นแกล้ง เป็น ผบ.ตร.จะไปกลั่นแกล้งเพื่ออะไร ไม่มีหรอก
“ผมที่เป็นพ่อบ้านอาจจะเป็นกระโถนรองรับขยะทุกอย่างต้องใส่มาในกระโถน ผมอาจจะเปื้อนบ้าง แต่มันกำลังจะให้บ้านสะอาด จะมีอะไรกระแทกมาผมรับหมด เป็นหน้าองค์กรผมแอ่นอกรับ ถ้าผมผิดผมก็แอ่นอกรับ ถ้าผมบริหารราชการไม่ดีผมก็แอ่นอกรับ” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หวั่นไหวหรือไม่กับกระแสที่พยายามโจมตี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ตอบว่า ไม่เคยทุกข์เลย เดี๋ยวมันก็ผ่านไป วันนี้เหลือ 195 วัน นับถอยหลังเป็นวัน ตนทำทุกวันให้มันดีเพื่อองค์กรเพื่อพี่น้องประชาชน ตนกำลังหว่านข้าว หว่านข้าวโพด และต้องได้กินข้าวกินข้าวโพด ตนไม่ได้หว่านไมยราบ ถ้าใครหว่านไมยราบก็รอเหยีบบหนาม นั่นคือสัจธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ