กกต.ชงศาลฯยุบ‘ก้าวไกล’ ยื่นฟัน‘รัชนี พลซื่อ’ยกครัว

กกต.ยื่นคำร้องยุบ "พรรคก้าวไกล" ถึงศาล รธน.แล้ว ลุ้นศาลรับคำร้อง 20 มี.ค.นี้ จัดหนักยกครัว ยื่นศาลอุทธรณ์ฟันใบดำ-ใบแดง "รัชนี พลซื่อ" สส.ร้อยเอ็ด  พปชร. ทุจริตแจกเงินชมรมกำนัน-ผญบ. จูงใจลงคะแนนสมัยเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.ปี 65 พร้อมดำเนินคดีอาญาพ่วงสามี-ลูกชาย "ก้าวไกล" เปิดตัวแคนดิเดตนายก อบจ.เชียงใหม่ "พันธุ์อาจ ชัยรัตน์" อดีต ผอ.สำนักงานนวัตกรรมฯ

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.) ​ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งได้รับมอบหมายจาก กกต.ให้เป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน กกต. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตามพระราชบัญญัติ​ประกอบรัฐธรรมนูญ​  (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) จากเหตุมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา โดยเป็นการยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-filing  ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด

ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง จากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเป็นมติเอกฉันท์ ว่าการที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้น และพรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง 

โดยเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้มีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และสำนักงานฯ ได้ดำเนินการยกร่างคำร้องก่อนที่ กกต.ทั้ง 6 คนจะลงนาม ก่อนยื่นคำร้องในวันนี้ ซึ่งจากนี้ต้องรอดูว่าการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ปกติจะมีการประชุมประจำสัปดาห์ทุกวันพุธนั้น ในวันพุธที่ 20 มี.ค.นี้จะมีคำร้องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ และศาลจะมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยหรือไม่ หากรับจะมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป

วันเดียวกัน เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยของ กกต.ที่มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ร้อยเอ็ด ปี 2565 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง พร้อมดำเนินคดีอาญากับนางรัชนี, นายเอกภาพ พลซื่อ อดีต สส.ซึ่งเป็นสามี และนายเอกรัฐ พลซื่อ บุตรชาย ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (2) ประกอบมาตรา 126 ด้วย

สำหรับสาเหตุที่ กกต.มีมติดังกล่าว เนื่องจากการไต่สวนฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ แทนนายเอกภาพ พลซื่อ ที่ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ต่อมาวันที่ 10 ส.ค. 2565 ซึ่งตรงกับวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วงเวลา 10.00-13.00 น. พยานรวม 17 ปากให้ถ้อยคำยืนยันว่า  นางรัชนี, นายเอกภาพ และนายเอกรัฐ เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นใน 7 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด  คือ อ.เชียงขวัญ อ.ธวัชบุรี อ.ทุ่งเขาหลวง อ.โพธิ์ชัย อ.โพนทอง อ.หนองพอก และ อ.เมยวดี และบุคคลทั้งสามได้มอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้แก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอละ 10,000 บาท

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทางชมรมฯ ไม่ได้ขอรับบริจาคเงินจากฝ่ายการเมือง และขณะร่วมงานนางรัชนีได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่าจะลงสมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด แทนนายเอกภาพ สามีที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และขอฝากตัวในการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ดที่จะมีขึ้นด้วย ส่วนนายเอกภาพก็ได้พูดถึงการถูกเพิกถอนสิทธิ และขอเสียงสนับสนุนให้นางรัชนีได้เป็นนายก อบจ. และในวันที่ 22 ส.ค. 2565 นางรัชนีก็ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งในวันที่ 25 ก.ย. 2565 นางรัชนีได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด

จึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การที่นางรัชนี, นายเอกภาพ และนายเอกรัฐ ได้ให้เงินแก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่จัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นางรัชนี จึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65(2) เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนางรัชนี เกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น  พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง

คดีนี้ที่ กกต.จะยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ คาดว่าจะไม่มีคำขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้นางรัชนีหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 108 วรรค 4 เหมือนกรณียื่นคำร้องเอาผิดผู้บริหารท้องถิ่นอื่น เนื่องจากปัจจุบันนางรัชนีพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดแล้ว และอำนาจสั่งให้ สส.หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีทุจริตเลือกตั้งเป็นอำนาจศาลฎีกา

นอกจากนี้ เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ยังได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.นครศรีธรรมราช พรรคภูมิใจไทย เขตเลือกตั้งที่ 8 ใหม่ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 138 และสั่งให้นางมุกดาวรรณ รับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำสั่ง พร้อมดำเนินคดีอาญานางมุกดาวรรณ, จ.ส.อ. ถาวร แก้วศรีอ่อน และนายวีระศักดิ์ คชเชนทร์ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ คือ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ องค์การมหาชน (NIA) และกรรมาธิการวิสามัญพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือตอนล่าง 1 และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ โดยกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้นายพันธุ์อาจผ่านการคัดเลือกเป็นผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยนายพันธุ์อาจเป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาเอกจาก Aalborg University ประเทศเดนมาร์ก ทำงานคลุกคลีในแวดวงนวัตกรรมมาโดยตลอด โดยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ นายพันธุ์อาจได้พยายามผลักดันแนวคิด Innovation Thailand ผ่าน Innovation for Crafted Living หรือนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น และได้ผลักดันให้ NIA มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง