‘นายกฯ’จ่อถกอีกรอบ เข็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต

เชียงใหม่ ๐ "เศรษฐา" งัวเงียตื่น! ถกนโยบายแจกเงินหมื่นต้นสัปดาห์ ขณะที่ประชาธิปัตย์ยันเตรียม 3 ประเด็นใหญ่   ซักฟอก นักโทษเทวดา ดิจิทัลวอลเล็ต    แต่ก้าวไกลอ้ำอึ้งจะอภิปรายหลักนิติรัฐ   นิติธรรม ความเสมอภาค

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า ได้มีการพูดคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว และช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะพูดให้ฟัง แต่เดี๋ยวคงต้องมีการพูดคุยกับหลายฝ่ายก่อน โดยเฉพาะกับทางสภาพัฒน์ และธนาคารแห่งประเทศไทย

ด้านนายพิทักษ์เดช เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า  เวลาในการอภิปรายจะมีเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนติดตามทวงถาม และมีเรื่องคาใจเกี่ยวกับนโยบายการบริหารงานของรัฐบาลเป็นจำนวนมาก แต่ทางฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำหน้าที่ในการอภิปรายอย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ ประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการอภิปรายนั้น จะมีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆ คือ ในเรื่องของนโยบายที่มีการประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนในคำแถลงนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งนับจากวันแถลงนโยบายในวันที่ 11 ก.ย.2566 จนถึงตอนนี้ ผ่านไป 6 เดือนแล้ว กลับพบว่า นโยบายที่เป็นเรือธงสำคัญอย่างการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น กลับมีความคืบหน้าเพียงแค่ซื้อเวลาเพื่อหาแพะรับบาป และที่ตนย้ำมาตลอดว่าเสียงสะท้อนจากประชาชนจริงๆ นั้น พวกเขาต้องการเงินสดมากกว่าเงินในอากาศ ที่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนกว่าที่จะใช้งานได้จริง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของความเสมอภาค ที่ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนั้น ปรากฏว่าสิ่งที่สังคมรับรู้กันทั่วไปก็คือมีการใช้อำนาจทุกรูปแบบเพื่อเอื้อให้นักโทษคนหนึ่งมีสิทธิพิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งขัดกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศว่า จะดำเนินการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law) ให้เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือ เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางความคิดและสังคมที่สำคัญของประเทศ 

และประเด็นที่สำคัญที่ตนและทางฝ่ายค้านสงสัยมากที่สุดคือ ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เนื่องจากเท่าที่สังเกตก็คือตำแหน่งสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่านายเศรษฐาไม่ได้เป็นคนที่คัดเลือกมาเอง แต่น่าจะเป็นโควตาของบรรดานายใหญ่นายหญิงและนายน้อยภายในพรรค อีกทั้งยังมีข้อครหาว่า การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ต่างๆ นายเศรษฐาน่าจะต้องรอให้ผู้มีอำนาจตัวจริงเป็นคนสั่งการลงมา   จนเป็นที่มาว่าตกลงแล้วประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีกี่คนกันแน่

“ประเด็นเรื่องสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมองว่า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดินออกจากสนามบิน จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น จำเป็นจะต้องได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพราะการปล่อยให้นักโทษตามคำพิพากษาคนหนึ่งมีสิทธิพิเศษเหนือกว่ามนุษย์ จนถูกเรียกเป็นนักโทษเทวดา ถือว่ารัฐบาลเองเป็นผู้สร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำให้กับคนในสังคมที่ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และทำลายหลักนิติรัฐอย่างชัดเจน"

นายพิทักษ์เดชกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศว่า เป็นรัฐบาลที่คิดใหญ่ทำเป็น แต่เห็นว่า บรรดากุนซือเศรษฐกิจของรัฐบาล พยายามสร้างมายาคติให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหา จึงจำเป็นต้องมาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นต้น เพราะฉะนั้นผมจึงอยากเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีช่วยมาตอบคำถามที่ทาง สส.พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายเอาไว้ เพราะถ้าไม่มา หรือมาแล้วแต่ตอบไม่ตรงคำถาม หรือได้คำตอบไม่ชัดเจน    รัฐบาลก็จะต้องรับผลสะท้อนจากประชาชน ด้วยความรู้สึกที่ประชาชนเริ่มไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย

ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์​ว่า ในส่วนของพรรค ขณะนี้ยังไม่ได้ไฟนอล แต่มีราวๆ 40 คน สุดท้ายคงอภิปรายไม่ถึง 40 คน ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายนั้น เป็นประเด็นที่สส.เสนอมาเอง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะเสนอประเด็นอะไรมา แล้วเราก็จะให้เขาเจาะลึกลงไป จากนั้นก็จะเป็นการคัดเลือกในประเด็นที่เขาเสนอว่าควรจะอภิปรายหรือไม่

เมื่อถามว่า คาดว่าจะได้ไฟนอลเมื่อไหร่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า หากเฉพาะหัวข้อตนคิดว่าจะเป็นช่วงหลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระที่ 2 และ 3 เสร็จ

ถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีการอภิปรายเรื่องนายทักษิณ ทางพรรคก้าวไกล​จะอภิปรายเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เรื่องของนายทักษิณเป็นเรื่องของหลักนิติรัฐ นิติธรรม  ความเสมอภาคในการปฏิบัติ เราทุกคนอยากเสมอภาคกัน หากมีก็อาจจะเป็นในแนวทางนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับหนึ่ง‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ยังขลุกขลัก ‘ย้ายทะเบียนบ้าน’ส่อทำเงินกระจุก

เริ่มแล้ว! อย่างเป็นทางการสำหรับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โครงการ เรือธง ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนวันแรก 1 สิงหาคม 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”