‘รมว.กห.’ขึงขัง ลงดาบเลินเล่อ ขู่ห้ามเกิดขึ้นซ้ำ

ผบ.ทร.ให้รอฟังผลสอบ เหตุไฟไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ ยันรู้ผลใน 2-3  วัน เผยอาการผู้บาดเจ็บ 4-5 นายไม่น่าห่วง ถือเป็นความโชคดี กองทัพเรือเปิดรายชื่อทหารเจ็บ 14 นาย “สุทิน” ตำหนิ ประมาทเลินเล่อ ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก  หากผลพิสูจน์พบเจตนา ต้องลงโทษหนัก

จากเหตุการณ์เรือหลวงชลบุรี หมายเลข 331 ได้พลาดทำกระสุนปืน 3 นิ้ว ขนาด 76 มม. ที่ติดตั้งหัวเรือลั่นใส่ท้ายเรือด้านขวาของเรือหลวงคีรีรัฐ หมายเลข 432 ที่จอดอยู่ลำหน้า ระหว่างช่างกรมสรรพาวุธทหารเรือดำเนินการตรวจสอบแก้ไข หลังมีภารกิจฝึกยิงอาวุธในทะเล เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 และมีกระสุนที่ด้านค้างลำกล้อง จึงต้องนำเรือกลับเข้าฝั่งเพื่อดำเนินการแก้ไข ขณะจอดเทียบท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กระสุนได้ทะลุทะลวงทำให้ในตัวเรือได้รับความเสียหายถึง 4 ห้อง

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ขอให้รอผลการสอบสวน เพราะให้เวลา 2-3 วันก็จะรู้ผลแล้ว   ขอให้รอฟัง หากพูดไปตอนนี้จะคลาดเคลื่อน ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บ ตรงนี้ตนไม่ซีเรียสเลย เหลือ 4-5 คนเอง ก็ถือเป็นความโชคดี

เมื่อถามย้ำถึงอาการของผู้บาดเจ็บเป็นอย่างไร ผบ.ทร.บอกว่า ไม่น่าห่วง เป็นการสูดอากาศร้อนและควันเข้าไป โดยในขณะนี้กำลังพลที่มีอาการไม่รุนแรง และอยู่ในระหว่างการพักฟื้นสังเกตอาการ เพื่อรอการพิจารณาจากแพทย์ให้กลับบ้าน จำนวน 9 นาย

ส่วนผู้ป่วยที่เฝ้าระวัง จำนวน 5 นาย คณะแพทย์ได้ส่งการรักษาด้วย HYPERBARIC CHAMBER หรือการบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง โดยในจำนวนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาถอดเครื่องช่วยหายใจ 2 นาย

ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ ยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน ของคณะกรรมการฯ ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการให้ พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยต้นสังกัดและหน่วยเทคนิค เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยให้รายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน ทั้งนี้ กองทัพเรือจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งหมด 14 นาย แพทย์อนุญาตให้กลับแล้ว 8 นาย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามอาการและพักรักษาตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุให้กำลังพลชั้นยศจ่าและพันจ่าได้รับบาดเจ็บรวม 14 นาย คือ จ.ต.ศาสตราวุธ รองตะโหนด อายุ 24 ปี บาดเจ็บจากแรงกระแทก, จ.ท.อภิรักษ์ บุบผาลา อายุ 21 ปี บาดเจ็บจากแรงกระแทกและหูข้างซ้ายอื้อ, จ.ท.พศุตม์ เผ่าพันธ์ อายุ 23 ปี สูดสำลักควันไฟ, จ.อ.จักริน ทองมณี อายุ 22 ปี สูดสำลักควันไฟ ศีรษะกระทบกระเทือน มีแผลหัวคิ้วขวาและแขน, จ.อ.สุรศักดิ์ อาจศิริ อายุ 22 ปี ร่างกระแทกและสูดควันไฟ, จ.อ.วงศธร อารมณ์ อายุ 25 ปี สูดสำลักควันไฟ หูขวาอื้อ ไหลขวาและหลังถูกแรงกระแทก, จ.อ.ตรีเพชร เกิดแย้ม อายุ 25 ปี สูดสำลักควันไฟ และแผลสะเก็ดระเบิด

พ.จ.ต.อดิศักดิ์ ชัยบัวแก้ว อายุ 39 ปี สูดสำลักควันไฟ, พ.จ.ต.ณรงค์ ไชยมูล ควันไฟเข้าตา, พ.จ.อ.วิชิต ชะนุดรัมย์ อายุ 43 ปี สูดสำลักควันไฟ, พ.จ.อ.คงศักดิ์ ธรรมวิฐาน อายุ 45 ปี สูดสำลักควันไฟ มีแผลนิ้วชี้เท้าซ้าย และแผลสันมือซ้าย, พ.จ.อ.สุพจน์ ชะนะเกตุ อายุ 50 ปี บาดแผลโคนนิ้ว หลังใบหู ปีกจมูก และสูดสำลักควันไฟ, พ.จ.อ.สุริญญา นิตย์บุญครอง อายุ 40 ปี การบาดเจ็บจากสูดดม และ พ.จ.อ.ศิวนาภ อยู่สุข อายุ 49 ปี การบาดเจ็บจากสูดดม ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องที่ทางกองทัพเสียใจกับเหตุดังกล่าว ตนได้ตำหนิไปว่าเราประมาทเลินเล่อ และกำชับว่าต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ หากผลสอบสวนออกมาว่าใครประมาท ก็ต้องลงโทษ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเจตนา ก็ต้องลงโทษหนัก แต่ถ้าเป็นการผิดพลาด มากน้อยก็ว่ากันไปตามระดับความประมาท

"ได้มอบนโยบายกับกองทัพเรือไปว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน ต่อไปต้องรอบคอบมากกว่านี้ ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิด" รมว.กลาโหมกล่าว

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร  พร้อมคณะ เดินทางมาหารือกับ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ กองบัญชาการกองทัพเรือ (นันทอุทยาน)

นายรังสิมันต์ระบุว่า วันนี้กองทัพเรืออยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ง่ายเท่าไหร่ ต้องพูดตรงไปตรงมา คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะมาพูดคุยกัน จะได้สร้างความร่วมมือ ร่วมกันพัฒนา และยกระดับการทำงาน แก้ปัญหาร่วมกัน คิดว่าการทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ ในฐานะกลไกของสภา เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจทางกองทัพ และทางกองทัพก็ต้องเข้าใจการทำงานของสภา คิดว่าจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศที่ดี จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีข้อถกเถียงหลายเรื่อง เช่นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ เราก็ต้องพูดคุยกัน

ส่วนเรื่องการของบประมาณ จัดหาเรือฟริเกต ที่ไม่ผ่าน กมธ.งบ 67 ก็ต้องคุยรายละเอียด เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานของเรือหลวงคีรีรัฐ เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น กองทัพเรือเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เราต้องพูดคุยกันว่าจะมีส่วนไหนที่จะสนับสนุนกันและกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีลักษณะเหตุแบบนี้อีก วันนี้ตั้งใจที่จะสร้างบรรยากาศของการพูดคุยและแก้ปัญหา แน่นอนว่าเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถมาร่วมมือกันทำหน้าที่เพื่อกองทัพเรือให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพต่อไป โดยการหารือวันนี้ เป็นกำหนดเวลาที่มีอยู่เดิมแล้ว ไม่ใช่มาเพราะเหตุการณ์เมื่อวาน แต่ก็ต้องมีการพูดคุย อยากให้มองว่าการมาครั้งนี้ มาคุยเพื่อทำงานร่วมกัน ซึ่งคิดว่ากองทัพเรือก็เป็นเหล่าสุดท้ายแล้ว

นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ไม่เหมือนกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะการจัดซื้อเรือลำนี้จะมาพร้อมกับโอกาสทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างโอกาสให้ประเทศไทยเกิดประโยชน์ต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ซึ่งกองทัพเรือยืนยันว่าโครงการจัดหาซื้อเรือฟริเกตในครั้งนี้จะสามารถทำให้ไทยต่อเรือเองได้ซ่อมเองได้ และผลิตขายต่อได้ในอนาคต กองทัพเรือยืนยันว่าโครงการนี้จะถ่ายทอดองค์ความรู้ระดับสูงให้กับแรงงานไทย ไม่ใช่เพียงแค่การจ้าง และจะแตกต่างกับกรณีเรือดำน้ำแน่นอน รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร.) เองก็ได้ยืนยันว่าพิจารณาเรื่องของการจ่ายมูลค่าโครงการนี้เป็นผลผลิตอื่นของประเทศด้วย ไม่จำเป็นจะต้องเอาแค่เงินสดไปแลก

"กองทัพเรือกำลังบอกเราอยู่ว่าเราไม่มีเรือแล้ว กองทัพเรือ ไร้เรือ ไร้รั้ว และไร้ความรับผิดชอบจากรัฐบาล เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง แผนของโครงการนี้เป็นเพียงการจัดหายุทโธปกรณ์ตามแผนขั้นพื้นฐานที่เราได้เห็นหลักฐานแล้ว พร้อมนำพาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาให้ แต่รัฐบาลเองกลับไม่มีวิสัยทัศน์พอที่จะมองเห็นได้ ซ้ำร้ายยังมีความคิดเห็นของบางคนสะท้อนให้เห็นถึงความกลัวที่จะพาประเทศเดินหน้าต่อเพราะกลัวการบริหารประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพของตนเอง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะพลาดโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจครั้งนี้ไป แล้วปล่อยให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้เรือ ไร้รั้ว ไร้ความรับผิดชอบ" นายชยพลกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง