พท.ทำขึงขังห้ามหนีสภา ตบเท้าเชลียร์‘นายใหญ่’

ดาหน้าป้องนักโทษเทวดา   “รมว.ยธ.” เผยทักษิณไปเชียงใหม่ 14-16 มี.ค. พบแพทย์ทางเลือก-เยี่ยมญาติ ทำได้ขอแค่ไม่ออกนอกประเทศ   “ชลน่าน” ไฟเขียวเอฟซีพบนายใหญ่ทำไมต้องเงียบ ย้อนคนเราไม่ได้ป่วยตลอดเวลา “บิ๊กทิน” สารภาพเคยขอพบแต่โดนไล่ไปทำงาน พท.วอน สส.อยู่ประชุมสภา เตือนเจอคนถ่ายรูปจะลำบาก “สมศักดิ์” ชี้ภาพนายกฯ พบ  “แม้ว-อิ๊งค์” เป็นเรื่องปกติไม่ผิด กม. ระบุปม “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยยังอีกไกล

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ปรากฏตัวพร้อมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในต่างประเทศ และอีกไม่กี่วันนายเศรษฐาจะไปปรากฏตัวพร้อมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะสร้างความสับสนหรือไม่ว่าวันนี้ใครเป็นผู้นำกันแน่ ว่าเรื่องนี้อย่าไปสับสนว่าใครจะเป็นผู้นำ ตนพูดหลายครั้งแล้ว นายเศรษฐามีเครื่องมือในการบริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกฯ และรัฐมนตรี เนื่องจากมีกฎหมายรองรับ

ส่วนการที่จะไปพบกันกับใครที่ไหน  อย่างไร ไม่ใช่ประเด็น การที่นายเศรษฐาจะพบกับอดีตนายกฯ จะพบเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเชียงใหม่  เนื่องจากไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ไม่มีระเบียบหรือข้อห้ามที่สั่งไม่ให้พบ แต่อาจจะปะเหมาะเคราะห์ดีไปเจอกันที่เชียงใหม่ เชียงราย หรือพะเยา เนื่องจากสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดพะเยา แต่เท่าที่ตนดูไม่มีโปรแกรมในการพบกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะเดินทางกลับประเทศไทยในรูปแบบเดียวกับนายทักษิณ ผู้เป็นพี่ชาย และจะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย  นายสมศักดิ์กล่าวว่า "โอ๊ย ยังอีกไกล ในส่วนของการจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยนั้นก็มีกฎและกติกา รูปแบบแนวทางในหลายขั้นตอน รวมถึงการขอพระราชทานอภัยโทษยังอีกไกลมาก และไกลเกินไปที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์"

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี หาก สส.หรือแฟนคลับที่จะไปพบนายทักษิณระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. เพื่อไหว้บรรพบุรุษที่ จ.เชียงใหม่ จะสามารถไปกันอย่างเงียบๆ ได้หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ไม่ทราบ  พร้อมถามกลับว่าทำไมต้องเงียบ หรือทำไมไม่เงียบ มันก็ต้องถามว่าทำไมด้วย เพราะว่าการที่ทุกคนจะไปเจอกัน จะทำลับๆ หรือเปิดเผยอะไรคือเหมาะสม อันนี้สังคมโดยรวมจะเป็นคนตัดสินเอง  

เมื่อถามว่า สังคมเข้าใจว่านายทักษิณมีอาการป่วยหนัก และการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่อาจกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบกลับว่า  ป่วยหนักวิกฤตเป็นคำนิยามที่ทุกคนมอง สถานะบุคคลขณะใดบุคคลขณะหนึ่งก็ไม่ได้ป่วยอยู่ตลอดเวลา ก่อนย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า "น้องป่วย ถ้าไม่รักษาน้องจะหายไหม ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะหาย ในการที่จะรักษา และการจะตัดสินว่าหนักหรือไม่หนัก ก็ต้องตัดสินขณะใดขณะหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะป่วยตลอดปีตลอดชาติและไม่มีสิทธิ์ไปไหน"

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม  กล่าวถึงกรณีถูกพุ่งเป้าอันดับหนึ่งของการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของวุฒิสภา ในประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าคงต้องชี้แจง  และถือเป็นโอกาสดีที่ได้ชี้แจง ในส่วนของคนที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องมีมาตรฐานเดียว ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่ารัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งต้องดูไปถึงเจตนารมณ์และต้องดูหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณจะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอาจมีมวลชนเสื้อแดงมารอรับ อยู่ในกรอบที่สามารถทำได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า อธิบดีกรมคุมประพฤติรายงานมาว่าระหว่างวันที่ 14 ถึง 16 มี.ค.นี้ นายทักษิณขออนุญาตมาเดินทางไปเพื่อพบแพทย์ทางเลือก และเยี่ยมญาติ ไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่ห้ามออกนอกประเทศ เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงอย่างเป็นทางการของกรมราชทัณฑ์ เป็นเรื่องของกรมคุมประพฤติระดับเขต

เมื่อถามย้ำว่า กรณีของนายทักษิณไม่ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ไม่ได้มองในประเด็นนั้น เนื่องจากการเดินทางจะมีพยาบาลไปด้วย เพื่อไปพบแพทย์ทางเลือก

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  กล่าวกรณีถ้ามีโอกาสได้ไป จ.เชียงใหม่ด้วย จะไปพบนายทักษิณหรือไม่ ว่าถ้าไปราชการแบบนั้นแล้วไปพบนายทักษิณไม่น่าจะเหมาะ แต่ถ้ามา กทม. แล้วมีโอกาสก็จะไปพบนายทักษิณ เมื่อถามย้ำว่าเตรียมนัดหมายเข้าพบหรือยัง   นายสุทินกล่าวว่า กำลังประสานกับเลขาฯ นายทักษิณอยู่ แต่นายทักษิณยังไม่โล่ง ยังยุ่งๆ จึงคิดว่าอาจจะอีกสักพักหนึ่ง

 “หลายครั้งที่ผมขอเข้าพบท่าน ท่านก็ไม่ให้พบ ท่านก็ไล่ไปทำงาน ซึ่งท่านบอกว่าถ้ามีงานก็ทำงานไปก่อน ถ้าว่างจริงๆ แล้วค่อยมา เห็นงานคุณยุ่ง งานคุณเยอะอยู่ ก็ทำงานไปก่อน ท่านพูดแบบนี้” นายสุทินกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีการเข้าพบนายทักษิณว่า หากได้พบก็ดี แต่คิดว่าคนที่อยากจะเข้าพบนายทักษิณคงมีเยอะ แต่ก็อย่างที่ประธานวิปเรียนแจ้งว่าวันประชุมสภา  แม้แต่ ครม.เองก็ยังต้องเข้า จึงไม่ใช่โอกาสที่จะเข้าพบ แต่หากเป็นวันหยุดราชการแล้วใครอยากพบก็คงเป็นสิทธิ์

เมื่อถามย้ำว่า หากไปกับนายกฯ   แล้วมีโอกาสก็จะเจอหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ตนไปกับคณะนายกฯ น่าจะเดินทางวันที่ 15 มี.ค.นี้ แต่ยังไม่ได้คุยกับเพื่อน สส.ว่าใครจะเข้าพบบ้าง

ส่วนกระแสที่ว่ามีคำสั่งห้ามเข้าพบนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีคำสั่งห้าม เพราะเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคนที่มี อย่างไรก็ตาม ในความเป็น สส. สิ่งสำคัญที่สุดคือประชุมสภา เมื่อมีกำหนดก็ต้องทำภารกิจที่สภา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ผู้สื่อข่าว ถามว่าจะเดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ หรือไม่ว่า 2-3 วันนี้ตนต้องลงใต้หลายจังหวัด โดยจะไปภูเก็ตด้วย และสุดสัปดาห์ตนจะไปอีสาน ดังนั้นคงไม่ได้ไปเชียงใหม่ 

เมื่อถามว่า แล้วหลังจากนั้นจะหาเวลาไปเยี่ยมนายทักษิณหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คงต้องเช็กความพร้อมสุขภาพท่าน ซึ่งมีวิธีการติดต่อกันอยู่แล้ว

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค  พท. กล่าวกรณีที่อาจมี สส.พรรค พท.เดินทางไปรอพบนายทักษิณว่า คิดว่า สส.พรรค พท.ไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะวันที่ 14 มี.ค.มีการประชุมสภา และเท่าที่คุยกับ สส. ยังไม่มีใครบอกว่าจะไปพบอดีตนายกฯ ทั้งนี้ ตนคิดว่าหาก สส.อยากเจอท่าน ควรรอให้ท่านแข็งแรงกว่านี้ก่อน เพราะท่านอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย แล้วค่อยตามไปพบท่านที่บ้านจันทร์ส่องหล้าดีกว่า

นายดนุพรกล่าวต่อว่า ส่วนที่จะมีกลุ่มเสื้อแดงอีสานที่จะตามไปหานายทักษิณนั้น ตนไม่แน่ใจว่าจะได้เจอกับท่านหรือไม่ ดังนั้นไม่อยากให้เสียเงินเหมารถตามไป ส่วนกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ก็อาจจะห้ามไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราไม่ได้ทราบตารางการเดินทางของท่าน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวท่าน นอกจากนี้ ทางพรรคได้ขอความร่วมมือ สส.อย่าเพิ่งกลับพื้นที่ในช่วงวันพุธถึงวันศุกร์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปก่อนปิดสมัยประชุม เพราะจะมีการประชุมสภา 3 วันติดกัน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า เช่น วันที่ 20-21 มี.ค. จะมีการประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2567 เป็นต้น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายทักษิณไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ คนจะไปหาหรือไปพบก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  ส่วน สส.พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลพูดชัดเจนแล้ว จึงคิดว่าถ้าอยู่ในเวลาประชุมสภาคงไม่มี สส.คนไหนไป และคนที่เป็นผู้แทนฯ ก็คงไม่มีใครกล้าไป เพราะถ้าไปแล้วมีคนเห็นถ่ายรูปมาก็จะลำบาก ฉะนั้นตนเชื่อว่าคนที่ไปพบนายทักษิณก็เป็นเรื่องดี เพราะโลกของประเทศไทยก็หมุนรอบนายทักษิณมา 17 ปีแล้ว วันนี้ก็หมุนเร็วขึ้น ดังนั้นไม่ว่าใครจะไปพบนายทักษิณก็ไปขอความรู้.