"เสรี" โหมโรงสับรัฐบาลทิ้งทวนอำนาจ สว. ประเดิมฟาด "เศรษฐา” ภาวนาให้รัฐบาลและนายกฯ คนปัจจุบันที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจอยู่ได้ถึง 25 มี.ค. ขณะที่ “สมชาย” ประจานหนักทุบสถิติโลก ผลงานแมงโม้ บินไปบินมา 6 เดือน บินนอก 16 ประเทศ ด้านตัวตึง "กิตติศักดิ์" ประกาศชัด 12 ชม.จองคิวถลกทักษิณกันพรึ่บ! คาใจหนัก โกงมหาศาลเสร็จแล้วกลับบ้านหน้าตาเฉย ขณะที่ "เทพไท” กางตำราขงจื๊อ โง่แล้วขยันเป็นพวกอันตรายที่สุด
เมื่อวันจันทร์ ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อม สำหรับการอภิปรายของ สว.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่ามีความพร้อมจากการที่เราได้ให้ สว.ได้รับทราบประเด็น และญัตติที่เราเสนอประเด็นสำคัญเพื่อให้ สว.ได้ประชุมเกี่ยวกับการให้รัฐบาลมาชี้แจงการบริหารราชการแผ่นดิน มีสมาชิกประมาณ 30 ท่านที่แสดงความจำนงขออภิปราย แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาที่เราขอรัฐบาลไป 2 วัน ซึ่งรัฐบาลกำหนดเวลาให้อภิปราย 12 ชั่วโมง จึงทำให้ระยะเวลาที่กำหนดไว้มีปัญหา
นายเสรีระบุว่า เราจึงได้หารือร่วมกันว่าท่านใดที่มีประเด็นเดียวกันหรือคล้ายกัน ก็อาจจะมอบหมายให้ท่านอื่นเป็นคนอภิปรายคนเดียวในประเด็นนั้น และมอบเวลาให้คนที่มีข้อมูลมากกว่า เพื่อให้การอภิปรายมีประโยชน์กับที่ประชุม รัฐบาล และพี่น้องประชาชน โดยขณะนี้มีผู้อภิปราย 33 คน ซึ่งทำให้เวลาแยกย่อยมากไป แต่ก็ยังมีเวลาอยู่ในการที่จะทำความเข้าใจและตกลงร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรให้ได้สาระมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคงจะต้องมีการขอความร่วมมือเพื่อปรับลดจำนวนคน
“ถ้ารัฐบาลเห็นความสำคัญ ใจกว้างหน่อย ก็น่าจะจัดเวลาให้ได้สัก 2 วัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลเอง เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาล เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน จริงๆ ไม่น่าไปจำกัดอะไรกันมากมาย ได้ขอเวลาเพิ่มไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่รัฐบาลยืนยันอย่างนี้ จึงทำให้มีเวลาน้อยเกินไป รัฐบาลน่าจะให้ความสำคัญ แต่รัฐบาลเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้" นายเสรีกล่าว
นายเสรีระบุว่า ส่วนจะถือเป็นการทิ้งทวนได้หรือไม่นั้น ก็อาจจะบอกแบบนั้นได้เพราะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว จะทิ้งทวน ทิ้งหอก ทิ้งดาบอะไร ก็ถือเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เราพยายามทำให้ดีที่สุด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้ เพราะกว่าสมาชิกจะทำความเข้าใจก็ไม่ง่าย ถ้าเข้าใจกันง่ายๆ คงยื่นไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลควรต้องเข้าใจ สว.เองก็ต้องเข้าใจ ไม่ใช่ยื่นอภิปรายแล้วจะกลายเป็นล้มรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องเหล่านั้นเลย
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลอาจจะอ้างได้ว่ายังไม่ได้ใช้งบประมาณเลยนั้น สว.จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องใช้งบประมาณหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า เรื่องนี้รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้งบประมาณหรือไม่ เพียงแต่มีคนในรัฐบาลเอามาอ้างว่า ที่ยังไม่ทำเพราะไม่มีงบประมาณ มันไม่ใช่ รัฐบาลสามารถใช้งบประมาณตามกฎหมายเดิมได้อยู่แล้ว พอกฎหมายใหม่ออกมารัฐบาลก็เอามาใช้ได้
“จำนวนเงินก็จำนวนเงินเดิม เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ถ้าพูดอย่างนี้ คนไม่รู้ไม่เข้าใจก็ไปเชื่อคนที่อ้าง เป็นคนละเรื่อง คุณไม่มีงบประมาณ แต่คุณมีกฎหมายที่จะสามารถจัดงบได้อยู่แล้ว" นายเสรีกล่าว
นายเสรีระบุด้วยว่า สำหรับเรื่องที่อยากพูดถึงมากที่สุดจากขอบข่ายการอภิปรายทั้ง 7 ประเด็นนั้น มีเรื่องที่สมาชิกแสดงความจำนงไว้มากที่สุด คือเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ความลำบากของประชาชน ที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาด้วยการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นการแก้ผิดทาง
เมื่อถามว่า ประเมินภายหลังจาก สว.หมดวาระ อาจมีแรงกระเพื่อมไปถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ก็อาจถูกมองได้ การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีมีการพูดกันมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว มีนายกรัฐมนตรี 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง ตนก็ยังภาวนาให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่ให้ถึงวันที่ 25 มี.ค. ถ้าอยู่ก็จะได้อภิปรายกัน ถ้าเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีก่อนหน้าวันที่ 25 มี.ค. คณะรัฐมนตรีก็ต้องหมดไป การอภิปรายก็อาจจะสิ้นผลไป
นายเสรีกล่าวต่อว่า การเมืองตอนนี้กระเพื่อมอยู่ทุกวัน เพราะประเด็นปัญหาในการบริหารประเทศมีเยอะ แต่รัฐบาลแก้อะไรที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ สิ่งที่พูดมาเป็นเรื่องการชี้แจงที่สัมผัสไม่ได้ มีแต่พูดกันรายวัน แต่ไม่เห็นมีอะไรชัดเจน ที่ชัดเจนที่สุดตอนนี้คือสถิติไปต่างประเทศเกือบ 200 วัน ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่า แทนที่จะเอาเวลามาบริหารประเทศ เอาเวลามาทำประโยชน์ให้ประชาชน มาพูดคุยมาทำความเข้าใจกับสภา กลับทำให้เสียโอกาส เมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์มากๆ ความเชื่อถือก็จะเสื่อมลง เพราะไม่เห็นความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาประเทศ
"ตรงนี้ก็อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีก็ได้ แต่ก็ต้องอยู่ที่คนที่มีกำลังในทางการเมืองเป็นคนตัดสินใจ เห็นอยู่แล้วว่าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นคนตัดสินใจ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่ด้วยจมูกของคนอื่น เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่มีอำนาจจริงๆ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร" นายเสรีกล่าว
เมื่อถามว่า จะต้องมีการจำกัดขอบเขตไม่ให้อภิปรายถึงบุคคลภายนอกหรือไม่ เนื่องจากสมาชิกหลายคนอยากอภิปรายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสรี กล่าวว่า การพูดเรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อคนนอกด้วยซ้ำไป เพราะหลักการคือเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นหลักสำคัญของบ้านเมืองถูกกระบวนการทางการเมืองเข้าไปแทรกแซง และทำให้การใช้กฎหมาย การให้ความเป็นธรรมมีหลายมาตรฐาน พูดแค่นี้ก็เข้าใจ ก็มองเห็นแล้วว่าปัญหาของประเทศและกระบวนการยุติธรรมอยู่ตรงไหน
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า สมาชิกที่เข้าชื่อไว้ประมาณ 36 คนมีความพร้อมมาก ในส่วนกรอบเวลาที่จะอภิปรายเป็นช่วงเวลา 09.00-24.00 น. ในวันที่ 25 มี.ค. ซึ่ง สว.ได้สัดส่วนเวลา 12 ชม. ส่วนฝ่ายรัฐบาลขอเวลา 3 ชม.
เมื่อถามว่า เรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะอยู่ในหัวข้ออภิปรายหรือไม่ นายกิตติศักดิ์กล่าวว่ามีเยอะ ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่าคนที่อภิปรายจะกลัวนายทักษิณฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าทุกคนต้องพร้อม ตนเองก็พร้อมมาก หากปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ละเมิดกฎหมาย ทุจริตกันมหาศาล เสร็จแล้วกลับมาบ้านหน้าตาเฉย แล้วส่งลูกน้องไปฟ้องคนที่วิจารณ์ จากความกลัวจะกลายเป็นความไม่กลัว เป็นแบบนี้จะไปสอนลูกหลานอย่างไร
นายกิตติศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้อดีต สส.ถูกฟ้อง เพราะไปลงภาพที่นายทักษิณซ้อมต่อยมวยก่อนจะกลับประเทศไทย ลูกน้องนายทักษิณจะไปเดือดร้อนแทนอะไรไม่ทราบถึงได้มีการฟ้อง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสมชาย แสวงการ สว. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ทุบสถิติโลก เป็นนายกฯ 6 เดือน บินนอก 16 ประเทศ 52 วัน ใน 176 วัน คิดเป็น 30% ของการทำงาน ผลงานมีมั้ย แมงโม้ บินไปบินมา”
ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอภิปรายนอกจากการซักถามข้อเท็จจริงรวมถึงข้อเสนอแนะแล้ว การชี้ให้สังคมได้เห็นว่ากว่า 6 เดือนภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สอบตกในเรื่องการทำงาน ไม่เหมือนดังที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ต่อพี่น้องประชาชน พูดอย่างทำอย่าง พูดแล้วไม่ทำ เหมือนที่เคยบอกไว้ว่าเป็นรัฐบาลที่หน้าไหว้หลังหลอก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง หัวข้อ "จาก ยุ่งทั้งวัน บินทั้งวัน แต่ไม่มีผลงาน ถึง ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน” ระบุว่า มีคนเปรียบเทียบการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เหมือนกับแมลงวัน คือบินไปบินมา ยุ่งทั้งวัน แต่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการเปรียบเทียบที่รุนแรงต่อคุณเศรษฐามากเกินไป อาจทำให้คุณเศรษฐาเสียกำลังใจ หรือเกิดอาการหงุดหงิดได้ ตนเข้าใจวิธีการทำงานของคุณเศรษฐา เพราะเคยประกาศว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงจำเป็นต้องออกแอ็กชั่น มีการเคลื่อนไหวให้สังคมเห็นว่า เป็นคนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจริงๆ
“ส่วนตัวยอมรับว่า คุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ขยัน แต่ความขยันนั้นไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในการทำงานได้ ต้องขยันแล้วทำสำเร็จด้วย เพราะคนประเภทโง่แล้วขยัน ขงจื๊อบอกว่าเป็นพวกที่อันตรายที่สุด" นายเทพไทระบุ
นายเทพไทระบุด้วยว่า ตนอยากให้การเปิดอภิปรายซักฟอกรัฐบาลตามมาตรา 152 เป็นเวทีการตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อพิสูจน์หรือตีแผ่ข้อเท็จจริงการทำงานของฝ่ายรัฐบาลว่า มีผลงานจริงมากมายตามที่โฆษณาประชาสัมพันธ์หรือไม่ หรือเป็นไปตามศัพท์ที่วัยรุ่นรถซิ่ง เขาพูดกันว่า “ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน”
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 ว่า ไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบการอภิปรายในครั้งนี้หลังถูก สว.ซักฟอก เพราะในการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลยังไม่ใช้เงินเลยสักบาท ซึ่งพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะเข้าสู่วาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้กังวล
“ไม่ต้องเตรียมองครักษ์ มั่นใจว่ารัฐบาลตอบได้ สส. ในสภาก็มีความพร้อมหากอภิปรายอยู่ในข้อบังคับ ก็ไม่มีปัญหา อย่าพาดพิงบุคคลภายนอกหรือพูดเกินเลย ก็อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย” นายวิสุทธิ์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท