สว.เฉ่งเพื่อไทย แย่กว่ายุค‘3ป.’!

ประชาธิปัตย์ ๐ ปชป.เล็งสอบงบปรับปรุงทำเนียบฯ ร้อยล้าน พร้อมมอบ  "นริศ" ประสานก้าวไกล ส่งร่างญัตติซักฟอก ม.152 รัฐบาลกลิ้งกลอก ขณะที่ "ส.ว.วันชัย" ถล่มยับ ถามเพื่อไทยไหนบอกว่าปิดสวิตช์ สว. ปิดสวิตช์ 3 ป. ประเทศไทยเปลี่ยนทันที รัฐบาลลุงตู่ยังดีกว่าเสียอีก เหน็บ "เศรษฐา" นายกฯ อีเวนต์บุญหล่นทับ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์   แถลงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงว่า กลไกการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบอีกช่องทางหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ แม้จะไม่มีการลงมติ แต่ก็สามารถชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความไม่ชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินได้ ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มี สส. 25 เสียง ทำให้ไม่สามารถยื่นญัตติได้โดยลำพัง ฉะนั้นเมื่อเป็นมติของที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ใช้มาตรา 152 ในการยื่นญัตติทั่วไปไม่ลงมติ พรรคก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่

ในส่วนข้อมูลการอภิปรายนั้น พรรคได้จัดเตรียมข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะแม้รัฐบาลจะอ้างว่ายังไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่การใช้งบตามปีงบประมาณใหม่ แต่รัฐบาลไม่ได้ทำงานตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ตอนแถลงนโยบายต่อสภา

“การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ มีหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องตอบ จะมาอ้างว่ายังไม่ได้ใช้งบได้อย่างไร แล้วงบที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ อย่างไปปรับปรุงทำเนียบฯ ร้อยกว่าล้าน ถามว่าใช้งบส่วนไหน จะตรวจสอบติติงไม่ได้เชียวหรือ เรื่องเหล่านี้ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบด้วยกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ”

นายราเมศกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการร่างญัตติเปิดอภิปรายนั้น พรรคได้ประสานกับพรรคก้าวไกล ผ่านนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค โดยจะได้ร่วมกันตรวจดูญัตติเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาทั้งหมด การทำงานตลอด 6 เดือนรัฐบาลเศรษฐา ยังไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน อย่าไปนับรวมตอนหาเสียงเลย เอาเฉพาะที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เพิกเฉยต่อนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา

"ประชาชนสามารถคิดได้ว่าเป็นรัฐบาลกลิ้งกลอกไม่จริงใจ รัฐบาลหน้าไหว้หลังหลอก ผมเชื่อว่าการอภิปรายจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศแน่นอน เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ยึดข้อบังคับการประชุมเป็นที่ตั้ง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ความเห็นผ่านสื่อโซเชียลว่า เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประเทศเปลี่ยนทันที...เปลี่ยนกี่โมง? อย่าลืมนะว่าตอนที่เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ซัดลุงตู่และโจมตีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์อย่างรุนแรงชนิดเอาเป็นเอาตาย เสียผู้เสียคน ยิ่งตอนหาเสียงทุกเม็ดทุกดอกถาโถมเข้าไปที่ 3 ป. แบบไม่เผาผีกัน ปิดสวิตช์สว. ปิดสวิตช์ 3 ป. ประเทศไทยเปลี่ยนทันที คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กัน ยังก้องอยู่ในรูหูคนไทยทั้งประเทศ โดยหวังว่าลุงตู่ไปเพื่อไทยมา ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนทันที มีกินมีใช้เหมือนที่เคยว่าไว้

แต่นี่ก็เกือบจะ 1 ปีแล้วนะ มันมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง นอกจากเปลี่ยนรัฐบาล ข้ามขั้วข้ามสี จากประชาธิปไตยครึ่งใบเป็นเต็มใบ นอกนั้นยังไม่ได้เปลี่ยนอะไรให้กับประชาชนเลย ทั้งยังมีเสียงพูดถึงลุงตู่ บ้างก็ว่านายกฯ ลุงตู่ดีกว่านายกฯ เศรษฐาเสียอีก ยิ่งนานวันเข้าก็จะทำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลและนายกฯ ลดน้อยถอยลง ถึงวันนั้นเมื่อไหร่รัฐบาลก็จะอยู่ยาก ไปๆ มาๆ ประชาธิปไตยเต็มใบ ครึ่งใบ หรือเผด็จการจะต่างกันตรงไหน ในเมื่อผลงานก็งั้นๆ ไม่ต่างกันเลย... รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ท่านก็ว่ามีผลงานเยอะแยะ แต่ฝ่ายค้านก็ว่าไม่มี ตอนนี้รัฐบาลเศรษฐาก็ว่าทำงานหนัก มีผลงานมาก แต่ชาวบ้านก็ยังรู้สึกเฉยๆ

เขายังระบุว่า ผู้นำหรือนายกฯ เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ยิ่งมีฝีมือและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากเท่าใด ก็ยิ่งนำพาประชาชนและประเทศไปได้เร็วเท่านั้น แต่นายกฯ เศรษฐามาจากภาคธุรกิจ ไม่เคยอยู่ในแวดวงราชการและการเมือง เมื่อโชควาสนาพาให้เป็นนายกฯ ก็เหมือนบุญหล่นทับ ไปไหนมาไหนมีข้าราชการทหารตำรวจล้อมหน้าล้อมหลัง คนแห่แหนแต๋นแต้ต้อนรับกันใหญ่โตมโหฬาร หัวใจก็บานพองโต

"เรื่องการจัดตั้งแบบนี้ข้าราชการเขาถนัด ทำมาทั้งชีวิต นายกฯ ที่ไม่ทันเกมแล้วชอบแบบนี้ก็เสียผู้เสียคนกับอีเวนต์และการจัดตั้ง ทั้งชีวิตอยู่กับภาคธุรกิจไม่มีใครห้อมล้อม พอได้มาเป็นนายกฯ มันก็คึกคักชักของขึ้น ลงพื้นที่กันเกือบทุกวัน ไปต่างประเทศกันเกือบทุกสัปดาห์ มันได้รับการต้อนรับอึกทึกครึกโครม เรื่องงานเรื่องการที่จะเป็นชิ้นเป็นอันเป็นเรื่องเป็นราวจึงไม่ค่อยเห็น มีแต่อีเวนต์ผ้าขาวม้าเต็มเอวเต็มคอ ตกลงเราจะมีนายกฯ ไว้ทำอีเวนต์หรือทำงานเพื่อประชาชนกันแน่ นี่เป็นเสียงสะท้อนจากชาวบ้านธรรมดาๆ ที่มีต่อผู้นำ จะปล่อยให้ท่านหลงละเลิงไปอย่างนี้หรือ แล้วเมื่อไหร่คนไทยจะได้มีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ประเทศไทยจะได้เปลี่ยนสักที นายกฯ อุ๊งอิ๊งท่านว่าไว้".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ

จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2

จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย