เสี่ยนิด-ยิ่งลักษณ์ โพสต์หนุน‘สตรี’ ศักดิ์ศรีเท่าเทียม

“เศรษฐา” โพสต์วันสตรีสากล บอกจะสร้างสังคมเท่าเทียม “ยิ่งลักษณ์” โผล่แจมเรียกร้องเพศหญิงเชื่อมั่นในศักดิ์ศรี “อุ๊งอิ๊ง” ลั่นเพื่อไทยเปิดพื้นที่ให้เพศแม่มีส่วนร่วมมากที่สุด แรงงานหญิงยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลขับเคลื่อน

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ถือเป็นวันสตรีสากล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กในเรื่องดังกล่าวว่า   สิทธิสตรีคือสิทธิมนุษยชน อยากให้เราก้าวข้ามและร่วมกันขจัดอคติทางเพศ  มองเห็นทุกคนในฐานะมนุษย์มากกว่ามองเห็นความเป็นผู้หญิงหรือความเป็นผู้ชาย ในฐานะนายกฯ และรัฐบาล จะพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันทุกมาตรการและนโยบายเพื่อขจัดอคติทางเพศ ทั้งในมิติกฎหมายและมิติวัฒนธรรม   เพราะนี่คืออุปสรรคของผู้หญิงและเด็กหญิงในการเข้าถึงโอกาส ทั้งในเรื่องการศึกษา การประกอบอาชีพ ไปจนถึงการปกป้องตัวเองจากความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจอันเกิดจากคติของสังคมชายเป็นใหญ่ เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง รู้ถึงบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันของผู้หญิง บางคนเป็นแม่ บางคนเป็นลูกสาว เป็นพี่สาว เป็นน้องสาว แต่ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน สิทธิที่ควรได้รับต้องแตกต่างกัน เนื่องในวันสตรีสากล ขอให้ผู้หญิงทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าและศักยภาพของตัวเราเอง และขอส่งกำลังใจให้ทุกคนกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคืนศักดิ์ศรีให้ตัวเองในทุกกรณี และเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะช่วยเหลือให้ผู้หญิงที่กล้ายืนหยัดได้  มีหนทางในการช่วยเหลือตัวเองต่อไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์เนื่องในวันสตรีสากล ณ UNESCAP องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย  พร้อมตัวแทนผู้หญิงจากพรรค พท. โดยระบุว่า ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เรามีผู้นำหญิงมากมายทั้งในภาครัฐและเอกชน    แม้ผู้หญิงจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศ และประเทศไทยเคยมีนายกฯ เป็นผู้หญิงมาแล้ว แต่การผลักดันผู้หญิงให้เข้ามามีส่วนร่วมในแวดวงการเมืองยังเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อัตราส่วนของ สส.หญิงมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากอดีต แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของสภาทั่วโลก โดยพรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคการเมืองที่มีสัดส่วนนักการเมืองผู้หญิงมากที่สุดในประเทศไทย

 “ที่ผ่านมาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงได้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนวิธีคิดที่สังคมมีต่อผู้หญิง ให้โอกาสผู้หญิง และผลักดันนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ผลักดันเพียงเพศใดเพศหนึ่ง แต่คำนึงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ และความพร้อมของบุคลากรเป็นหลัก โดยไม่ได้มีข้อจำกัดทางเพศ” น.ส.แพทองธารกล่าว และว่า พรรคในฐานะแกนนำรัฐบาล เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้ทุกเพศทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมในระยะยาวได้มากที่สุด

ส่วน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ที่ปรึกษานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญอย่างมากเสมอมา เพราะผู้หญิงเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ เมื่อผู้หญิงเข้มแข็ง สังคมก็จะเข้มแข็ง โดยพรรคขอเน้นย้ำจุดยืนและสิ่งที่จะดำเนินการจากนี้ไป ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ ขจัดการเลือกปฏิบัติ 2.ต่อต้านการกระทำความรุนแรงในทุกรูปแบบ และ 3.ส่งเสริมการสร้างพลังหญิงในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม

วันเดียวกัน กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง พร้อมเครือข่ายสตรี  นัดรวมตัวยื่นหนังสือเนื่องในวันสตรีสากล  เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องคุ้มครองไม่ให้ผู้หญิง เด็ก บุคคลในครอบครัว และบุคคลหลากหลายทางเพศ ถูกกระทำรุนแรงหรือปฏิบัติไม่เป็นธรรม ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลต้องรับประกันสิทธิลาคลอด 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างตลอดการลา และจัดวันหยุดให้คู่ชีวิตทุกเพศลาเพื่อเลี้ยงลูกได้อย่างน้อย 30 วัน รวมถึงจัดให้มีสวัสดิการแม่และเด็กอย่างเหมาะสมถ้วนหน้า 2.รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องทำหน้าที่เป็น หลักประกันสิทธิแรงงานของแรงงานหญิงและแรงงาน ทุกเพศ ด้วยการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 3.ยกเลิกนโยบาย กฎหมาย ธรรมเนียม ที่เลือกปฏิบัติต่อสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การตรวจครรภ์ก่อนเข้าทำงาน, การตีตราผู้ต้องการยุติการตั้งครรภ์เป็นคนบาปหรืออาชญากร, การตีตราผู้ขายบริการทางเพศ 4.รัฐบาลและนายจ้างต้องเพิ่มสิทธิลาเมื่อมีประจำเดือน อย่างน้อยเดือนละ 2 วัน และเพิ่มวันลารับบริการอนามัยเจริญพันธุ์ทุกประเภท เช่น การยุติการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การตรวจครรภ์ การฝากครรภ์  และการข้ามเพศ และ 5.รัฐบาลและนายจ้างต้องอุดหนุนงบประมาณการแจกจ่ายผ้าอนามัยฟรี ขยายบริการยุติการตั้ง ครรภ์ที่ปลอดภัย และบริการอนามัยเจริญพันธุ์อื่นๆ และจัดให้มีห้องน้ำสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะสำหรับแรงงานสตรีและแรงงานทุกเพศที่ทำงานบนท้องถนน.