ตามคาด! มติฝ่ายค้านยื่นอภิปรายรัฐบาลตาม ม.152 แบบไม่ลงมติ ส่งเรื่อง ปธ.สภาฯ สัปดาห์หน้า คาดเปิดฉากช่วง 3-5 เม.ย. ก่อนสภาฯ ปิดสมัยประชุม "ชัยธวัช" ลั่นไม่มี "เกี้ยเซียะ" ชี้ประเด็นซักฟอกอื้อ "ผิดสัญญา ปชช.-ไร้จริยธรรม-ไร้วุฒิภาวะ" แถมเลือกปฏิบัติในกระบวนยุติธรรม "ปชป." ยันไม่ทิ้งประเด็นทักษิณแน่ "รัฐบาล" เสียงแข็งไม่กังวล ชู 6 เดือนผลงานเพียบ ขออย่าคิดแต่เล่นเกมการเมือง สภาเดือด! "พท." เฉ่ง "รองอ๋อง" ล้ำเส้น "ก.ก." โดดป้อง
ที่รัฐสภา วันที่ 6 มี.ค. เวลา 10.00 น. พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือถึงการขอยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย, นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ตลอดจนตัวแทนจากพรรคครูไทยเพื่อประชาชน และตัวแทนจากพรรคใหม่
ทั้งนี้ นอกจากวาระการลงมติในกรณีขอยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ว่าจะเป็นวันเวลาใดแล้ว ยังมีการเสนอโครงการฝ่ายค้านสัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เสนอพื้นที่ภาคใต้, พรรคเป็นธรรม เสนอพื้นที่ จ.ระนอง หรือ จ.ชุมพร, พรรคไทยสร้างไทย เสนอพื้นที่อีสาน, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เสนอพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพรรคใหม่ เห็นชอบกับทุกข้อเสนอ
ต่อมานายชัยธวัชแถลงผลการประชุมร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมร่วมกันของผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันคือขอยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะประสานสภาเพื่อยื่นญัตติอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มี.ค.ที่จะถึงนี้ สำหรับเนื้อหาสาระและวันเวลาในการอภิปรายจะมีการแจ้งอีกครั้ง
นายชัยธวัชกล่าวว่า เราต้องการเวลาอภิปรายอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งเมื่อดูวาระของการทำงานในสภาแล้ว เวลาที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงหลังจากการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2 และวาระ 3 เสร็จ ซึ่งจะเข้าวาระ 2 ในวันที่ 27-28 มี.ค. จึงคิดว่าเวลาที่เหมาะสมที่จะอภิปรายคือสัปดาห์ถัดไป ในวันที่ 3-5 เม.ย. ก่อนสภาปิดสมัยประชุม
"เบื้องต้นเราได้รวบรวมความเห็นข้อมูลจากที่แต่ละพรรคได้ทำการบ้านมาว่ามีประเด็นอภิปรายครอบคลุมอะไรบ้าง ซึ่งสรุปแล้วเห็นว่าตอนนี้รัฐบาลชุดใหม่ได้บริหารประเทศมาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่พบว่าไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนเอง ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายและการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่เร่งด่วนอย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกประเทศเอารัดเอาเปรียบประชาชน ปล่อยให้ข้าราชการมีการเรียกรับผลประโยชน์ รีดไถประชาชน หลักนิติธรรมถูกทำลาย เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม บริหารประเทศอย่างไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ และไร้วุฒิภาวะ” ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว
ส่วนนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราพร้อมจะเดินหน้ายื่นอภิปราย โดยพรรคประชาธิปัตย์เองได้เตรียมเนื้อหาในการอภิปรายมาสักพักหนึ่งแล้ว ยืนยันว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 25 คนพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ถามว่า การอภิปรายในส่วนของกระบวนการยุติธรรม จะรวมถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ต้องรวมทั้งหมด ในการอภิปรายเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ตนคิดว่าวันนี้ต้องทำในรูปแบบมิติใหม่ อย่าเล่นการเมืองเพื่อสร้างวาทกรรม ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกับสังคมให้รับทราบ และวิจารณ์ให้สังคมได้รับรู้ว่า 6 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำอะไรบ้าง
ฝ่ายค้านเปิดอภิปราย ม.152
นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลเองทำงานมาครึ่งปีแล้ว นโยบายยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจนทุกเรื่อง ทั้งการแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในประเทศ เราจะเน้นย้ำในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ทางรัฐบาลเคยให้คำมั่นไว้ เพราะหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นมาก รวมถึงเรื่องการจัดทำงบประมาณ ที่วันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนมาก เพราะฉะนั้นเมื่อการอภิปรายงบประมาณเสร็จสิ้นลง เราจะต่อด้วยการเปิดอภิปราย ม.152 ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรบ้าง แล้วประสบความสำเร็จได้แค่ไหน
ถามว่า มีหลักฐานหรือใบเสร็จที่สามารถเอาผิดกับรัฐบาลได้เลยหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้คือไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า ส่วนที่ทำนั้นก็มีปัญหาดังนั้นการอภิปราย ม.152 ต้องยอมรับว่าแตกต่างกับ ม.151 เนื่องด้วยในความเป็นจริง การบริหารโดยใช้จ่ายงบประมาณก็ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะ พ.ร.บ.งบฯ 2567 ยังไม่ผ่าน การใช้จ่ายงบประมาณที่จะนำไปสู่การทุจริตหรือคอร์รัปชันยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่แน่นอนว่าประเด็นที่อภิปรายคงไม่ใช่การอภิปรายแบบเลื่อนลอย แต่ต้องมีหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริงเป็นรูปธรรมในการอภิปรายแน่นอน
ซักว่า ประเด็นหลักอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนายทักษิณจะมีประเด็นอะไรบ้าง นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องบอกว่าประเด็นหลักมีหลายเรื่อง เรื่องหลักนิติรัฐนิติธรรมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง และในหัวข้อนี้ก็คงไม่ได้มีเพียงกรณีของนายทักษิณอย่างเดียว แต่ประเด็นหลักคือการเพิกเฉยต่อการดำเนินนโยบายตามที่ตัวเองได้เสนอไว้ต่อรัฐสภา รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วุฒิภาวะ ไร้ผลงานที่จับต้องได้
"ในแต่ละหัวข้อก็จะมีการอภิปรายที่เป็นรูปธรรมหลายเรื่อง โดยหลังจากนี้ทางพรรคก้าวไกลจะประสานกับทุกพรรค เพื่อรวบรวมประเด็นและจัดกลุ่มในการอภิปราย รวมถึงการจัดสรรเวลาที่เหมาะสมร่วมกัน ซึ่งคงจะเรียงตามประเด็นที่ใกล้เคียงกัน" นายชัยธวัชกล่าว
เมื่อถามถึงข้อครหาอาจมีการเกี้ยเซียะกับรัฐบาล นายชัยธวัชยืนยันว่า คงไม่มี ตนคิดว่าเอาการกระทำเป็นข้อพิสูจน์
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงโครงการฝ่ายค้านสัญจรว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นเจ้าภาพ สืบเนื่องจากเดิมที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ เพราะคาดว่า พ.ร.บ.งบฯ 2567 วาระ 2 และวาระ 3 จะเข้าสู่สภาในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค. แต่ล่าสุดคาดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นวันที่ 27-28 มี.ค.นี้ ดังนั้นเมื่อวาระ 2 ไปอยู่ปลายเดือน มี.ค. และจะมีการอภิปราย ม.152 ต่อ คิดว่าคงจะเลื่อนกิจกรรมฝ่ายค้านพบประชาชนออกไปก่อน ซึ่งหากไม่ใช่ช่วงปลายเดือน เม.ย. ก็อาจเป็นช่วงต้นเดือน พ.ค. แต่ยังคงจะไปในพื้นที่ภาคใต้เหมือนเดิม และมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นเจ้าภาพหลัก
นายชัยชนะกล่าวเสริมถึงประเด็นที่จะลงไปรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ว่า คาดว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ และมองไว้ว่าจะเป็นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอภิปรายขอให้รอดูพรรคก้าวไกลเป็นหลัก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะดำเนินการไปตามนั้น ซึ่งข้อมูลที่จะอภิปราย รวมถึงประเด็นของนายทักษิณจะนำไปอภิปรายด้วยหรือไม่ ยังไม่ขอพูด
ถามว่า รัฐบาลบอกยังไม่ได้ใช้งบประมาณ การทุจริตจะเกิดขึ้นไม่ได้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็น ถ้าคิดจะโกงไม่ใช้งบก็โกงได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีพรรคก้าวไกลเป็นหลัก แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็พอมีข้อมูลที่จะนำไปอภิปรายอยู่บ้าง
รบ.ฟุ้ง 6 เดือนผลงานอื้อ
ขณะที่ น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การยื่นญัตติขอยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของฝ่ายค้าน ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติต้องการตรวจสอบการทำหน้าที่ รัฐบาลก็พร้อมชี้แจงตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
"เมื่อพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ แล้ว รัฐบาลก็คงจะหารือกันถึงวันเวลาที่ว่างเว้นจากภารกิจที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะระบุเวลาอีกครั้งหนึ่ง แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลยินดีที่จะตอบข้อซักถามของ สส.ทุกคน โดยไม่มีความวิตกกังวลใดๆ และมองว่าเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงถึงการดำเนินนโยบายในเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา" น.ส.เกณิกากล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 6 เดือน รัฐบาลนำโดยนายกฯ เศรษฐา ได้ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารอย่างเต็มที่ และได้ทำตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของประชาชน สิ่งแวดล้อม อาทิ การลดรายจ่ายด้านพลังงาน และการคมนาคม, ประกาศเดินหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ, การพักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท, ครม.เห็นชอบจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาท จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ หรือการช่วยชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5 120 บาท/ตัน ที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
“การที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวพาดพิงรัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนั้น ดิฉันมองว่าผลงานของรัฐบาลคือสิ่งที่ประชาชนจับต้องได้ มากกว่าคำพูดเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน หวังเพียงแค่ผลทางการเมือง เป้าหมายในการทำงานของรัฐบาลคือการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และรัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบทุกได้ทุกคำถามของฝ่ายค้าน แต่ขอให้ฝ่ายค้านใช้เวลาของสภาให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด อย่าใช้เวทีนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่จะพยายามดิสเครดิตรัฐบาลแบบไม่ชอบธรรม" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นการพิสูจน์ว่าฝ่ายค้านยุคนี้จะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ หรือฝ่ายค้านที่ขอแค่ให้ได้สวนรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง โดยไม่สนหลักการหรือไม่ได้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 152 โดยมีประเด็นอภิปรายกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ขับเคลื่อนแก้ปัญหาเร่งด่วนและไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม รวมถึงไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั้งคนไทยและคนต่างประเทศว่า เรื่องนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไร ต้องคนอยู่หน้างาน ซึ่งตนเองไม่แก้ตัว เมื่อฝ่ายค้านมีความประสงค์ที่จะอภิปราย เราก็ต้องเตรียมตัว โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ก็ยังทำหน้าที่นี้ได้อย่างเข้มข้น
ถามว่า ผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์จนทำให้ฝ่ายค้านต้องยื่นอภิปรายใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ของพวกนี้เขาไม่โชว์กันหรอก โดยก่อนที่ตนจะมาประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้ไปตรวจการจับกุมยาเสพติด 10 ล้านเม็ด ที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งทางตำรวจก็ยังไม่ให้ตนเองดูกล้องวงจรปิดเลย เนื่องจากเป็นความลับ
"ของพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ถามว่าทุกวันนี้ปัญหายาเสพติดในสถานบันเทิงน้อยลงหรือไม่ และผับเปิดน้อยลงหรือไม่ ซึ่งถ้าน้อยลงแปลว่ามันเวิร์กอยู่" นายอนุทินกล่าว
เฉ่ง 'อ๋อง' กลางสภา ก.ก.ป้อง
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังการให้ สส.หารือปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขอหารือการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ปฏิบัติเกินอำนาจหน้าที่บุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1มี.ค. ไปทวงถามร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงินที่ค้างอยู่ 31ฉบับจากฝ่ายบริหาร ถือว่าก้าวล่วงฝ่ายบริหาร ไม่เคยเห็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติบุกประมุขฝ่ายบริหาร และขอให้บันทึกว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนายปดิพัทธ์
ทำให้นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคก้าวไกล โต้ว่า การเสนอร่างกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะร่างกฎหมายการเงินที่ต้องให้นายกฯ ลงนามในเวลารวดเร็ว ไม่ปล่อยทิ้งไว้ 6 เดือน ดังนั้นหากรองประธานสภาผู้แทนราษฎรจะไปติดตามตรวจสอบ เป็นเรื่องสมควรแล้ว เป็นกระทำโดยชอบและพึงกระทำ
จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายตำหนิการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ต่อ ว่าทำให้เสียศักดิ์ศรีฝ่ายนิติบัญญัติ เรียกร้องให้นายปดิพัทธ์ลาออก เพราะถ้าไปเข้าพบเข้าตามตรอกออกตามประตูจะได้รับการต้อนรับ ไม่ใช่ไปแบบโคจร ไม่มีใครมาต้อนรับ ถือว่าเสียศักดิ์ศรีรัฐสภา ทำให้นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงตอบโต้ สส.เพื่อไทย พยายามเตะถ่วงร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานของพรรคก้าวไกล ที่กำลังเข้าสู่วาระการประชุมลำดับถัดไป
อย่างไรก็ดี นายธีระชัยยังตั้งหน้าตั้งตาอภิปรายต่อ ขณะที่ สส.ก้าวไกลก็ประท้วงต่อเนื่อง ในที่สุดนายพิเชษฐ์ปิดไมค์ไม่ให้นายธีระชัยพูด แต่นายธีระชัยยังตะโกนอภิปรายไม่หยุด แม้นายพิเชษฐ์ขอร้องให้นายธีระชัยหยุดพูดเพราะพูดมานานแล้ว แต่นายธีระชัยไม่หยุด จนนายพิเชษฐ์ต้องตะโกนด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “จะฟังผมไหม จะหยุดพูดไหม” แล้วสั่งให้นายธีระชัยนั่งลงทันที จนนายธีระชัยยอมนั่งลง จากนั้นนายพิเชษฐ์บอกสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และตัวแทนฝ่ายรัฐบาล เพื่อประสานงานลำดับกฎหมายที่มีความสำคัญ ก่อนตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมปกติต่อไป
ต่อมาเวลา 15.53 น. ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้ชี้แจงพร้อมเอกสารประกอบ กรณีถูกตำหนิการทำหน้าที่รองประธานฯ บุกไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน โดยนายปดิพัทธ์ได้แจงรายละเอียดเหตุผลการเดินทางไปดังกล่าว
นายปดิพัทธ์ยืนยันว่า เป็นการเข้าพบโดยกระบวนการที่ถูกต้อง และประสานงานล่วงหน้า ไม่ได้เป็นการบุก ไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงหรือก้าวล้ำเข้าไปในการตัดสินใจของนายกฯ นี่คือข้อเท็จจริง
จากนั้น นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายไปได้ระยะหนึ่ง นายปดิพัทธ์ได้เบรกนายครูมานิตย์ว่าอภิปรายพอสมควรแล้ว ทำให้นายครูมานิตย์กล่าวว่า ยังพูดไม่จบ ขอให้ตนได้พูด เพราะตนไม่ได้เกเรกับท่านประธาน ทำให้ สส.พรรคก้าวไกลลุกขึ้นประท้วง จากนั้นนายครูมานิตย์อภิปรายต่อสักพัก ทำให้ สส.พรรคก้าวไกลลุกขึ้นประท้วงประธาน และมีการโต้เถียงและประท้วง ทั้งจากนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล พอนายปดิพัทธ์กำลังจะชี้แจงต่อ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วง จนสุดท้ายนายปดิพัทธ์ชี้แจงย้ำว่าไม่ได้เป็นการบุกทำเนียบฯ และไม่ได้เป็นการกดดันให้นายกฯ เซ็นหรือไม่เซ็น แต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของหน่วยงานที่ผ่านมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด
ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผสมนํ้ายาดองศพ
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า พบน้ำยาดองศพ สารก่อมะเร็งในบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ เสี่ยงเกิดมะเร็ง แนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ย้ำเตือนเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
บึ้มงานกาชาด สอบเกียร์ว่าง! ตำรวจอุ้มผาง
"ผบ.ตร." สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุ 2 คนร้ายปาระเบิดกลางเวทีรำวงงานกาชาดอุ้มผาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บ 48 คน "อุ๊งอิ๊ง"
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้