ป.ป.ช.ร่ายข้อกฎหมายยิบ มติเสียงข้างมากรับพิจารณาคดี “บิ๊กโจ๊ก” กับพวกเอี่ยวเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ พร้อมเรียกคืนสำนวน “ภาคภูมิ” ลูกน้องมือขวากลับมา “บิ๊กเต่า” บอกไม่เสียใจ ต่อไปเป็นหน้าที่ ป.ป.ช.จัดการ
เมื่อวันอังคารที่ 5 มี.ค.2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงรายละเอียดกรณี ป.ป.ช.มีมติรับสำนวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพวก รวม 5 คน พัวพันเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ ว่าตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ส่งสำนวนการสอบสวนกรณีกล่าวหา พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 กับพวก เรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ การกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ตามมาตรา 61 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่ง ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องกล่าวหาที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. แต่ผู้ถูกกล่าวหามิใช่ตำแหน่งระดับสูง และยังไม่เข้าข่ายความผิดร้ายแรง จึงมีมติให้ส่งเรื่องกล่าวหาดังกล่าวคืนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ แล้วรายงานผลให้ ป.ป.ช.ต่อไป ตามมาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
นายนิวัติไชยแถลงต่อว่า ต่อมาคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มีหนังสือลงวันที่ 27 ธ.ค.2566 ส่งเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม กรณีกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก รวม 5 คน กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ การกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 61 โดยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเห็นว่า คดีที่ร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมเกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกันกับสำนวนการสอบสวนคดีเดิม โดยผู้ต้องหาเพิ่มเติมบางคนเป็นถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นผู้ต้องหาบางคนร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนเจ้าของเว็บไซต์ให้สามารถเปิดเว็บไซต์ จึงเป็นการร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดฯ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกล่าวหา ดังนั้น สำนวนการสอบสวนที่ ป.ป.ช.ส่งคืนให้พนักงานสืบสวนสอบสวน จึงเป็นเรื่องเดียวกันกับสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมคดีนี้ เพราะเป็นการดำเนินการกับตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน และเป็นคดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันและความผิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ต้องดำเนินการในคราวเดียวกัน ต่อมาหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มีหนังสือ ลงวันที่ 2 ก.พ.2567 ขอทราบมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เกี่ยวกับการรับเรื่องกล่าวหาดังกล่าวไว้ดำเนินการ
นายนิวัติไชยกล่าวอีกว่า ป.ป.ช.ในการประชุมครั้งที่ 26/2567 เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (2) ได้กำหนดให้ ป.ป.ช.มีหน้าที่และอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และวรรคท้ายของบทบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดว่า กรณีจำเป็นจะมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตดำเนินการแทนในเรื่องที่มิใช่เป็นความผิดร้ายแรง หรือที่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐบางระดับ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 61 ประกอบระเบียบ ป.ป.ช.ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 28 (2) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการมอบหมายหรือส่งเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. ตามมาตรา 28 (2) และ (4) ที่มิใช่ความผิดร้ายแรง ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และตามข้อ 29 วรรคสอง ได้กำหนดว่า ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ในภายหลังว่า เรื่องกล่าวหาที่ ป.ป.ช.มีมติให้ส่งคืนหรือมอบหมายตามวรรคหนึ่ง เป็นเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งดำรงตำแหน่งสูงกว่าอำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่า หรือเป็นเรื่องกล่าวหาที่มีลักษณะเป็นความผิดร้ายแรง หรือเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง ป.ป.ช.อาจเรียกเรื่องกล่าวหาและเอกสารที่เกี่ยวข้องมาเพื่อดำเนินการต่อไปตามระเบียบนี้ก็ได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติเสียงข้างมากรับเรื่องกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับพวก รวม 5 คน กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งสูงกว่าอำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่า และพฤติการณ์มีการได้รับผลประโยชน์เป็นเงินจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป อันเข้าลักษณะเป็นความผิดร้ายแรงหรือเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบอย่างกว้างขวางไว้ดำเนินการ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบกับสำนวนการสอบสวนคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ กับพวก เป็นคดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 234 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 61 ประกอบระเบียบ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 29 วรรคสอง จึงให้เรียกสำนวนการสอบสวนเรื่องกล่าวหา พ.ต.อ.ภาคภูมิ และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดคืนมาเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่สามารถพิจารณารับทำคดีดังกล่าว 8 นายตำรวจ และสามารถพิจารณาสำนวนที่มีนายตำรวจ 8 นาย ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นพนักงานอัยการกลับไปทำคดีรวมสำนวนกับตำรวจ 5 นาย เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ ป.ป.ช.จะต้องมาสอบถามสำนวนคดีกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ว่ามีหลักฐานหรือรายละเอียดอย่างไร ซึ่งถือว่าคดีดังกล่าวทั้ง 2 สำนวน ในชั้นพนักงานสอบสวนได้สิ้นสุดอำนาจหน้าที่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการพิจารณาสำนวนและส่งฟ้องคดี
“พนักงานสอบสวนไม่ได้เพลี่ยงพล้ำทางเทคนิค แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.โดยตรง ที่สามารถรับทำคดีได้เอง ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนไม่ได้เสียกำลังใจ และขอยืนยันว่า พยานหลักฐานที่มีนั้นครบถ้วน ที่จะสามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด” พล.ต.ต.จรูญเกียรติระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กอ้วนตอกยํ้า แจก‘เงินดิจิทัล’ ‘อนุสรณ์’เตือน
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
อิ๊งค์หาเสียงฟุ้งพท.มาคนจนรวยแน่
"หัวหน้าอิ๊งค์” ลุยนครพนม ช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียง
รพ.ตำรวจอึมครึม เวชระเบียนชั้น14
เส้นตายพุธนี้! แพทยสภาสอบหมอช่วย "ทักษิณ" อึมครึม "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" ปัดตอบส่งเอกสารหรือยัง
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต
จับตา!เคาะ‘กาสิโน’ คลังชงเข้าครม.ไฟเขียว/นักวิชาการชี้ผลประโยชน์ทับซ้อน
จับตา “คลัง” เล็งชงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้า ครม.จันทร์นี้หรือไม่ หลัง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย