กรุงเทพฯ ๐ ข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินฉบับแรกในประวัติศาสตร์ไทย อัยการลุยเจรจายึดทรัพย์เครือข่าย "เหว่ยเซียะกัง" จากธนาคารสวิส สำเร็จได้เงินเข้าหลวง 76 ล้านบาท เล็งตามยึดทรัพย์จากการฟอกเงินในคดีอื่นอีกหลายประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส โดยข้อตกลงดังกล่าวมีสถานะเป็นสนธิสัญญาที่ประเทศไทยจะได้รับเงินจำนวน 1,882,332.68 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 76,896,733 บาท พร้อมดอกผลที่จะมีขึ้นในภายหน้าคืนจากสมาพันธรัฐสวิส
สืบเนื่องจากสำนักงาน ปปง.ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหารายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ต้องหากับพวก มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดเมทแอมเฟตามีนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเหว่ยเซียะกังในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ต่อมามีการสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินบางส่วนไปฝากไว้ที่ธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำนักงาน ปปง. จึงขอให้อัยการสูงสุด ผู้ประสานงานกลางตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ดำเนินการยึดอายัดเงินฝากในธนาคารสวิสของผู้ต้องหา สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากทางการสมาพันธรัฐสวิส และพนักงานอัยการสวิสได้ดำเนินการอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารสวิสของผู้ต้องหา
ต่อมาพนักงานอัยการได้ฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559 ลงโทษผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 60, 61 วรรคหนึ่ง และพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ทรัพย์สินของผู้ต้องหาตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลแพ่งมีคำสั่งถึงที่สุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2560 ให้ทรัพย์สินเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารซึ่งอยู่ที่สมาพันธรัฐสวิสพร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
เมื่อเดือนธันวาคม 2561 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งคำร้องขอไปยังสมาพันธรัฐสวิสเพื่อดำเนินการริบและส่งคืนทรัพย์สินตามคำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวกลับคืนมายังประเทศไทย ซึ่งทางการสมาพันธรัฐสวิสได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายสมาพันธรัฐสวิสแล้ววินิจฉัยให้ส่งคืนทรัพย์สินกลับมายังประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงการแบ่งปันทรัพย์สิน (Asset Sharing)
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ผูกพันรัฐบาลทั้งสอง คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564 มอบให้ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการเจรจาทำข้อตกลง โดยมีผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ปปง. และกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นองค์คณะผู้เจรจา อัยการสูงสุดมอบหมายให้นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะเจรจา
ผลการเจรจากับสมาพันธรัฐสวิสตกลงแบ่งปันทรัพย์สินจากทรัพย์สินที่ได้อายัดไว้ในอัตราส่วนที่เท่ากันระหว่างสองประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้อัยการสูงสุดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามข้อตกลงฝ่ายราชอาณาจักรไทย ข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินฉบับนี้เป็นข้อตกลงฉบับแรกที่เป็นประวัติศาสตร์ซึ่งไทยทำกับต่างประเทศ และสามารถใช้เป็นแบบอย่างในการทำข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินกับประเทศอื่นๆ ได้ โดยคดีดังกล่าวนับเป็นความสำเร็จของสำนักงานอัยการสูงสุดในการติดตามเอาทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดที่ได้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังต่างประเทศคืนมายังประเทศไทย อันเป็นผลจากการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงาน ปปง. กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง รวมถึงการได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือที่ดีเป็นอย่างยิ่งจากพนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมแห่งสมาพันธรัฐสวิส
ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ปัจจุบันยังมีทรัพย์สินของผู้กระทำผิดในคดีค้ายาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทุจริตประพฤติมิชอบ ฟอกเงิน และคดีอื่นๆ ที่นำไปซุกซ่อนในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เกาะเจอร์ซีย์ และเกาะเกิร์นซีย์ ที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำลังดำเนินการประสานงานกับต่างประเทศเพื่อยึด อายัด และริบทรัพย์ตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 อยู่หลายคดี ซึ่งคาดว่าจะนำทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดกลับคืนมาประเทศไทยได้ในไม่ช้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ยอมนิกร พรบ.ประชามติ ไม่ใช่กม.การเงิน
“ชูศักดิ์” ลั่นเพื่อไทยเอาแน่ ค้าความปิดปากเอาคืน “ธีรยุทธ” แต่ไม่รู้เมื่อไหร่
ไฟเขียวไร่ละ1พัน10ไร่ ตรึงค่าไฟฟ้าราคาน้ำมัน
ชาวนาเฮ! นบข.ไฟเขียวช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จ่อชงเข้า ครม.สัญจรเชียงใหม่ 29 พ.ย.นี้
อวยทักษิณชนะนายกอบจ.
"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา
ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก
"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ"
กรมที่ดินท้ารฟท.พิสูจน์เขากระโดง
กรมที่ดินยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยึดตาม กก.สอบสวน มาตรา 61
ม็อบเสื้อเหลืองคืนชีพ ‘สนธิ’นัดบุกทำเนียบฯ2ธค. ‘อ้วน’หวั่นซํ้ารอยปิดเมือง
"ภูมิธรรม" ไม่กังวล "สนธิ" ปลุกม็อบลงถนน เป็นสิทธิตาม รธน.