“สุทิน” ขีดเส้น 2 เดือนให้ คกก.วันแมปจบเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ ปัดข่าวโยนอำนาจให้กรมอุทยานฯ ตัดสิน “ชัยวัฒน์” แฉผู้ใหญ่โทร.มาเคลียร์ขอให้จบ แต่บอกไปถ้ายึดตามกรมแผนที่ทหารไม่ยอมแน่ “ชีวะภาพ” ลั่นตรงไหนเป็นป่าอย่ามารังวัด
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวันแมป (One Map) ว่าได้ประชุมหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ โดยมีบทสรุปคือ ให้คณะทำงานทั้งหมดทุกระดับทำให้จบภายใน 2 เดือน หรือช่วงต้นเดือนพฤษภาคมน่าจะได้ข้อสรุปก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งกรณีปัญหาที่ทับซ้อนระหว่างเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตปฏิรูปที่ดิน กรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบโดยใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินป่าเขาใหญ่ให้เป็นอุทยาน พ.ศ.2505 ประกอบกับสมุดบันทึกการรังวัด (filed book) และภาพถ่ายทางอากาศ ร่วมกับการปฏิบัติของชุดสำรวจ ชึ่งผลการตรวจสอบเป็นผลให้แปลงที่ดินของ ส.ป.ก.ไม่ทับซ้อนและอยู่นอกเขตอุทยานเขาใหญ่ คณะทหารทำถูกต้องตามหลักการ และได้รับการยืนยันจากผู้ชำนาญการว่าถูกต้องตามหลักการและได้รับการยอมรับ
“อยากให้ทำในลักษณะเป็นองค์กร จะได้ไม่ต้องชี้แจงเพียงคนเดียว การดำเนินการวันแมปจะแก้ไขปัญหาได้เยอะ การแก้ตามวันแมปก็เพื่อให้ได้ข้อยุติ และเสนอต่อ ครม.ได้ต่อไป พร้อมได้เน้นย้ำคณะกรรมการวันแมปว่าต่อไปนี้เวลาลงพื้นที่ให้ลงเป็นองค์คณะ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงาน” นายสุทินกล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรมแผนที่ทหารจะชงที่ ส.ป.ก.เขาใหญ่ให้กรมอุทยานฯ นั้น นายสุทินกล่าวว่า ยังไม่เป็นเช่นนั้น เพราะยังมีขั้นตอน โดยเมื่อกรมแผนที่ทหารได้ข้อสรุปก็จะเสนอชุดอนุกรรมการวันแมป และเสนออนุกรรมการอีกชุด และไป ครม.
ถามถึงกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังคงลงพื้นที่เคลื่อนไหว หากทอดเวลาออกไปแล้วยังไม่จบจะถูกตีเป็นประเด็นเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าคิดว่าทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้สถานการณ์วุ่นวายหรือร้อนขึ้น เพราะระบบการทำงานหาข้อสรุปมันมีอยู่แล้ว
“ขอให้อดทน อดใจรออีกนิด เชื่อว่าจะมีข้อสรุปที่ดี ให้มองมุมนโยบายและมุมกฎหมาย ทุกคนที่เกี่ยวข้องเป็นองค์คณะทำงานทั้งหมด และเท่าที่ฟังวันนี้ทาง ส.ป.ก.แสดงเจตนาว่าไม่เดินหน้า ไม่ดึงดัน ยอมรับและส่งสัญญาณว่าจะถอยด้วยซ้ำ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้มันเข้มข้นขึ้นมา" รมว.กลาโหมระบุ
วันเดียวกัน นายชัยวัฒน์พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนลงพื้นที่แปลง ส.ป.ก. 1 ใน 8 แปลง ของนายทุนชาว จ.ปทุมธานี ที่ครอบครองเนื้อที่รวมเกือบ 90 ไร่ พื้นที่บ้านกุดคล้า หมู่ 5 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าได้เอกสารสิทธิ สปก.4-01 แล้ว 29 ไร่ อยู่ระหว่างการออกเอกสาร ส.ป.ก.อีก 7 แปลง โดยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดนี้มาตลอด 1 เดือน พบหมุด ส.ป.ก. 5 หมุด
นายชัยวัฒน์เปิดเผยด้วยว่า มีผู้ใหญ่โทร.มาเคลียร์ว่าในวันพรุ่งนี้ทุกอย่างจะคืนให้กับกรมอุทยานฯ พื้นที่ทับซ้อนจะจบแบบไม่มีปัญหา ส.ป.ก.จะถอนออกทั้งหมด ซึ่งตนตอบตกลง ถ้าได้ที่คืน เราจบ แต่ถ้ายืนยันตามที่กรมแผนที่ทหารบอก ไม่ต้องโทร.มา ตนไม่เคลียร์ ถ้ากรมอุทยานฯ รวมทั้งกรมป่าไม้ไม่ได้ที่คืน ตนไม่ยอม สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน ตลอดจนสังคม ช่วยกันดูว่าพื้นที่ตรงนี้สามารถออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ได้หรือไม่ และเป็นไปตามเจ้าหน้าที่บอกหรือไม่ ว่า ส.ป.ก.ออกเอกสารเฉพาะในพื้นที่ของตัวเอง
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า อยากให้เห็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลง โดยเฉพาะแผนที่เริ่มต้นจากจุดที่ออกมาว่ากรมแผนที่ทหารยืนยันว่าบริเวณจุดนั้นเป็นที่ สปก.4-01 และครั้งนี้พาสื่อมาดูว่าไม่ใช่พื้นที่จำแนก กลุ่มทุนเป็นใคร เอาหนึ่งคนก่อน ไปจับมือกันแล้วไปออก ส.ป.ก.เป็นใคร ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าคนนี้มีทั้งหมด 8 แปลงในพื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติ ภูเขาสูงชัน ไปดูด้วยกันว่าพื้นที่จำแนกและออกนอกเขต ส.ป.ก.ทำได้อย่างไร ไม่ใช่พิพาทกัน มันต่อจิกซอว์จากการขยายผลกลุ่มทุนรายใหญ่ เข้าไปบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเอานอมินีเข้าไป แล้วถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่จับกุมเมื่อเดือน ส.ค.66 ที่ผ่านมา เป็นผู้หญิงที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
ด้านนายชีวะภาพกล่าวว่า พื้นที่คาบเกี่ยวกันของหน่วยงานรัฐด้วยกันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประสานงานก่อนออกเอกสารสิทธิ กฎหมายที่ทำให้พี่น้องประชาชนจะต้องมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาอยู่อย่างนี้ เพราะวันนี้ เรายังต้องรอวันแมปที่คาดว่าคงอีกนาน ระหว่างนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ แม้จะทับซ้อนกันบ้าง แต่จุดไหนที่เป็นป่าอย่าไปรังวัด เจ้าหน้าที่ต้องมีจิตสำนึก
ขณะที่กรมอุทยานฯ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การจัดทำแผนที่แสดงแนวเขตอุทยานแห่งชาติ โดยระบุว่า การกำหนดพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติ อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 หรือ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2505 (เดิม) โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และมีแผนที่แสดงแนวเขตแนบท้ายพระราชกฤษฎีกาด้วย
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2505 มีแนวเขตตามแผนที่แนบท้ายฯ มาตราส่วน 1 : 250,000 ที่ได้มีการสำรวจรังวัดแนวเขต มาตั้งแต่ปี 2502 และได้นำผลการสำรวจรังวัดมาประกอบกับสภาพข้อเท็จจริงแล้ว จึงขึ้นรูปเป็นแผนที่ในมาตราส่วนที่เหมาะสมจัดทำเป็นแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา
ต่อมากรมอุทยานฯ ได้ถ่ายทอดเส้นแนวเขตตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ลงบนแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ในระบบเชิงเลข (Digital Map) และจัดแนวเขตอุทยานแห่งชาติในรูปแบบดิจิทัล (Shape files) เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน แก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ปัญหาข้อพิพาทที่ดินและพื้นที่ทับซ้อนต่างๆ โดยการจัดทำแนวเขตดังกล่าว เป็นไปตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในพื้นที่
ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ.2550 รวมทั้งได้มีการถ่ายทอดแนวเขตอุทยานแห่งชาติตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาลงในแผนที่มาตราส่วน 1 : 4,000 และแผนที่ระวาง มาตราส่วน 1 : 50,000 ตามที่ระเบียบกำหนดครบทุกแห่งแล้ว
แถลงการณ์ระบุอีกว่า โดยแผนที่มาตราส่วน 1 : 50,000 ที่ได้จัดทำขึ้นได้ส่งให้คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ (One Map) เป็นแผนที่รัฐ ในการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) ซึ่งในคราวประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.65 ที่ประชุมมติเห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สระแก้ว สุรินทร์ อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ และเลย ตามที่กรมอุทยานฯ เสนอ
“แต่เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) ได้รับเรื่องร้องเรียนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทับซ้อนกับที่เอกชน (เป็นกรณีบริษัท ภูพบฟ้า จำกัดไม่เกี่ยวกับข้องกับกรณีแปลง ส.ป.ก.) ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่ฯ (One Map) กลุ่มที่ 3 ยกเว้นกรณีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราสีมาและปราจีนบุรี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกรณีปัญหาแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณที่มีการออกเอกสาร ส.ป.ก.ในท้องที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไม่สอดคล้องตรงกันกับแนวเขตของกรมแผนที่ทหาร เห็นควรให้คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One Map) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พิจารณาตามหลักเกณฑ์การพิจารณา One Map ให้ได้ข้อยุติและถูกต้องตามข้อเท็จจริงต่อไป” แถลงการณ์ระบุ
นายเกียรติ สิทธีอมร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ กล่าวถึงข้อพิพาทการออก ส.ป.ก.ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนถึงวินาทีนี้ไม่มีใครพูดถึง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 เลย คนลืมไปแล้วว่าจริงๆ เมื่อก่อนไม่มีอุทยาน ในกฎหมายของ ส.ป.ก.ระบุไว้ชัดเจนว่า พื้นที่ใดหากมีการตราพระราชกฤษฎีกาให้พื้นที่ใดเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. แล้ว สิทธิของเจ้าของในพื้นที่เดิมต้องถูกเพิกถอนเจ้าของเดิม ไม่ต้องไปผ่านกระบวนการเพิกถอน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ส.ป.ก.ก็ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาในบางพื้นที่ไปตามที่มีการอนุมัติโดย ครม. แต่ปรากฏว่าหน่วยงานอื่นไม่เคยไปแก้แผนที่ของตัวเอง แล้วก็อ้างว่าแผนที่ตัวเองตรามาถูกต้อง แต่ลืมไปว่าหน่วยงานของเขาก็ผูกพันกับ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเอาแผนที่เก่าไม่มีการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันตามการตราพระราชกฤษฎีกาของ ส.ป.ก. ถือว่าคุณมีความผิด
“ปัญหาที่ผมเห็นตลอด 2-3 วันนี้คือ ไม่เห็นใครซักถามอุทยานเลยว่าคุณมีการปรับปรุงแผนที่ของคุณตามกฎหมาย ส.ป.ก. ซึ่งผูกพันหน่วยงานคุณด้วย และมักจะบอกว่า พวกนี้เป็นนายทุนไปแย่งพื้นที่ป่า แล้วทำไมพวกนายทุนที่คุยกับอุทยานรู้เรื่อง ยังอยู่ได้ไม่รู้กี่ที่" นายเกียรติกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"