"ชัยวัฒน์" เข้าแจง 2 กมธ.สภาผู้แทนฯ ตอกนายกฯ ป่าเขาใหญ่มีเส้นแบ่งเขตตามพระราชกฤษฎีกา ไม่มีแนวกันชน เป็นหลักฐานใช้ในศาลมา 30 ปีแล้ว แนะกรมแผนที่ทหารต้องมีความซื่อสัตย์ในตัวเองก่อน แฉผู้ครอบครองที่ ส.ป.ก.ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพล นักการเมือง นักลงทุน ไม่ใช่เกษตรกรผู้ยากไร้ เผย 1 มี.ค.ลงพื้นที่ปากช่อง เชิญ ป.ป.ช., ส.ป.ก., ผู้ว่าฯ, ป.ป.ป. ฝ่ายปกครอง และคณะอนุกรรมาธิการของ กมธ.ไปด้วย
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพื่อพิจารณาศึกษาเรื่อง ปัญหาเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่า กมธ. ได้เรียกตนมาชี้แจงในเรื่องที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รุกเข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเรายืนยันชัดเจนอยู่แล้วว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีเส้นแบ่งเขตตามพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ที่ผ่านมติทุกเรื่องมาแล้ว ตนยืนยันความชัดเจนและความถูกต้อง และคงมีหลายเรื่องที่จะต้องชี้แจงใน กมธ.
ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่ากรมแผนที่ทหารยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแนวกันชน นายชัยวัฒน์กล่าวว่า “ไม่มีหรอกครับ แนวกันชน พ.ร.ฎ. เป็นแบบไหนก็แบบนั้น จะมาบอกว่าตรงนั้นเป็นแนวกันชน ไม่ใช่
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกรมอุทยานฯ ใช่หรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า "ใช่ครับ" พร้อมกล่าวต่อว่า ขอถามกลับว่า คำว่า ‘แนวกันชน’ เป็นแนวหลอกลวงหรือเปล่า ตนขอยืนยันว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มี พ.ร.ฎ. จะเอาช่องว่างนั้นเป็นแนวกันชนไม่ได้ เรายืนยันด้วยหลักฐานที่เรามี และใช้ในชั้นศาลมา 30 ปีแล้ว
ส่วนการที่อ้างว่าจะนำพื้นที่แนวกันชนนี้ไปให้ชาวบ้านปลูกป่านั้น ไม่เกี่ยว ตรงนั้นเป็นแนวของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นคนละเรื่องกัน ถ้าความบริสุทธิ์ใจที่ออกมาแถลงข่าวแบบนั้น ก็รีบทำเลย ต้องเข้าใจว่า 'แนวกันชน' ในมาตรา 18 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เป็นเส้นสีฟ้า ไปดูได้เลยว่า แนวกันชนห่างจากอุทยานแห่งชาติออกไป 3 กิโลเมตร ไม่ใช่เอาช่องว่างของป่า หรือเส้นมาแบ่งเขตว่าไม่ได้อยู่ในอุทยาน และเป็นแนวกันชน มันไม่ได้ ยืนยัน 100% ว่าเป็นพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One Map) เอามาใช้ไม่ได้จริงใช่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ตอบว่า One Map ยังไม่ได้ประกาศใช้ และคนที่อยู่ในคณะกรรมการ One Map ก็เป็นคนเดียวกันกับที่มาอ้างและออกเอกสารนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนจะเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ค่อยมาว่ากัน
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเข้าชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติแจงว่า ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีให้โอกาส ให้กรมอุทยานฯ หรือเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจง ตนก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงความชัดเจน ความแม่นยำ ความถูกต้องต่อผืนป่าทั่วประเทศ ทั้งนี้ มองว่าการตัดสินของกรมแผนที่ทหาร ต้องพูดความจริงทั้งหมด เอารายละเอียดมาคุยกัน เรื่องจะจบง่าย แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่จบแน่นอน
เจอกันที่ศาล
ส่วนได้มีการคุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้วหรือไม่นั้น ท่านสั่งการอยู่แล้ว ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และรอบคอบ ตนจะเดินหน้าต่อ ไม่มีปัญหา
"ท่านเชื่อมั่นในเราอยู่แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นท่านก็ต้องปล่อยผมลอยคอสิ วันนี้ท่านบอกว่าถ้าถูกต้องก็ทำเลย" นายชัยวัฒน์กล่าว
เมื่อถามย้ำถึงการเรียกผู้ใหญ่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาคุยกัน เป็นความเข้าใจไม่ตรงกันใช่หรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ตนคิดว่าผู้ใหญ่ฝั่งกระทรวงเกษตรฯ ต้องเข้าใจก่อน ที่เคยพูดว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนหมายความว่าอย่างไร แนวเขตป่าอนุรักษ์คืออะไร ไม่ใช่ว่าขีดเข้ามาในแนวป่าแล้วบอกว่าเป็นแนวกันชน เป็นป่าชุมชน หรือปลูกป่าร่วมกัน มันไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นคำพิพากษาศาลทุกคดีที่ถูกตัดสินไปแล้ว แสดงว่าเราผิด หรือแสดงว่าเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ถือว่ามีความผิด ใช่หรือไม่
เมื่อถามว่า แนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคืออะไร นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ทุกคนต้องพูดความจริง กรมแผนที่ทหารต้องมีความซื่อสัตย์ในตัวเองก่อน ถ้ากระโดดไปกระโดดมาแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ต้องเรียนว่าตนก็เรียนการสำรวจพื้นที่ การทำรังวัดแผนที่มา เป็นรุ่นแรกที่ทำสมุดจดการรังวัด (Field Book) และสมุดจดการรังวัดแบบไฟล์ดิจิทัล ในปัจจุบันมีความคลาดเคลื่อนเพียง 5 เซนติเมตร จะมาบอกว่าตรงนั้นเป็นแนวของ ส.ป.ก.ไม่ได้ ตนขอถามว่าหลักของ ส.ป.ก.มีหรือไม่ เส้นของกรมพัฒนาที่ดิน ที่ระบุว่าการจำแนกที่ดินของ ส.ป.ก.มีหลักหมุดหรือไม่ ไม่ใช่เขียนในกระดาษแล้วมาบอกว่าใช่ ตนมีหมุด มีแผนที่ มีถนนรอบแนวเขต ที่ใช้งบประมาณถึง 145 ล้านบาท ก็ขอให้สังคมใช้วิจารณญาณว่าของใครน่าเชื่อถือที่สุด เจอกันที่ศาล
ต่อมานายชัยวัฒน์กล่าวภายหลังเข้าชี้แจง กมธ.ว่า ประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องที่ทำกิน จะได้ที่ทำกินจาก ส.ป.ก. ด้วยความสุจริตใจแน่นอน และหน่วยงานของ ส.ป.ก.เล็งเห็นผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกินจริงๆ ไม่ใช่ให้กับผู้ที่มีอำนาจหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
"วันนี้ต้องเดินหน้าสู้พร้อมกัน เพราะว่า ส.ป.ก.ที่ออกมาส่วนใหญ่ ผู้ที่ครอบครองจะเป็นผู้มีอิทธิพล นักการเมือง นักลงทุน ซึ่งไม่ใช่เกษตรกรผู้ยากไร้หรือไม่มีที่ทำกินจริงๆ"
นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า วันที่ 1 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ในเวลาประมาณ 08.30 น. ตนจะเดินทางไปที่ด่านปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อไปดูว่าที่ดินที่ ส.ป.ก. จัดแปลงนั้นอยู่ในเขตของกรมป่าไม้ หรือเขตของกรมอุทยานฯ มีตรงไหนบ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทำด้วยความลุอำนาจ
"พี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่ทำกินสบายใจได้ ส.ป.ก.ตั้งใจจะทำงานนี้ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ ต้องเอาคนที่เป็นกลุ่มทุน กลุ่มที่ได้ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ยึดกลับมาครับ ถ้า ส.ป.ก.มีความจริงใจต่อประเทศชาตินี้ เอาแบบนี้ดีกว่า"
เชิญหลายหน่วยงานลงพื้นที่
นายชัยวัฒน์เชื่อว่า ที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่าลูกบ้านได้ยื่นชื่อเพื่อขอโฉนด ส.ป.ก. แต่กลับไม่มีชื่อ ย้ำว่าวันที่ 1 มี.ค.นี้ จะไปดูว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งจะได้เห็นว่าเป็นเกษตรกร และที่ตรงนั้นเป็นทำเลทองหรือไม่
ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วย เช่น ป.ป.ช., ส.ป.ก., ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) รวมถึงฝ่ายปกครองทั้งหมด และคณะอนุกรรมาธิการของ กมธ.ชุดนี้ด้วย
นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ทั้งสองหน่วยงานยังโต้เถียงกันในเรื่องแนวเขต ซึ่งกรมอุทยานฯ ยังไม่ยอมรับแนวเขตตามกรมแผนที่ทหารที่ได้ส่งรายงานไปให้นายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันที่จะยึดตามพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พ.ศ. 2505 แต่ทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ก็ยังยึดเขตแดนตามกรมแผนที่ทหาร จึงมองว่าเรื่องนี้คงไม่จบอย่างที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ได้กล่าวไว้
ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า เมื่อฟังเนื้อหาทั้งหมด ทาง ส.ป.ก.ในพื้นที่ก็ยอมรับว่าการขีดแบ่งพื้นที่ผิด เราก็ได้รับข้อมูลว่ามีการทำหนังสือเรื่องดังกล่าวไปถึง ส.ป.ก. แต่หากไม่มีการดำเนินการอะไร ก็จะยิ่งขยายผลว่าทำไมผู้ใหญ่ในองค์กรถึงปล่อยให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เราไม่อยากชี้ว่าใครผิดหรือถูก แต่เมื่อ ส.ป.ก.ในพื้นที่ยอมรับ ก็ทำให้ข้อมูลค่อนข้างเอนเอียงในข้อเท็จจริงว่า ส.ป.ก.เป็นฝ่ายผิด แต่ยืนยันว่าอยากฟังความเห็นของ ส.ป.ก.ส่วนกลางด้วย เพื่อทำให้ทุกอย่างยุติและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะขยายผลไปถึงใครนั้น ก็ต้องให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายดำเนินการ
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่เป็นอะไร ให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นคนไปเคลียร์แล้วกัน ผมว่าตรงนี้ก็พยายามทำดีที่สุด ทุกอย่างยึดมั่นตามกฎหมาย"
ที่ศาลปกครองเวลา นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นฟ้องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว โดยสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงาน ส.ป.ก. ไว้จนกว่าจะมีการพิสูจน์พื้นที่ทับซ้อนระหว่างที่ดิน ส.ป.ก.กับเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติจำนวน 142 แห่ง และเขตพื้นที่มรดกโลก 7 แห่งทั่วประเทศ จนกว่าจะมีข้อสรุปทางกฎหมายชัดเจนต่อไป ส่วนพื้นที่ที่อยู่นอกพื้นที่ทับซ้อน ก็ให้ดำเนินการไปตามนโยบายของรัฐบาลตามปกติต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ
“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป