‘นช.’นั่งคุย2ชั่วโมง ‘เศรษฐา’มุดจันทร์ส่องหล้าเผย‘ทักษิณ’แค่เจ็บไหล่

จันทร์ส่องหล้า ๐ “เศรษฐา” เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า โผล่เยี่ยม “น.ช.ทักษิณ”  ใช้เวลาคุยเกือบ 2 ชั่วโมง เผยยังเหมือนคนป่วยอยู่ แต่มีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี แค่เจ็บไหล่ "อนุสรณ์" อวยแหลก การเข้าพบครั้งนี้ได้กลิ่นความเจริญ กลิ่นการพัฒนาหอมเข้มและขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ "หมอวรงค์" ตอกเจ็บ!    โกงติดคุกแล้วยังโกงคุมประพฤติ

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 24  กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เดินทางเข้ามาเยี่ยมอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับจากที่นายทักษิณได้รับการพักโทษ

โดยนายเศรษฐาเดินทางด้วยรถยนต์  All NEW Lexus LM 350h Executive 4-Seater สีเงิน Sonic Titanium ทะเบียน “สร 30 กรุงเทพมหานคร” ซึ่งเป็นรถคันใหม่ที่ทางทำเนียบรัฐบาลได้จัดซื้อให้เป็นรถประจำตำแหน่ง นำมาใช้เป็นครั้งแรก โดยนายเศรษฐาได้ลดกระจกลงทักทายกับสื่อมวลชนที่รอบริเวณนั้น

ต่อมาใช้เวลาเข้าพบประมาณเกือบ​ 2 ชั่วโมง นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า   วันนี้ก่อนมาเข้าพบได้โทรศัพท์ไปสอบถามอธิบดีกรมคุมประพฤติว่าสามารถมาเยี่ยมได้ปกติหรือไม่ เพราะเป็นวันเสาร์ เมื่อช่วงเช้าที่ติดตามงานอยู่ที่บ้านคิดไว้ว่าจะมาเยี่ยมเยียนท่านก่อนไปปฏิบัติภารกิจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณได้ให้คำแนะนำในการทำงานหรือไม่​ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้พูดจาอะไรมากขนาดนั้น เพราะนายทักษิณยังมีอาการเจ็บที่แขน แต่เริ่มขยับได้บ้าง และเชื่อว่าอาการคงดีขึ้น เพราะมีความสุขที่ได้อยู่บ้านหลังไม่ได้อยู่มานาน 17 ปี ทำให้มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี และนายทักษิณยังเป็นนายกฯ ที่มีความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย  มีความรู้สะสม

เมื่อถามว่า นายทักษิณ​มีความกังวล หรือเป็นห่วงการทำงานหรือไม่​ นายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่มี ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้มาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน แต่นายทักษิณก็บอกให้พักบ้าง เห็นข่าวทำงานหนักเหลือเกิน โดยได้ให้กำลังใจ พร้อมกับบอกว่าตัวนายทักษิณ อายุ 74 ปีแล้ว แก่กว่านายกฯ 1 รอบ ทำงานหนักมาก็ป่วย นายกฯ จึงต้องดูแลสุขภาพด้วยเหมือนกัน เพราะทำงานหนัก และยังชี้ให้เห็นว่าชีวิตมีมากกว่าการทำงาน​ ซึ่งในความคิดตนมาทำงานตรงนี้แล้วเราเสียสละ เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนเยอะ ก็ต้องทำงานให้หนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยเรื่องการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคร่วมไม่มีอยู่แล้ว​ ส่วนในเรื่องการเมือง นายทักษิณทราบดีว่าตนสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการต่อสายพูดคุยกัน เพราะในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปประชุมอาเซียนออสเตรเลีย จะพูดคุยกัน​ ขณะที่นายทักษิณก็บอกว่าสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเช่นกัน เพราะรู้จักมาก่อนตนอีก

ถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสให้นายทักษิณมาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า​ ยังไม่ได้พูดคุย วันนี้ขอให้ท่านรักษาตัวเองก่อนดีกว่า​ เพราะจุดมุ่งหมายหลักคือให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ กลับมาใช้ชีวิตปกติได้​

ซักว่ามีโอกาสจะตั้งนายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ไม่ได้พูดคุย ไม่มีโอกาสได้คุยตรงนี้ ไม่ได้คุยการตั้งอะไรหรือจะมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร ไม่มีเลย ยอมรับท่านเป็นห่วงบ้านเมือง บอกว่าช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ ปัญหาเศรษฐกิจเยอะ ตนก็ตอบรับและยังทำงานต่อไป ไม่ได้หนักใจอะไร เพียงแต่ขอให้ท่านรักษาร่างกายให้ดี

เมื่อถามว่า หากดูจากสภาพร่างกายของนายทักษิณ​ คาดว่าจะใช้เวลารักษานานเท่าใดจะหายเป็นปกติ นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่ใช่หมอ” ก่อนที่จะตอบเสียงอ่อนลงว่า ถามจากนายทักษิณก็บอกว่าดีขึ้น ไหล่พอขยับได้ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ที่ได้กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากละลาบละล้วงถามว่าเจ็บตรงไหนอย่างไร แต่ยังเหมือนคนป่วยอยู่

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่า นายทักษิณมีความสามารถในการบริหารประเทศ จะมีโอกาสมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร​ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ แต่มั่นใจว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องสุขภาพ คนเราเรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องสุขภาพ มีเงินมีอำนาจมากขนาดไหนถ้าสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีความสุข

"ช่วงเวลานี้คงโฟกัสที่เรื่องสุขภาพ เพราะฟังจากที่พูดว่าอยากกลับมาเป็นคนปกติ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างน้อยไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน  แต่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติกับครอบครัว และในวันที่ 25 ก.พ. ทางครอบครัวจะมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ก็ดีใจที่มีความสุขดี และวันนี้ท่านทักษิณเองยังรับประทานได้เพียงอาหารอ่อน ทานได้เพียงก๋วยเตี๋ยว กินได้แต่น้ำซุป และในมื้อกลางวันท่านทานก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้ง ส่วนผมทานข้าวซอยเนื้อ"

เมื่อถามว่า หากมีโอกาสจะเข้ามาปรึกษานายทักษิณอีกหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ​หากมีโอกาสก็จะเดินทางมาพบ แล้วแต่โอกาสและจังหวะ​ โดยในช่วงวันที่​ 2 มี.ค. ตนจะลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดและกาฬสินธุ์​ รวมไปถึงจะไปฟังพระสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิง​ศพภรรยานายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็คงได้มาพบกับนายทักษิณอีก และวันนี้มีเข้าเฝ้า​ฯ ​ไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่​ ถ้ามีโอกาสได้เจอ​ คงได้คุยกัน​ หากมีข้อกังวลตรงไหนก็จะรับฟังจากอดีตนายกฯ ทุกท่าน

"ผมเชื่อว่าอดีตนายกฯ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตาม เชื่อว่าทุกคนก็มีความหวังดีกับบ้านเมือง และทุกเรื่องที่แนะนำจะทำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของบริบทในปัจจุบัน มีขีดจำกัดต่างกันไปต่างสมัยกัน แต่เรื่องนี้เราต้องทำใจกว้าง" นายเศรษฐากล่าว

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐาเข้าพบนายทักษิณ ว่า ที่ผ่านมานายเศรษฐาเคยเข้าพบแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้กับอดีตนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายท่าน การเข้าพบนายทักษิณครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี กลิ่นความเจริญ กลิ่นการพัฒนาหอมเข้มและขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่านายทักษิณ จากอัศวินแห่งคลื่นลูกที่สาม สู่การปฏิรูปการเมือง สร้างผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และควรค่าแก่การจดจำไว้มากมาย การพบปะกันในครั้งนี้ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีที่สร้างผลงานไว้มากที่สุด กับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จึงถือเป็นเรื่องที่ดี ที่คนเก่ง 2 คน ต่างยุค ต่างช่วงเวลา ได้โคจรมาพบกัน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า โกงติดคุกแล้วยังโกงคุมประพฤติ ล่าสุดกรมคุมประพฤติเข้าพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ชี้แจงขั้นตอนนัดรายงานตัว และเงื่อนไขระหว่างการพักโทษ "5 ห้าม 5 ให้" ดื่มไวน์สังสรรค์ได้เล็กน้อย แถมให้โอกาสว่า ในระหว่างการพักโทษ ยังไม่มีการห้ามในเรื่องของงานทางการเมือง เพราะอย่างไรแล้วผู้ได้รับการพักโทษ เมื่อพ้นโทษก็จะได้ใช้ชีวิตปกติและมีสิทธิในฐานะคนไทยตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

แสดงว่ากรมคุมประพฤติไม่รู้เลยหรือว่า การพักโทษกรณีพิเศษ ไม่ว่าอายุเกิน 70 ที่ช่วยตนเองไม่ได้หรือได้บ้าง เจ็บป่วยร้ายแรง พิการ เขาให้ออกมาเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย เพราะช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาการใกล้ตาย ไม่ได้พักโทษเพื่อใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งต่างจากการพักโทษกรณีปกติ

ละครฉากนี้สะท้อนถึงปัญหากระบวนการยุติธรรม ไม่เพียงแต่กรมราชทัณฑ์เท่านั้น แต่กำลังลามไปถึงกรมคุมประพฤติด้วย แสดงให้เห็นว่านายทักษิณนอกจากโกงการติดคุกแล้ว ยังโกงการใช้ชีวิตช่วงคุมประพฤติด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.

'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ

ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)

'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง

ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"

แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา