ฉายาชำรุดยุทธ์โทรม สื่อทำเนียบฯตั้งให้‘บิ๊กตู่’ รบ.‘ยื้อยุทธ์’แย่งอำนาจ!

นักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาล "ยื้อยุทธ์" ส่วน "บิ๊กตู่" ได้ฉายา "ชำรุดยุทธ์โทรม" ด้าน "บิ๊กป้อม-รองช้ำ" และ "อนุทิน-ว้ากซีน" คำสุดฮิต "นะจ๊ะ" รับวาทะแห่งปี "เสี่ยหนู" ไม่เคืองยอมรับภูมิใจ-ไทย ขณะที่ "ดร.เสกสกล" พลิ้วชำรุดยุทธ์โทรมเป็นเรื่องธรรมดา เพราะบ้านเมืองชำรุด นายกฯ ก็ต้องทำงานอย่างหนัก ไม่เคยคิดถึงเรื่องของตัวเอง

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา ในการสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาลโดยปราศจากอคติ ได้มีมติตั้งฉายารัฐบาล, รัฐมนตรี และวาทะแห่งปีประจำปี 2564 ร่วมกันดังนี้

โดยฉายารัฐบาล คือ "ยื้อยุทธ์" ภาพของรัฐบาลที่ยื้อแย่งกันเอง ทั้งในส่วนของอำนาจและตำแหน่ง โดยไม่สนใจประชาชน และการเดินหน้าประเทศ ถูกมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม และมองการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล จะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป ไม่ว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ไสส่งอย่างไร ใครไม่อยู่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่

ฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ "ชำรุดยุทธ์โทรม" การบริหารราชการแผ่นดินตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ถือได้ว่าเป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่งปี ถูกมองว่าล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ถูกโจมตีรอบด้าน แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังอยู่ในตำแหน่งได้ แต่ก็ทรุดโทรม เสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ฉายา "รองช้ำ" ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พี่ใหญ่ในตระกูล 3 ป.อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประสบกับเรื่องช้ำๆ เจ็บซ้ำๆ มาโดยตลอด หลายสถานการณ์ต้องตกเป็นรอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องการเมือง โดยเฉพาะปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐที่เกิดความแตกแยกอย่างหนัก สะเทือนถึงพี่น้องอีก 2 ป. สั่นคลอน "3 ป. Forever" ซ้ายก็น้องรัก ขวาก็ลูกน้องที่รัก หักใจเลือกใครไม่ได้ สุดท้ายต้องยอมแบกความเจ็บช้ำไว้คนเดียว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ฉายา "ว้ากซีน" ล้อมาจากคำว่า "วัคซีน" ภาพที่ผู้คนชกต่อยยื้อแย่งวัคซีน บุคลากรทางการแพทย์ดาหน้าออกมาเรียกร้องวัคซีนชนิด mRNA ผู้คนว้าก โวย เหวี่ยง ตำหนิการจัดหาและให้บริการวัคซีนที่ถูกเลื่อนไม่มีกำหนด เพราะวัคซีนไม่มาตามนัด ไม่ว่านายอนุทินจะชี้แจงอย่างไร กระแสตอบรับโดยเฉพาะใน Social Media ไม่มีคำว่ารักษาน้ำใจ หรือเห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญหาภาวะวิกฤต จนนายอนุทินต้องออกมาโต้ตอบอย่างดุเดือดผ่านสื่อและโซเชียลทุกครั้งที่มีโอกาส

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ฉายา “นายกฯ บางโพล" แม้ปีนี้ยังไม่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง แต่หัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรคแสดงความพร้อมประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรี หนึ่งในนั้นคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีผลสำรวจความคิดเห็น หรือโพลบางสำนักเท่านั้น ที่ต้องการให้นายจุรินทร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เปรียบได้กับการเป็นนายกรัฐมนตรีแค่บางโพล ไม่ใช่ทุกโพล

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ได้ฉายา "มหาเฉื่อย 4D" (อ่านว่าโฟร์ดี) ตลอดการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ยังแสดงฝีมือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ไม่เด่นชัด เช่น ปัญหาราคาน้ำมันแพง จนสมาคมรถบรรทุกออกมาประท้วงและหยุดวิ่ง ประชาชนกลายเป็นประชาจน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แม้จะผุดโปรเจ็กต์ต่างๆ ก็ถูกมองเป็นนโยบายขายฝัน ด้วยเอกลักษณ์เดินถือแก้วกาแฟชิลๆ มอบนโยบายเหมือนบรรยายธรรม โดยเฉพาะนโยบาย 4D ท่องจนเป็นคาถาติดปาก จึงได้รับฉายานี้ไป

นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้ฉายา "สุชาติ ชมเก่ง" เกือบทุกครั้งในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อพูดถึงนโยบายของรัฐบาลหรืองานในความรับผิดชอบ นายสุชาติมักจะขึ้นต้นประโยคด้วยการชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร จะได้รับการยกยอปอปั้นอยู่เสมอ แถมยังติดสอยห้อยตามการลงพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นรัฐมนตรีหนึ่งเดียวที่ขันอาสา ออกหน้ารับคำท้าขึ้นชกมวยคาดเชือกกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แทนนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาท้าว่า ใครแพ้ลาออก และหากไม่รับคำท้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ฉายา "สายขม นมชมพู" ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่คาราคาซังมานานข้ามปียังไม่มีข้อยุติ ผลพวงจากภาระหนี้สินก้อนใหญ่ยังหาทางออกไม่ได้ กลายเป็นเรื่องขมคอของหลายหน่วยงานภาครัฐ ซ้ำเจ้าตัวยังมีภาพหลุดที่ ส.ส.พรรคเล็กขุดมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อมโยงคลัสเตอร์โควิด-19 สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ก่อนออกมาชี้แจงว่าภาพดังกล่าวแค่สะท้อนชีวิตหนุ่มโสด ร้องคาราโอเกะ ดื่มนมชมพู หาความสุขหลังเลิกงาน ไม่ใช่ชายเสเพล ใช้ชีวิตประมาทจนเกิดคลัสเตอร์การระบาด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้ฉายา "ดีลล่มระดับโลก" การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศไทย อีเวนต์ที่จะปลุกให้ทั่วโลกหันกลับมามองประเทศไทย และฟื้นเศรษฐกิจอีกครั้ง คืองานเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ออกตัวการันตี Lisa วง Black Pink ศิลปินเกาหลี สัญชาติไทย ที่โด่งดังระดับโลกตอบรับมาร่วมงาน ก่อนที่ดีลจะล่มไม่เป็นท่าเมื่อต้นสังกัดออกแถลงการณ์ดับฝัน ทำให้รัฐบาลเสียเครดิต แม้แต่โครงการ Sandbox ก็เกือบจะเป็น Sadbox ต้องลดพื้นที่ให้เหลือแค่จังหวัดภูเก็ตเพราะสถานการณ์โควิด-19 ปะทุ

ส่วนวาทะแห่งปี 2564 "นะจ๊ะ" เป็นคำพูดติดปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แม้จะเป็นคำสามัญธรรมดาที่ใช้ทั่วไป แต่กลายเป็นคำไม่ธรรมดาเมื่อออกจากปากของผู้นำประเทศในช่วงสถานการณ์วิกฤต ที่ประชาชนสิ้นหวัง มีผู้คนล้มตายข้างถนน ตกงาน ขาดรายได้จากวิกฤตโควิด-19 แม้นายกรัฐมนตรีบอกว่าเลือกใช้คำดังกล่าว เพื่อที่จะลดอุณหภูมิของสถานการณ์ลง แต่สังคมสะท้อนกลับให้เห็นผ่านเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ว่าเป็นการใช้คำไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ กระทบกระเทือนจิตใจผู้คน โดยเฉพาะการพูดหลังการประชุมวัคซีนและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่ประชาชนต่างรอคอยการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณาข้อเสนอมาตรการล็อกดาวน์ กทม.และปริมณฑล สะท้อนภาวะความเป็นผู้นำที่ล้มเหลวในการสื่อสารเมื่อเกิดภาวะวิกฤต

นายอนุทินกล่าวถึงฉายาว้ากซีนว่า "ก็ดีครับ ดีที่มีคำว่าวัคซีนหรือว้ากซีน และวัคซีนเต็มแขน ก็เป็นสิ่งที่ถ้าไปเข้าหูประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 ก็จะได้มารับวัคซีน และยิ่งไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขอให้ญาติพี่น้องพามารับว้ากซีน ส่วนเข็ม 2 ไม่มีปัญหา เพราะใครที่มารับวัคซีนเข็มแรกก็จะมารับวัคซีนเข็ม 2 อยู่แล้ว ตอนนี้เราพูดกันถึงเข็ม 3-4 แล้ว" พร้อมกล่าวขอบคุณที่ตั้งฉายานี้ให้ และใช้ตนเป็นสื่อในการกระจายคำว่าวัคซีนไปสู่พี่น้องประชาชน ตนก็ยินดี

ส่วนฉายา ครม.ว่า "ยื้อยุทธ์" นั้น นายอนุทินหัวเราะและบอกว่า "ก็ดีนะ ให้นายกรัฐมนตรีได้อยู่ครบเทอม ทุกคนทำงานไม่ต้องยื้อหรอก ถ้าไม่ดีจริงไม่อยู่ถึงวันนี้หรอกครับ มือเท่าไหร่ก็ยื้อไม่ได้" หลังจากตอบคำถามเสร็จก็เดินออกทันที

ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่า รู้สึกเคืองหรือไม่ที่ถูกตั้งฉายาแบบนี้ นายอนุทินตอบว่า "ภูมิใจ ภูมิใจ ภูมิใจไทย"

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ต้องขอชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อนี้ขึ้นมา สำหรับคำว่า “ชมเก่ง” ถือเป็นวลีที่สมเหตุสมผล เพราะตนเองก็ชื่นชมทั้งพลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตรมาโดยตลอด

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตั้งฉายารัฐบาลว่า "ยื้อยุทธ์" ยังมีนัยที่ต้องยื้อ เพราะนายกฯ เป็นคนที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง และพัฒนาประเทศมาโดยตลอด แก้ไขปัญหาจนสถานการณ์คลี่คลายลง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกันได้แก้ไขปัญหาที่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยได้ก่อหนี้สร้างปัญหาเอาไว้จากโครงการทุจริตมากมายอีกด้วย

“สื่อให้ฉายานายกฯ ชำรุดยุทธ์โทรม ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมองว่าบ้านเมืองชำรุดมามากมาย นายกฯ ต้องทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดในการแก้ไขปัญหา ไม่เคยคิดถึงเรื่องของตัวเอง คิดถึงแต่ชาติบ้านเมืองและประชาชน ผมเองขอบคุณสื่อและประชาชนที่เข้าใจการทำงานของนายกฯ ว่าทุ่มเทตลอด ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่นี้ไม่เคยท้อแท้แม้งานหนัก ส่วนเรื่องสุขภาพก็เป็นไปตามวัย แต่ยังแข็งแรงทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตใจ ยังมีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป”

"ก่อนหน้านี้สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ สื่อตั้งฉายารัฐบาล 'พี่คนแรก' เพราะเอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน หรือฉายานางสาวยิ่งลักษณ์ 'ปูกรรเชียง' เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทางในการบริหารงาน และใบสั่งจากพี่ชาย พี่สาว ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม มีปัญหาทางการเมืองก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา แบบนี้ถือว่าสะท้อนการทำงานของรัฐบาลสมัยนั้นหรือไม่ โฆษกพรรคเพื่อไทยช่วยชี้แจงประเด็นนี้หน่อยจะได้ไหม" นายเสกสกลกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง