สยบเกาเหลา สปก.เขาใหญ่ รอทหารชี้ขาด

“ธรรมนัส” ถก “พัชรวาท”    สยบเกาเหลากันเอง ชี้ข้อสรุปที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ หากติดกรมอุทยานฯ ไม่ควรจัดสรรให้ ปชช. พร้อมรอกรมแผนที่ทหารชี้ขาด หากอยู่ในเขตกรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.โดนแน่  “บิ๊กป๊อด” บอกพรรคเดียวกันคุยกันรู้เรื่อง ขณะที่ “ปลัด​ ทส.”  ยันให้ความเป็นธรรม “ชัยวัฒน์​” หลังป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรงปมคดีก่อสร้าง​ ป่าแก่งกระจาน​ ลั่นปกป้องคนทำงาน​

วันที่ 20 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพย์ กรณีปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีการทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ ส.ป.ก.

โดยยืนยันว่าแต่ละหน่วยงานต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงต้องมาแก้ปัญหา ต้องยึดตามหลักกฎหมาย โดยกรมแผนที่ทหารเป็นเจ้าภาพในการเดินหน้าแบ่งเขตแนวที่ดินของรัฐ หรือวันแมป ข้อพิพาทเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ข้อพิพาทอยู่ในเขตกรมอุทยานฯ  หรือเขตปฏิรูปที่ดิน

พร้อมทั้งนำภาพถ่ายทางอากาศมาประกอบ โดยเฉพาะหลักสภาพความเป็นจริง เนื่องจากการจัดสรรที่ดินต้องมีกรอบและหลักการที่ชัดเจน ซึ่งพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรมอุทยานฯ และ ส.ป.ก. หากจัดสรรให้กับชาวบ้าน ปัญหาความรับผิดชอบก็ไม่พ้นรัฐบาล เช่น กรณีสัตว์ป่าบุกรุกที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งในความคิดของตน ไม่ควรจัดสรรพื้นที่แบบนี้ให้ชาวบ้าน และเสี่ยงที่ชาวบ้านจะรุกล้ำพื้นที่ของกรมอุทยานฯ

 ตนในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรการปฏิรูปที่ดิน จะตั้งกรอบออกเป็นแนวทางการจัดสรรที่ดิน โดยจะระบุเอาไว้ว่าพื้นที่ตรงไหนที่เป็นเขตรอยต่อกับกรมอุทยานฯ ห้ามนำมาจัดสรร ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาโดยยั่งยืน และจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี แต่ขณะนี้ทั้ง 2 กระทรวงเห็นตรงกัน รอกรมแผนที่ทหารชี้ขาด ซึ่งถ้าพิสูจน์ทราบว่าเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.แล้วจะทำเป็นป่าชุมชน ไม่จัดสรรให้ทำกิน

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการออก ส.ป.ก. โดยเลขาฯ ส.ป.ก.ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา เพื่อความสบายใจของคณะกรรมการสอบสวน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ได้ระบุความผิด แต่หากมีความผิดจริงก็ไม่ละเว้น เพราะถือว่าประพฤติชั่วร้ายแรง และเป็นความผิดอาญาตามมาตรา 157 รวมถึงวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก

ส่วนที่มีความพยายามโยงให้เป็นเรื่องการเมือง เป็นความขัดแย้งระหว่าง ร.อ.ธรรมนัสกับ พล.ต.อ.พัชรวาทนั้น ร.อ.ธรรมนัสบอกว่า เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โทร.มาหาตนแล้วให้ 2 กระทรวงไปหารือกันถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่ผ่านมาก็มีการหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาทมาโดยตลอด ยืนยันว่าไม่มีข้อพิพาทใดๆ

“ผมกับพี่ป๊อดนับถือเหมือนพี่น้อง และเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือมาก และผมมีสัมมาคารวะ ส่วนจะแจ้งความนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช​ กรณีไปถอดหมุดหรือไม่นั้น ต้องรอกรมแผนที่ทหารชี้ขาดว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของหน่วยงานใด หากเป็นพื้นที่ของกรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.โดนแน่ ซึ่งโดยอำนาจหน้าที่ตอนนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการเดินหน้าแนวเขตที่ดินของรัฐ หรือ วันแมป และมอบหมายให้กรมแผนที่ทหาร ซึ่งมีเครื่องมือ ทุกอย่างต้องฟังจากกรมแผนที่ทหาร” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ก่อนหน้านี้การหารือ พล.ต.อ.พัชรวาท​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า ไม่มีอะไร เรื่องนี้ต้องยึดหลักกฎหมาย​ อย่างอื่นไม่ค่อยเกี่ยวสักเท่าไหร่หรอก​ ซึ่งต้องยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อพิพาทดังกล่าวเกิดจากการใช้แผนที่คนละฉบับใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริง​ หลักกฎหมายเป็นหลัก

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยวัฒน์​ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ​ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง​ จ้องฮุบพื้นที่ดังกล่าว พล.ต.อ.พัชรวาท​ ย้อนถามกลับว่า​ ต้องไปถามเขา

เมื่อถามว่า ในฐานะที่นายชัยวัฒน์อยู่ในกำกับดูแล จะให้ความเป็นธรรมหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ก็ไม่ได้คุยกับเขา ก็พูดไป เมื่อถามย้ำว่าจะต้องฟังจากนายชัยวัฒน์หรือไม่​ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ไม่หรอก​ เราต้องดูหลักกฎหมายก่อน​ เอาข้อเท็จจริงมาประกอบ และคิดว่าหลังการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส​ ก็คงรู้เรื่อง​ พรรคเดียวกันอยู่แล้ว​

ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทปฏิเสธการตอบคำถามว่าหากนายชัยวัฒน์ยื่นอุทธรณ์หลังถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.​ ชี้มูลคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบ มายังกระทรวงจะเปิดโอกาสให้หรือไม่​ โดยเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

 ขณะที่นายจตุพร ​กล่าวถึงกรณีนายชัยวัฒน์​ถอดหมุดสามารถทำได้หรือไม่ว่า   สิ่งใดก็ตามที่อยู่ในเขตอุทยาน หากเข้าไปบุกรุก สามารถดำเนินการได้​ ซึ่งถือเป็นเหตุที่มีความละเอียดอ่อน โดยป่าสงวนจะเป็นไข่ขาว อุทยานคือไข่แดง​ แต่จะเข้าขอไปตรวจสอบในรายละเอียด​หากนายชัยวัฒน์​ถูกแจ้งข้อกล่าวหา​ ยืนยันว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายชัยวัฒน์ หากอยู่ในพื้นที่อุทยานก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้

 อีกทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลก จึงต้องไปพิสูจน์ทราบว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปปักหมุดสามารถทำได้เลยหรือไม่​ และต้องไปดูขั้นตอนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินฯ จะต้องเข้ามาอย่างไร ต้องไปดูภาพรวมทั้งหมด รายการที่จะเข้าไปปักแนวเขตอะไรก็แล้วแต่ มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ว่าจะต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขั้นตอนละเอียดอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานที่จะหาข้อยุติในเรื่องนี้

                    เมื่อถามว่า พื้นที่ที่ปักหมุดจะเตรียมแบ่งไว้ให้ประชาชนทำกินหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ​ แต่ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างอุดมสมบูรณ์​ เมื่อถามว่า คาดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยานฯ หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ยืนยันว่ามีพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอยู่​ เป็นข้อกฎหมาย​

 ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม กล่าวถึง​กรณีที่นายชัยวัฒน์​ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.​) ชี้มูลคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโดยมิชอบ ผิดวินัยร้ายแรง และส่งอัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา ว่า​ ทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดของนายชัยวัฒน์​เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางต้นสังกัดก็จะส่งรายละเอียดมาให้สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่ ทั้งเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์​สามารถอุทธรณ์และร้องขอความเป็นธรรมกับทางกระทรวงได้ ซึ่งยอมรับว่าข้าราชการเราโดนแบบนี้มาเยอะ ก็เปิดให้เขาร้องขอความเป็นธรรมและเสนอหลักฐานเข้ามา

"เราก็ต้องดูแลคนของเรา คนทำงานก็ต้องยอมรับว่า ต้องมีผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ถ้าผิดแล้วเป็นปัญหา เราก็ต้องดูแลเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานให้เขา ลูกน้องของผมทุกคนผมดูแลหมด และให้ความเป็นธรรมทุกคน" นายจตุพรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง