ขันนอต‘NBT’พีอาร์รบ. ร้องใช้รถหลวงไปปาร์ตี้

นายกฯ ต้อนรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เยือนไทยอย่างเป็นทางการ “เศรษฐา” บอกรักวาเลนไทน์ ชี้ทำทุกอย่างสำเร็จไม่ได้หากไร้ความร่วมมือ “สมศักดิ์” ขันนอตช่อง  “เอ็นบีที” เพิ่มเรตติ้งโชว์ผลงานรัฐบาล พร้อมจี้ช่วยแก้เฟกนิวส์ ขณะที่ดินเนอร์รัฐบาลพ่นพิษ! เรืองไกรร้อง ป.ป.ช.สอบใช้รถหลวงไปงาน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับพลเอกเดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย  ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

โดยนายกรัฐมนตรีและผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้น ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียลงนามในสมุดเยี่ยม และชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน บริเวณห้องสีงาช้างด้านนอก จากนั้นเวลา 11.00 น. ทั้งสองฝ่ายร่วมหารือข้อราชการ ณ ห้องสีงาช้างด้านใน เพื่อร่วมผลักดันความร่วมมือ การค้า การลงทุน แลกเปลี่ยนระดับประชาชนและกลาโหม

จากนั้น มีการจัดชมศิลปะมวยไทย ซึ่งนายเศรษฐาได้กำหนดเป็นส่วนหนึ่งในการต้อนรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และภริยา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ณ โถงกลางตึกสันติไมตรี อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐามีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครพนม สกลนคร และอุดรธานี ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.นี้ โดยมีภารกิจที่สำคัญ  อาทิ ร่วมงานนมัสการพระธาตุพนม เพื่อร่วมงานนมัสการพระธาตุพนมและพบปะประชาชน, ไปศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ปัญหาคุณภาพดิน การจัดการน้ำ และประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหา,   ติดตามนโยบาย 30 บาทรักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และมอบ สัญญาเช่าที่ราชภัฏพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามสัญญาเช่าที่ดิน “หนองวัวซอโมเดล” ฯลฯ

วันเดียวกัน นายเศรษฐาได้โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า "เนื่องในวันแห่งความรัก ผมนึกถึงสิ่งที่พยายามผลักดันมาโดยตลอด นั่นคือ สิทธิในการเลือกเพศสภาพ เลือกคู่ชีวิต ตลอดจนสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และไม่เคยทอดทิ้ง เพราะผมเชื่อว่า ความรัก เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทุกอย่างครับ

มักมีคนถามผมอยู่เสมอว่า เป็นนายกฯ มีเรื่องอะไรที่ทำให้ประหลาดใจมากที่สุด ผมเลยคิดได้ว่า นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ แต่อำนาจบริหารเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอจริงๆ เพราะผมคงไม่สามารถจะทำทุกอย่างให้สำเร็จได้เพียงแค่มีตำแหน่ง หากไม่ได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนด้วย

ผมขอให้พลังแห่งความรักที่ทุกคนทุกฝ่ายมีต่อประเทศชาติ แปลงเป็นพลังแห่งความร่วมมือ สร้างโอกาสให้ประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน Happy Valentine's Day   14 ก.พ.67 ครับ"

ทางด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (กปช.) โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์, นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ได้มีการหารือถึงการประชาสัมพันธ์ผลงานของภาครัฐ เพื่อยกระดับให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารจากรัฐบาลโดยตรงและรอบด้าน เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา กรมประชาสัมพันธ์ โดยช่องเอ็นบีที ยังไม่สามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ ไปยังประชาชนได้อย่างครอบคลุม

จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะหากดูจากการรายงานเรตติ้งทีวีดิจิทัล พบว่าช่องเอ็นบีทีอยู่ในลำดับที่ 17 ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสามารถยกระดับให้มีเรตติ้งที่ดีขึ้นได้ เพื่อให้มีประชาชนมาติดตามข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

 “ที่ประชุมมีการสะท้อนว่า ปัจจุบันผลงานของรัฐบาล ทีวีดิจิทัลของภาคเอกชน ให้เวลาสัดส่วนการนำเสนอเพียงเล็กน้อย เพราะต้องให้น้ำหนักข่าวชาวบ้าน ที่ทำให้เรตติ้งสูง ดังนั้น ผลงานของรัฐบาลก็จะถูกนำเสนอลดลงไปด้วย ซึ่งขณะนี้ช่องเอ็นบีทีก็กำลังมีการปรับตัว โดยมีการปรับการนำเสนอ ช่วงเวลาข่าว และรูปแบบรายการ เพื่อจะได้เป็นอีกช่องทางสำคัญของรัฐบาล ที่จะได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชน รวมถึงต้องยอมรับว่าเวลามีเรื่องที่สังคมสงสัย ส่วนราชการจะไม่ค่อยออกมาชี้แจง ซึ่งใช้การส่งเอกสารข่าวชี้แจงแทน ทำให้ภาครัฐดูไม่ค่อยดี ผมจึงฝากให้ช่วยกันสื่อสารด้วยความรวดเร็ว อย่าปล่อยให้ประชาชนเข้าใจผิด” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

ขณะที่นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ขณะนี้ ช่องเอ็นบีทีกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ในการปรับรูปแบบการนำเสนอ ให้ประชาชนหันมาติดตามมากขึ้น ซึ่งขอยืนยันว่า ให้ความสำคัญกับเรตติ้งเป็นอย่างมาก เพราะตนได้สั่งการในที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่า ให้มีการปรับเปลี่ยนในหลายส่วน เพราะการทำงานด้านข่าวสารต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะการแก้ข่าวเฟกนิวส์ ที่พบว่า ปัจจุบันมีจำนวนมาก ดังนั้น การสื่อสารของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากทำให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น ก็จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนเข้าใจผิดได้

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า วันนี้ (14 ก.พ.) ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบงานเลี้ยงร่วมมือร่วมใจรัฐบาลประชาชนว่ามีการนำรถหลวงไปใช้ในงานดังกล่าวหรือไม่ และจะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไร หรือไม่ ดังต่อไปนี้

1.เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2567 สำนักข่าวอิศราลงข่าวหัวข้อ ใช้รถหลวงไปเรียนหนังสือ! เผยพฤติการณ์อดีตนายก อบต. นาตงวัฒนา โดนโทษหนักคุก 20 ปี รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2.วันที่ 13 ก.พ.2567 มีการ์ดเรียนเชิญคณะรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค สส. กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี (ที่ได้รับแต่งตั้งโดยมติ ครม.) ไปร่วมงาน “ร่วมมือ ร่วมใจ รัฐบาลประชาชน” รับประทานอาหารและสังสรรค์ โดยเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 17.30 น. ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง ชั้น 6

3.ในงานเลี้ยงดังกล่าวซึ่งเป็นเวลานอกราชการ ปรากฏว่ามีการใช้รถหลวงทั้งมอเตอร์ไซค์ รถประจำตำแหน่ง รถราชการ ไปร่วมงานกันจำนวนมาก เลขทะเบียนชัด และมีทั้งภาพนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ที่ไปร่วมงานหลายราย และมีการนำรถที่มีตราราชการไปใช้ด้วย และ 4.กรณีดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบว่า มีการนำรถหลวงไปใช้ในงานดังกล่าวหรือไม่ และจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรหรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า ที่สนใจเรื่องนี้ เพราะเมื่อวานมีการนัดประชุม กมธ.งบประมาณ 2567 ซึ่งตามปกติจะเลิกสามทุ่ม แต่ประธานที่ประชุมเร่งให้จบเร็ว ทำให้หน่วยงาน กทม.และพัทยา ที่อยู่ในระเบียบวาระต้องเลื่อนออกไป จึงหาสาเหตุว่าทำไมจึงรีบปิดประชุม จึงทราบว่าบางคนจะรีบไปงานเลี้ยงดังกล่าว.