หนังสือป.ป.ช. เตือนแจกเงิน ถึงมือรัฐบาล!

ไทยโพสต์ ๐ "เศรษฐา" เผยหนังสือข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช.ถึงมือรัฐบาลแล้ว   ยันโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีโกง มั่นใจได้แจกแน่ “พิธา” ยุอย่าทำตาม ป.ป.ช. แนะรัฐบาลต้องมีแผนสอง    การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องใช้ดิจิทัลวอลเล็ต อย่าเอาไข่ใส่ในตะกร้าใบเดียว

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า หนังสือข้อเสนอแนะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งมาถึงรัฐบาล และแน่นอนว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ชุดใหญ่ วันที่ 15 ก.พ.นี้ จะต้องเอารายงานของ ป.ป.ช.มาพิจารณาด้วย

เมื่อถามว่า หากยึดตามแนวทางของ ป.ป.ช. จะปลอดภัยจากการทุจริตหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า กำลังพูดคุยกัน  แต่มั่นใจอยู่แล้วว่าหลักการของโครงการนี้จะต้องไปถึงมือประชาชน และไม่มีการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างที่บอกเรื่องของการป้องกันการทุจริตจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันจะไม่ลดเป้าหมายของโครงการใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ใช่ครับ แต่ต้องฟังความเห็นทุกฝ่ายอีกรอบ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกาและ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ข้อเสนอแนะว่า คิดว่าหลักการสำคัญในการดำเนินนโยบายเป็นหน้าที่ของรัฐบาล   แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง ป.ป.ช.ก็มีหน้าที่ของเขา รัฐบาลก็มีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ควรให้องค์กรอิสระมาควบคุมการทำงานของคนที่มาจากการเลือกตั้ง 

ในขณะเดียวกัน มองว่ารัฐบาลต้องหาทางออกหรือมีแผนสองในเรื่องนี้ ที่เศรษฐกิจซึม และมีความลำบากที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นธุรกิจเอสเอ็มอีในถนนเยาวราช ก็จะมีปัญหาสภาพคล่องกันมาก เพราะมีเรื่องของสินค้าและทุนจีนเข้ามา หากจะวิเคราะห์เศรษฐกิจให้เห็น จะเห็นได้ว่าไตรมาสที่ผ่านมาเรามีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่รายได้ลดลง แม้นักท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวนมาก ภาคส่งออกลดลง การใช้จ่ายของรัฐบาลลดลง  

"ถ้าหากเราแก้ให้ถูกจุด ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจใด้ตรงจุด อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าใบเดียวว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น คิดว่าไม่ได้เป็นการบริหารความเสี่ยงที่ดี     ย้ำว่ารัฐบาลต้องมีแผนสองได้แล้วว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร คิดว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องลงรายละเอียดมากๆ  และอย่าดูถูกการกระตุ้นเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบน เล็กๆ น้อยๆ ที่อาจใช้รวมกันแล้วแก้ถูกจุด ใช้งบประมาณเหมาะสม และสามารถทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักได้ อย่ามองแต่บนลงล่างอย่างเดียว" นายพิธากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่งตรวจสอบ TEMU อีคอมเมิร์ซจีนตีตลาดไทย ยันต้องเสียภาษี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จ.นราธิวาส ถึงกรณีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Temu ของจีนเข้ามาตีตลาดไทย รวมถึงตลาดอื่นทั่วโลก จึงกังวลว่าเงินจะถูกส่งกลับจีน โดยไม่ได้มีการจ่ายภาษีให้กับประเทศไทยว่

'จตุพร' รู้ทัน 'ทักษิณ' ขอเดินทางออกนอกประเทศ เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์!

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) รายงานผลบสอบสวน