
พระราชวังดุสิต ๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันมาฆบูชา และทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2567 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงเจิมเทียนรุ่ง เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันมาฆบูชา และทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2567
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย และทรงเจิมเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศถวายพระราชทานไปจุดบูชาพระรัตนตรัยถวายเป็นพุทธบูชาตามพระอารามหลวงต่างๆ เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันมาฆบูชา จำนวน 7 วัด ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร และวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ต่อจากนั้น เวลา 08.01 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2567 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป ที่โต๊ะเครื่องสังเวย ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทรงกราบ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง สมควรแก่เวลา จึงเสด็จขึ้นพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พิธีสังเวยพระป้ายมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ตามที่ทรงพระราชดำริว่า การแต้มป้ายเป็นธรรมเนียมของชนชาติจีน ซึ่งนับถือบรรพบุรุษเป็นที่พึ่ง และเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสานพิธีดังกล่าว โดยมีการแต้มพระป้ายพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช กับพระนามสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพระป้ายไปประดิษฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน “พระป้าย” สำหรับประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ประดิษฐาน ณ ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน เป็นพระป้ายพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช กับสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จารึกเป็นภาษาจีน บนแผ่นไม้จันทน์ปิดทอง และพระป้ายที่ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เป็นเทวรูปหล่อ ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช เหมือนพระสยามเทวาธิราช แต่พระพักตร์มีลักษณะคล้ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช สร้างด้วยไม้จันทน์จำหลักลงรักปิดทอง มีฉัตรทอง 5 ชั้น ตั้งอยู่ 2 ข้าง และจารึกพระปรมาภิไธยเป็นภาษาจีน ด้านหลังซุ้มเรือนแก้ว
พิธีสังเวยพระป้าย เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีและแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของลูกหลานที่มีต่อบรรพบุรุษ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ไปประกอบพิธีสังเวยพระป้าย ณ พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นประจำทุกปี
เวลา 17.06 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปทรงเปิดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2567 ซึ่งปีนี้กรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับชาวไทยเชื้อสายจีน ภาคเอกชน และ TCC GROUP (กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น) จัดงานขึ้นภายใต้ชื่อ “เบิกฟ้าพญามังกร ร่ำรวยบารมี สุขีนิรันดร์” นอกจากนี้ ได้พระราชทานพรปีมะโรงงูใหญ่แก่พี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนในประเทศไทยเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วยว่า “ปีมังกรให้ได้ดังประสงค์” ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ประทับรถไฟฟ้าเสด็จฯ ไปยังวัดมังกรกมลาวาส ทรงวางพระหัตถ์ที่ประตูเปิดประตูชัยมงคล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธปฏิมาตรีกาย พระประธานอุโบสถ เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาสสวดถวายพระพร เสด็จฯ ไปยังวิหารเทพ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาเทพคุ้มครองชะตาชีวิต (ไท่ส่วยเอี้ย) เทพเจ้าไภษัชยราช และเทวแพทย์ฮัวโต๋ (ฮั่วท้อ) จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงเปิดร้านคั้นกี่น้ำเต้าทองแห่งใหม่ พร้อมกับทอดพระเนตรนิทรรศการ และเสด็จฯ กลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตลอดเส้นทางพระราชดำเนินในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราชประจำปี 2567 ณ ถนนเยาวราช อย่างเนืองแน่น สำหรับตรุษจีนเยาวราชปีนี้ยังคงมีประชาชนเดินทางมาร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในเขตสัมพันธวงศ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล มั่งมี ศรีสุข ต้อนรับปีใหม่จีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทหารไทยเสียขาที่9คา‘จีบีซี’
ไทยยัน จม.ของ “เตีย เซ็ยฮา” มีนัยขอเจรจาหยุดยิง-เสนอให้ถอยกำลังทหารไปอยู่ที่จุดเดิม
‘นํ้าเงิน-ส้ม’เปิดศึก! ‘หนู’ลั่นพรรคใดแก้ม.112ไม่ร่วมด้วย-‘เท้ง’ท้าแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล
“ภูมิใจไทย” ขยับใหม่ ประกาศแคนดิเดตนายกฯ 2 คน “อนุทิน-สีหศักดิ์” ผวา! ส่งชื่อคนเดียวสุ่มเสี่ยง ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้
กรมศิลป์รับมอบไม้จันทน์หอมสร้างพระโกศฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชวินิจฉัยแบบพระโกศจันทน์ยอดมหามงกุฎสมพระเกียรติ "พระพันปีหลวง"
กกต.กทม.คุมเข้ม รับสมัครสส.เขต ที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น
กกต.กทม.พร้อม 90% เปิดศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น รับสมัคร สส.กทม. 33 เขต 27-31 ธ.ค.
จัดเก็บรายได้วืด2.8หมื่นล. คลังลุยกู้ชดเชยการขาดดุล
คลังจัดเก็บรายได้ 2 เดือนแรกของปีงบ 69 ไม่เข้าเป้า วืด 2.8 หมื่นล้านบาท
ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดน
พระเจ้าอยู่หัวฯพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ พร้อมให้พิจารณาสิทธิพิเศษเพิ่มเติมแก่ทหาร-ครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

