"ผบ.นรด." ส่งทหารพระธรรมนูญแจ้งความดำเนินคดี "จิรัฏฐ์" ข้อหาปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม “สุทิน” ตอกก้าวไกล ปม สด.43 เก๊ ให้ดูต้นทางใครทำผิด ลั่นในส่วนกองทัพแม้เกษียณยังลากตัวเข้าคุกได้ ยกเลิกบำเหน็จบำนาญ
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีข้อสงสัยการได้มาซึ่งใบผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือใบ สด.43 ของนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ว่าอาจจะได้มาโดยไม่ถูกต้อง จนเป็นที่มาร้องเรียนให้กองทัพบกตรวจสอบ ซึ่งต่อมา พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ได้แถลงถึงการได้มาของใบ สด.43 ของชายไทยที่ถูกต้อง โดยสังเกตได้จากมีลายเซ็นจากคณะกรรมการตรวจเลือกครบทั้ง 5 คน และรับจากมือประธานกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือกเท่านั้น รวมถึงต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งหากไม่ครบตามองค์ประกอบนี้ จะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้นั้น
ล่าสุด พล.ท.ทวีพูลได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญ เข้าแจ้งความดำเนินคดี นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ที่ สน.ประชาชื่น ข้อหาปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเดินหน้าตรวจสอบทหารขายใบ สด.43 ปลอม ว่า อยากให้สังคมพิจารณาด้วยความเป็นธรรม กรณีใบ สด.43 เกี่ยวข้องกับ 2 ฝ่ายคือผู้ที่ไปขอและผู้ที่ให้ ซึ่งผิดทั้งคู่ แต่ต้องดูว่าฝ่ายใดเริ่มก่อน คงไม่มีใครไปเร่เสนอขายใบ สด.เพื่อกระทำผิด แต่อยากให้ดูว่าใครเป็นต้นทางทำผิด อย่าเบี่ยงประเด็น หากตรวจสอบว่าใครกระทำผิดทางกระทรวงกลาโหมไม่เลี้ยงไว้แน่นอน แม้จะเกิดขึ้นหลายปีหรือบุคคลนั้นเกษียณไปแล้ว สามารถลงโทษย้อนหลัง ยกเลิกบำเหน็จบำนาญทั้งหมด และนำตัวไปดำเนินคดีได้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา รมว.กลาโหมได้สั่งการมาที่ตนให้สืบหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร จึงอยากขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า เมื่อมีผู้เสนอก็มีผู้ให้ หากไม่มีผู้ให้ก็ไม่มีผู้เสนอ เพื่อแลกไม่ไปเกณฑ์ทหาร ขอให้สันนิษฐานไว้ว่า ท่านจะได้ใบ สด.43 ปลอมแน่นอน ซึ่งในกรณีที่เป็นข่าวจะเห็นชัดเจนว่าต้นขั้วทั้ง 3 ใบยังอยู่ที่กองทัพ ปกติจะต้องหายไป 1 ใบ คือผู้ถูกเกณฑ์ทหารจะต้องถือไว้ 1 ใบ ฉะนั้นกรณีต้นขั้วตรวจสอบได้ไม่ยาก
ส่วนประเด็นที่มีการถามกันว่า ใบ สด.43 มีความจำเป็นต้องลงลายนิ้วมือหรือไม่นั้น คณะกรรมการได้ติดตามตรวจสอบพบว่ามี 2 กรณี คือ 1.กรณีที่ไปจับใบดำใบแดง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะให้ปั๊มหัวแม่มือหรือลายเซ็น ส่วนกรณีที่ไปเกณฑ์ทหารในเขตนั้น แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าเต็มแล้ว บุคคลนั้นจะต้องไปรับเอกสารชุดเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือ ฉะนั้น กระบวนการสำคัญไม่ได้อยู่ที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือหรือลงลายมือชื่อ สาระสำคัญอยู่ที่ต้นขั้วนั้นจริงหรือปลอม ท่านไปเกณฑ์ทหารมาจริงหรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ
“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป