นายกฯตีมึนม็อบทำเนียบ เชื่อ‘ทักษิณ’ยื้อถึง18ก.พ.

“เศรษฐา” ตีมึนไม่รู้มีสารพัดม็อบรุมล้อมทำเนียบฯ ปากหวานเป็นหน้าที่ที่ต้องไปรับฟังเขามีปัญหาอะไร  “แอมเนสตี้ฯ” จุ้นกระบวนการยุติธรรมไทย ปฏิบัติการด่วนให้ยุติคดี “อานนท์ นำภา” ส่วน “เทพไท” หนุน คปท.นอนข้างทำเนียบฯ สุดลิ่ม วัดความอดทนมวลชนกับความหน้าด้าน ปูด "ทักษิณ" จะยื้อจนถึง 18 ก.พ.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย, กลุ่มพีมูฟ และเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ต่างนัดมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ โดยบางกลุ่มมาเรียกร้องเรื่องนิรโทษกรรม จะรับมืออย่างไร ว่ายังไม่ทราบเรื่อง คงต้องไปสอบถามพูดคุยดูก่อน แต่หน้าที่ของเราคือรับฟังว่าเขามีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมอบหมายให้ใครไปประสานกับกลุ่มมวลชนต่างๆ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้มอบหมาย  เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีม็อบมา จึงไม่สามารถมอบหมายได้ และต้องดูก่อนว่าเป็นเรื่องอะไร จะได้มอบหมายได้ถูกต้อง

มีรายงานว่า แอมเนสตี้ฯ จะมีการจัดกิจกรรมยื่นรายชื่อปฏิบัติการด่วนถึงรัฐบาลไทย เรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีต่อนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบสามนิ้ว ที่อยู่ระหว่างถูกคุมขังตามคำพิพากษาของศาล ในคดีมาตรา 112 โดยจะมีการเคลื่อนไหววันจันทร์ที่ 5 ก.พ.2567 นี้ เวลา 10.00 น. โดยจะตั้งขบวนจากหน้ากระทรวงศึกษาฯ ฝั่งถนนพิษณุโลก พร้อมรถ Le Truck ไปยื่นหนังสือบริเวณด้านหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ในช่วงเช้า ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมารับนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ครบกำหนดโทษและได้รับการปล่อยตัวออกจาก รพ. โดยมวลชนต่างเข้าไปแสดงความยินดีและได้มอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งนายเอกชัยกล่าวว่า ถูกดำเนินอาญารวม 30 คดี และคดีสิ้นสุดแล้ว 17 คดี อยู่ในชั้นอุทธรณ์ 2 คดี, รอสืบพยานอีก 1 คดี และอีก 10 คดีที่อยู่ระหว่างรอส่งฟ้อง

นายเอกชัยยังฝากไปถึงพรรคการเมือง ว่า อย่าทอดทิ้งประชาชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองและคดีมาตรา 112 ที่ปัจจุบันมีอยู่ในเรือนจำจำนวนมาก โดยเรียกร้องให้ผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมสำหรับเหยื่อทางการเมืองและคดีมาตรา 112 แต่ไม่เห็นด้วยถ้ามีการนิรโทษกรรมให้ผู้ที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีหลายพรรคการเมืองได้ยื่นและเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมทางการเมืองต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่าขอสนับสนุนร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ..…ที่ได้เสนอต่อสภาไปแล้ว ซึ่งเห็นด้วยกับการสร้างความปรองดองในบ้านเมือง ให้เดินหน้าร่วมมือกันพัฒนาประเทศ เพื่อให้การเมือง เศรษฐกิจและสังคมมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า มีบางพรรคที่เสนอร่างกฎหมาย รวมการยกโทษให้กับคดี ม.112  เพราะมองว่าเป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง นายธนกรกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยเราไม่เคยที่จะเกิดการทำผิดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันฯ อยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งชาติอยู่แล้ว และสถาบันฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีบางพรรคการเมืองรุ่นใหม่ออกมาแสดงความเห็นพาดพิงล่วงละเมิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงขอออกมาพูดย้ำให้ชัดถึงหลักการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ว่าการจะนิรโทษษกรรมทางการเมืองใดๆ ก็แล้วแต่ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ต้องไม่เหมารวมคดีที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย และสมควรที่รัฐสภาและประชาชนคนไทยทั้งชาติต้องออกมาปกป้องเทิดทูนให้คงไว้เป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งประเทศ รวมทั้งการนิรโทษกรรมต้องไม่รวมคดีทุจริตคอร์รัปชัน เพราะเป็นคดีอาญาที่บั่นทอนทำลายความมั่นคงของชาติ

 “ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยอยากออกมาพูด เพราะรู้ดีว่าสถาบันฯ อยู่ในใจคนไทยอยู่แล้ว แต่มีบางพรรคที่ออกมาแสดงความเห็นให้ข้อมูลบิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน จึงต้องขอออกมาพูดและย้ำให้เกิดความชัดเจนว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายมีที่ไว้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นประมุขของชาติ เป็นความมั่นคงของประเทศ จึงขอคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับทุกร่าง พ.ร.บ.ที่พรรคก้าวไกลเสนอให้นิรโทษกรรมกับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรงเรื่องสถาบัน และเชื่อว่าคนไทยทั้งชาติไม่ยอมรับแน่นอน” นายธนกรกล่าว

ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ม็อบ คปท.วัดความอึดกับความหน้าด้าน” ระบุว่า นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกฯ มาเลเซีย ได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุก 6 ปี จากโทษจำคุก 12 ปี ในคดีทุจริตกองทุนรัฐ 1MDB ซึ่งเป็นคดีโกงชาติโกงแผ่นดินเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย ซึ่งนายนาจิบถูกจำคุกมาแล้วตั้งแต่ปี 2565 หรือ ค.ศ.2022 และจะถูกจำคุกถึงปี ค.ศ.2028 ทำให้ชาวมาเลเซียจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ  แต่เมื่อเทียบกับกรณีนายทักษิณที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 8 ปี และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุกเพียง 1 ปี แต่ยังไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมประชาชนคนไทยจำนวนมากไม่พอใจกระบวนการยุติธรรมไทยที่มี 2 มาตรฐาน และเลือกปฏิบัติต่อนายทักษิณเยี่ยงนักโทษเทวดากับนักโทษทั่วไปที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

“ผมเคยเป็นนักโทษมาก่อน เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ คปท.ที่เคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาล และผู้รับผิดชอบโดยตรง คือ กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ นำตัวคุณทักษิณกลับเข้าสู่เรือนจำให้จงได้ และเห็นด้วยกับคำประกาศเคลื่อนไหวของกลุ่ม คปท.ที่ชุมนุมยืดเยื้อ ปักหลักค้างแรมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างไม่มีกำหนด เพื่อพิสูจน์ความอึด ความอดทนของมวลชน กับความหน้าด้านของคุณทักษิณและของรัฐบาลว่าใครมีมากกว่ากัน” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ตอนนี้เกณฑ์เวลากำหนดการพักโทษของนายทักษิณเหลืออยู่กว่า 10 วันแล้ว จึงจำเป็นต้องยื้อเวลาให้จนถึงวันที่ 18 ก.พ.เพื่อเข้าเกณฑ์นักโทษ และปล่อยตัวนายทักษิณไปพักโทษอยู่ที่บ้าน ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งใครจะมาตำหนิหรือคัดค้านไม่ได้อีกแล้ว และนายทักษิณเป็นบุคคลเดียวในโลกที่ถูกศาลตัดสินจำคุกแต่ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว

วันเดียวกัน นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่าในวันจันทร์ที่ 5 ก.พ. ตนเองและ สส.พรรค ภท.จะเดินทางไปยื่นร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ..… ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. และ สส.พรรคร่วมกันเข้าชื่อเสนอ ที่อาคารรัฐสภา

นายสฤษฏ์พงษ์กล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับนี้มีหลักการให้ยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.บางฉบับที่มีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพ สิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง และสิทธิชุมชนของประชาชน และกำหนดสถานะทางกฎหมายของคดีความของบุคคล พลเรือนที่เคยพิจารณาโดยศาลทหารตามประกาศ คสช. โดยจะชี้แจงในรายละเอียดการจำแนกประเภทของประกาศ คำสั่ง และวิธีการดำเนินการ ในวันที่  5 ก.พ. พร้อมกับการยื่นร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘นิด-หนู’ ปัดสำรอง!

"เศรษฐา-อนุทิน" หัวเราะร่วน หลังถูกถามนายกฯ สำรอง บอกรู้จักกันมานาน ไม่ต้องมาอธิบาย ไม่น้อยใจ ย้ำ 314 เสียงมั่นคง ส่วนการแข่งขันการเมืองเป็นธรรมดา "เสี่ยหนู"

นายกฯ เผยหลังลงพื้นที่นราธิวาส-มาเลเซีย กระชับความสัมพันธ์ทุกระดับ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ด่านสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ว่า สืบเนื่องจากการพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา และการลงพื้นที่ของตนที่มาดูเรื่องเศรษฐกิจ 3 วัน 2 คืน

'เศรษฐา' สยบข่าวนายกฯสำรอง ย้ำ 314 เสียงมั่นคงแล้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯ สำรอง โดยนายอนุทินที่นั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะ ก่อนนายอนุทินจะกล่าวว่า นั่งตัวลีบอยู่อย่างนี้ ขณะที่นายกฯ