‘หมอยง’ ฟันธง! เดลตาถูกกลืน กาฬสินธุ์ป่วน

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดและเสียชีวิตในไทยยังทรงตัว เปิดไทม์ไลน์อธิบดีกรมสรรพากรหลังติดเชื้อ  "หมอยง" ให้เตรียมใจ โอมิครอนในไทยจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ มาแทนที่เดลตาอย่างแน่นอน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์โดนแล้ว 64 ราย มี 45 คนรอลุ้นใช่โอมิครอนหรือไม่

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า  พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,766 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,587 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 59 ราย จากเรือนจำ 57 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 63 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,207,438 ราย อยู่อันดับที่ 24 ของโลก

มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 30 ราย ยอดสะสม 21,558 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 14 ราย อายุระหว่าง 35-97 ปี เป็นชาวไทย 30 ราย โดยอายุ 60 ปี ขึ้นไป 24 ราย อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 5 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน HPL โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ติดเชื้อในพื้นที่ คนรู้จัก ครอบครัว อาศัยในพื้นที่ระบาด และอาชีพเสี่ยง

ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น 3,805 ราย ยอดสะสม 2,148757 ราย เหลือผู้ป่วยรักษาอยู่ 37,1234 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 789 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 206 ราย

ยอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชน ตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 จนถึง 24 ธ.ค.64 พบว่ามียอดฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 102,172,113 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 50,951,100 โดส, เข็มที่ 2 จำนวน 45,231,374 โดส และเข็มที่ 3 จำนวน 5,989,639 โดส เฉพาะวันที่ 24 ธ.ค.64 ฉีดวัคซีนยอดรวม 562,254 โดส

จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับแรก ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 451 ราย 2.ชลบุรี 192 ราย 3.นครศรีธรรมราช 182 ราย 4.สมุทรปราการ 116 ราย 5.สงขลา 73 ราย 6.เชียงใหม่ 66 ราย 7.ขอนแก่น 63 ราย 8.กาฬสินธุ์ 61 ราย 9.ตรัง 59 ราย และ 10.สุราษฎร์ธานี 59 ราย

ส่วนกรณีที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ได้แจ้งกับผู้ประสานงานกลางว่า ได้รับผลตรวจยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในวันพฤหัสฯ ที่ 23 ธ.ค.2564 ช่วงบ่ายนั้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาของกรมสรรพากร ขอแจ้ง Timeline ดังนี้

1.วันเสาร์ที่ 18 ธ.ค.2564 เวลา 8.00-19.30 น. ไปดูงานด้านการส่งออกมะพร้าว ที่สมุทรสาคร กับหลักสูตรผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โดยตรวจ ATK ก่อนร่วมงานแล้วไม่พบเชื้อ) เดินทางกลับบ้านหลังจากเสร็จงาน  

2.วันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.2564 เวลา 11.00-17.00 น. ร่วมแข่งขันกอล์ฟหลักสูตร บยส. ที่สนามกอล์ฟริเวอร์เดล (ตรวจ ATK ก่อนร่วมงาน ไม่พบเชื้อ) เวลา 18.00-19.30 น. ร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ศาลา 4 วัดธาตุทอง เดินทางกลับบ้านหลังเสร็จงาน

3.วันจันทร์ที่ 20 ธ.ค.2564 เวลา 09.00-12.30 น. ประชุมเปิดหลักสูตรและร่วมอบรม โครงการ Great Leaders Series ณ ห้องพระอุเทน 1 อาคารกรมสรรพากร (ตรวจ ATK ก่อนร่วมงาน ไม่พบเชื้อ) เวลา 14.00-17.00 น. ประชุม กบภ. ที่ห้อง Aree Common Space เวลา 18.30-19.00 น. งานสวดพระอภิธรรมศพ ศาลา 11 วัดธาตุทอง เวลา 19.30-21.30 น. ประชุมและร่วมรับประทานอาหารกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยราชการภายนอก เดินทางกลับบ้านหลังจากเสร็จงาน

โอมิครอนติดง่ายกว่าเดลตามาก

4.วันอังคารที่ 21 ธ.ค.2564 เวลา 08.30-13.00 น. ประชุม online อยู่ที่กรมสรรพากร, เวลา 13.00-13.30 น. ประชุมกับผู้บริหารธนาคาร เรื่อง e-stamp ห้องประชุมอธิบดี, เวลา 13.30-15.30 น. ประชุม online อยู่ที่กรมสรรพากร, เวลา 15.30-16.30 น. ประชุมแถลงข่าวกระทรวงการคลัง ห้องประชุมชั้น 4 กระทรวงการคลัง (ตรวจ ATK ไม่พบเชื้อ),  เวลา 17.30-19.30 น. ประชุมคณะกรรมการบริษัท IRPC ตึก Enco ชั้น 10 เดินทางกลับบ้านหลังจากเสร็จงาน

5.วันพุธที่ 22 ธ.ค.2564 ช่วงเช้า ประชุม online ที่บ้านพัก เวลา 12.00 น. เดินทางไปประชุมที่ impact เมืองทองธานี เวลา 12.30 น. ได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการภายนอกที่ได้ร่วมประชุมและรับประทานอาหารด้วยกันในคืนวันที่ 20 ธ.ค. 2564 แจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา จึงเดินทางกลับที่พักทันที เวลา 13.30 น. ตรวจ ATK ซ้ำอีกรอบหนึ่ง ไม่พบเชื้อ

6.วันพฤหัสบดีที่ 23 ธ.ค.2564 มีอาการเจ็บคอและไอ ประชุม online อยู่ที่บ้านพัก และได้เดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อตรวจเชื้อแบบ RT-PCR และได้รับแจ้งในช่วงบ่ายว่าตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงได้แจ้งผู้ประสานงาน และรายงานในระบบรายงานสุขภาพของกรมสรรพากร

เพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ขอให้ทุกท่านที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา กรมสรรพากร นอกจากนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินอาการและสอบสวนโรคนายเอกนิติแล้ว คาดว่าน่าจะได้รับเชื้อมาจากเจ้าหน้าที่หน่วยราชการภายนอกที่ไปร่วมประชุมและรับประทานอาหารในคืนวันจันทร์ที่ 20 ธ.ค. 2564

นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า

1.การติดต่อง่ายจริงหรือง่ายครับ สมัยระบาดระลอกแรกสายพันธุ์อู่ฮั่น มีผู้ติดเชื้อ 1 คนนั่งกินเหล้าเฉลิมฉลองด้วยกัน 7 คน จะมีคนติดเชื้อไป 1-2 คน พอมาสายพันธุ์เดลตา นั่งกินเหล้ากัน 10 คน จะติดเชื้อไป 6-7 คน สายพันธุ์โอมิครอน ตัวอย่างที่เห็น นั่งเฉลิมฉลองกัน 11 คน มี 1 คนกลับจากฝรั่งเศส ติดเชื้อไปครบทั้ง 10 คนเลย เป็นการพิสูจน์การติดง่ายแน่นอน

2.หลบหลีกภูมิต้านทานของวัคซีน ข้อมูลชัดเจนแล้วว่าฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ว่ายี่ห้ออะไร ไม่มีวัคซีนเทพแน่นอน ติดเชื้อกันได้ถ้วนหน้า จำเป็นจะต้องอาศัยเข็ม 3 ในการยกระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้น เพื่อใช้ในการต่อสู้ ผู้ที่ได้ 3 เข็มมานานแล้ว ภูมิต้านทานจะตกลงตามกาลเวลา เมื่อภูมิต้านทานตกลง ก็จะติดเชื้อได้ รวมทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน มีภูมิต้านทานทั้ง 2 ระบบ T และ B cells อย่างดี ก็ยังติดเชื้อซ้ำได้ แน่นอนผู้ที่มีภูมิต้านทานอยู่แล้ว อาการของโรคก็จะน้อยลง

3.ความรุนแรงของโรค ข้อมูลที่ออกมาเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น การติดเชื้อโอมิครอน ความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา จากการศึกษาในแอฟริกาใต้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อต้องเข้านอนโรงพยาบาลน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้านอนโรงพยาบาลแล้วการดำเนินโรคไปจนถึงความรุนแรงไม่แตกต่างกันกับสายพันธุ์เดลตา การศึกษาในอังกฤษ ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนต้องนอนโรงพยาบาลน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา 15 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน โอกาสที่จะต้องนอนโรงพยาบาลลดลงไปอีก น้อยกว่าครึ่งที่ตรงเข้านอนโรงพยาบาล

คลัสเตอร์กาฬสินธุ์

การศึกษาในสกอตแลนด์ก็เช่นเดียวกัน โอมิครอนโอกาสที่จะต้องนอนโรงพยาบาลลดลงไป 2 ใน 3 ส่วนมากจะมีผลจากภูมิต้านทานจากวัคซีนเดิมหรือติดเชื้อ ทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง

ความจำเป็นที่จะต้องสร้างภูมิต้านทานให้ประชากรส่วนใหญ่ให้มากที่สุดและสูง จะเป็นการช่วยป้องกันลดความรุนแรงของโรคลง เพื่อต่อสู้กับสายพันธุ์โอมิครอน จำเป็นจะต้องอาศัยเข็ม 3 ใบผู้ที่ได้รับวัคซีนมานานแล้วเกินกว่า 3 เดือน

โอมิครอนในบ้านเราจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ และสายพันธุ์นี้จะมาแทนที่สายพันธุ์เดลตาอย่างแน่นอน

ผลตรวจผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชุดแรกนักดนตรี พนักงานเสิร์ฟ และลูกค้าร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสีเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เชื่อมสองสามีภรรยาที่กลับจากประเทศเบลเยียมเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่ภาพรวมยอดผู้ติดเชื้อในจังหวัดยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์สองสามีภรรยาและร้านอาหารกึ่งผับเพิ่มอีก 45 คน รอผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้แล้วกว่า 60 คน โดยในช่วงบ่ายวันนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจะประชุมเพื่อหามาตรการควบคุมโรค และเตรียมพิจารณาปิดสถานที่เสี่ยง

วันเดียวกันนี้ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นนักดนตรี พนักงานเสิร์ฟ และลูกค้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 19 ราย ซึ่งเชื่อมโยงกับสองสามีภรรยาที่กลับจากประเทศเบลเยียมที่เข้าไปรับประทานอาหารกับญาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดผลการตรวจพิสูจน์สายพันธุ์โควิดจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

นายแพทย์อภิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ล่าสุดภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดกาฬสินธุ์วันนี้มีติดเชื้อเพิ่ม 61 ราย โดยในจำนวนนี้ติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี เชื่อมโยมสองสามีภรรยาที่กลับจากเบลเยียม 45 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไปนั่งดื่มกินในร้านและบริเวณรอบในตลาดโรงสี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 และวันต่อๆ มา ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ที่อยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์แล้ว 64 ราย โดยจำนวน 45 รายล่าสุดอยู่ระหว่างการยืนยันผลตรวจว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ พร้อมกับเร่งสอบสวนโรคเชิงรุกและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว ในช่วงบ่ายวันนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจะมีการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการควบคุมโรค คาดว่าจะมีการเสนอปิดสถานที่เสี่ยงที่เป็นต้นตอของการแพร่เชื้อในครั้งนี้ และสถานที่เสี่ยงต่างๆ ส่วนร้านที่พบว่าสองสามีภรรยาไปนั่งดื่มกิน เบื้องต้นได้ปิดให้บริการไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีนักดนตรีและพนักงานร้านอาหารติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ที่ไปทานอาหารที่ตลาดโรงสีในช่วงวันที่ 12 ธันวาคม 2564 และวันต่อๆ มา เข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อเป็นการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน และสังเกตอาการตนเอง  นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปีหน้ารัฐบาลเตรียมเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกัน covid-19 ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติงบประมาณ 35,060 ล้านบาทแล้ว ในการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส แบ่งเป็น วัคซีน สำหรับเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี จำนวน 10 ล้านโดส และสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 20 ล้านโดส

นอกจากนี้ยังมีวัคซีนในส่วนของแอสตร้าเซนเนก้าอีก 60 ล้านโดส และอยู่ระหว่างการประสานงานอีก 30 ล้านโดส.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง