จับ‘เอก ปากน้ำ’-‘เจ๋ง’สาบานไม่ผิด

บุกจับ “เอก ปากน้ำ” แก๊งรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว เด็ก “ธรรมนัส” บอกเป็นคนส่งข้อมูลให้ ตร. “จรูญเกียรติ” เดินหน้าทลายขบวนการ ด้าน  “เจ๋ง” สาบานแค่ช่วยไกล่เกลี่ยคนในวงเสื้อแดงด้วยกัน สาปแช่งคนกลั่นแกล้ง ส่วน “การ์ตูน” ปัดตอบคู่กรณีอธิบดีกรมการข้าว ขณะที่ กมธ.เดินหน้าซักฟอก “กรมการข้าว-กรมฝนหลวงฯ” ส่อทุจริต

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าจับกุมนายเอกลักษณ์ วารีชล หรือ "เอก ปากน้ำ" ที่บ้านพักย่านนิมิตใหม่ 25 เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและยึดโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์  เอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการรวม 3 ลัง รวมทั้งยังมีเอกสารการแถลงข่าวของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เปิดแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันด้วย 

สำหรับนายเอกลักษณ์ ได้ร่วมกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน, นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือการ์ตูน อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกรับเงินนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว  แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน และถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เคยให้ข้อมูลไว้ว่า เป็นคนกลางประสานงานระหว่าง "นายหมู" หนึ่งในกลุ่มของ นายศรีสุวรรณและเจ๋ง ดอกจิก กับที่ปรึกษาของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง

ในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ได้ควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปปป. หลังค้นหาหลักฐานในบ้านพักและในรถยนต์ พร้อมสอบปากคำเบื้องต้นนานกว่า 7 ชั่วโมง  โดยนายเอกลักษณ์มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าตำรวจได้นำหมายเข้าตรวจค้นจับผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 คน ที่บ้านพักในจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของเจ๋ง ดอกจิก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า นายเอกลักษณ์เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นคนที่บริหารจัดการได้ดี สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งมีความสามารถในการตรวจสอบการทุจริตของหน่วยงานรัฐ เก่งจนสามารถควบคุมนายศรีสุวรรณได้ "ถ้าไม่เก่ง คุมตาศรีไม่อยู่"  นายศรีสุวรรณยังต้องฟังเขา เพราะเป็นคนที่มีข้อมูลการทุจริต การตรวจสอบหน่วยงานรัฐต่างๆ เป็นจำนวนมาก และมีคอนเนกชัน รู้จักคนเยอะ ถ้าหากนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมก็เป็นผลดีกับประเทศ แต่กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งตนได้บอกกับนายเอกลักษณ์ว่า เมื่อมีการยื่นขอประกันตัวไป จะขอพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมากกว่า

หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 ราย แต่เป็นผู้ร่วมขบวนการระดับล่าง ไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะในวงนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยยังไม่นับวงอื่น โดยคำว่า "วง" ในที่นี้แบ่งตามวงการกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อมูลทยอยเข้ามาเรื่อยๆ อีกหลายวง เป็นวงเจ้าหน้าที่รัฐ โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติระบุว่า หากนับรวมความเสียหายทุกวง ความเสียหายคาดว่าเกือบหลักร้อยล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกัน คือเริ่มต้นจากการร้องเรียน จากนั้นก็แปลงร่างมาเป็นคนเคลียร์ แต่สุดท้ายก็มาแบ่งเค้กกัน คล้ายกับกรณีของเจ๋ง ดอกจิก

สำหรับกรณีการแถลงข่าวของนายยศวริศว่าจะไล่ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน พล.ต.ต.จรูญเกียรติยกมือกล่าว "สาธุ" พร้อมกล่าวขอบคุณนายยศวริศที่ยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ซึ่งไม่รู้จะเป็นประโยชน์หรือโทษกับนายยศวริศกันแน่ และให้กำลังใจในการต่อสู้คดี เพราะถ้าตำรวจไม่มั่นใจในพยานหลักฐานก็คงไม่ดำเนินการจับกุมขบวนการของนายศรีสุวรรณ นอกจากนี้ ยังรู้สึกเห็นใจ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์​ เลขาฯ ของนายยศวริศ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ รวมถึงภรรยาของนายศรีสุวรรณ ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ ซึ่งเชื่อว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ชั่วเป็นนิสัย แต่ถูกไหลเข้ามาสู่วงจรอุบาทว์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเรียกที่ปรึกษาหมูและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้

'เจ๋ง' สาบานแค่ช่วยไกล่เกลี่ย

ขณะที่ นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา แถลงโต้ข้อหาแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว พร้อมยกธูปเทียนแพขึ้นท่วมหัวสาบานยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่มีการกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เรียกทรัพย์เพื่อประโยชน์ตนเองและผู้อื่น  และหากพิสูจน์ความจริงแล้ว ใครก็ตามที่กล่าวหาพิพากษาตนขอให้ได้รับผลไม่ดี ขอให้ชีวิตไม่มีความสุข ขอให้ต้องรับผลจากการกระทำของตนเอง

จากนั้นนายยศวริศแถลงว่า ตนเองเข้าไปแค่ไกล่เกลี่ยให้ระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้อง ตามคำขอของเพื่อนที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดง ในระหว่างที่ไปพบอธิบดีกรมการข้าวที่ห้องทำงาน ก็เจอกับภรรยาอธิบดีรออยู่แล้วด้วย จึงได้ยืนยันว่าที่มาวันนี้มาเพื่อช่วย ซึ่งทางอธิบดีแสดงตัวว่าตัวเขาเป็นคนเสื้อแดง ช่วยคนเสื้อแดงมาตลอด และขอยืนยันว่าไม่มีข้อกังขาใดๆ พร้อมขอบคุณที่มาช่วย ตนเองจึงแนะนำให้อธิบดีกรมการข้าวประสานกับเลขาฯ ตูน ซึ่งเป็นผู้ติดตามจะประสานงานไกล่เกลี่ยให้ ส่วนกรณีที่ภรรยาอธิบดีไปติดต่อกับนายศรีสุวรรณที่บ้าน ตนไม่เคยรู้เรื่อง ขอยืนยันว่าเข้าไปช่วย  ไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งตบทรัพย์ และไม่คิดเลยว่าในกรมการข้าวจะมีงูเห่า ตนเป็นชาวนาไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์

ด้าน น.ส.พิมณัฏฐานั่งร้องไห้ตลอดเวลาที่นายยศวริศแถลง ก่อนจะกล่าวยืนยันว่า วันนี้ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นตัวกลางระหว่างภรรยาอธิบดีกรมการข้าวกับใคร ตนไม่อยากพาดพิงถึงบุคคลอื่น ส่วนที่ตนพยายามตามยอดเงิน ตามคลิปเสียงและไลน์ คือตนพยายามชี้แจงว่า หากโอนไม่ครบตามที่เขาตกลงกันก็จะมีปัญหา ตนเป็นคนเจรจาจะถูกมองว่ายักยอกเงิน และในแชตไลน์มักจะติดใช้คำว่าเรา แต่ที่จริงไม่เคยได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว

ขณะที่นายยศวริศกล่าวอีกว่า เคยโทรศัพท์รายงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยหารือว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จะให้ดำเนินการอย่างไร โดยรัฐมนตรีบอกเพียงว่าให้ตนเองจัดการให้เสร็จสิ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าด้วยวิธีการใด มาพบท่านที่ทำเนียบฯ ก็ได้รายงานเรื่องนี้อีก ท่านก็บอกแบบตัดความรำคาญว่าให้ไปจัดการ เมื่อมี 2 แรงฝากให้ตนเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ ทั้งจาก ร.อ.ธรรมนัส และเพื่อนที่เป็นคนเสื้อแดง จึงอาสาเข้าไปเป็นตัวกลางพูดคุยกับอธิบดีกรมการข้าว โดยไม่ได้รับผลประโยชน์แม้แต่บาทเดียว ยืนยันว่าตนเองไม่รู้จักนายหมู (สุธีร์) ที่ปรึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส

นายยศวริศกล่าวว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่าเข้าไปกระทรวงยุติธรรมนั้น ตนเข้าไปหา ดร.ธนกฤต จิตร​อารี​ย์​รัตน์​จริง โดยเข้าไปหารือเรื่องกำไล EM เพราะได้รับข้อมูลมาว่ามีการส่อไปในทางทุจริต ยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด ส่วน ดร.เอก รู้จัก ในฐานะที่ทำธุรกิจด้วยกัน มีการพูดคุยกันเรื่องโครงการต่างๆ เช่น โครงการวิ่ง แล้วเหตุใดเขาถึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  และตนไม่เคยโอนเงินหรือรับโอนเงินจาก ดร.เอก ทุกครั้งที่ไปร้องเรียนเรื่องการทุจริตหน่วยงาน ดร.เอกไม่เคยรับรู้หรือเกี่ยวข้องเลย เหตุใดตำรวจถึงไปจับ

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ แถลงว่า ทาง กมธ.จะบรรจุระเบียบวาระการพิจารณางบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่ปรากฏตามข่าวที่เกี่ยวข้องกับนายศรีสุวรรณ เจ๋ง ดอกจิก ซึ่งทาง กมธ.มีหน้าที่วิเคราะห์พิจารณาศึกษางบประมาณอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้รับคำถามจำนวนมากในส่วนของงบประมาณทั้ง 2 กรม ว่ามีการส่อเค้าความทุจริตหรือไม่จึงอยากใช้พื้นที่ กมธ.ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ กมธ.ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รวมถึงได้ประสานไปยังอธิบดีทั้ง 2 กรม ปรากฏว่าอธิบดีกรมฝนหลวงฯ ยืนยันว่าวันที่ 15 ก.พ. ตารางงานว่าง ดังนั้นทาง กมธ.จะได้ออกหนังสือเชิญมาประชุมในวันดังกล่าว

สอบกรมการข้าว-ฝนหลวง

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้เคยสอบถามจากรองอธิบดีกรมการข้าวที่มาชี้แจงกับ กมธ.เมื่อเดือน ต.ค.66 ถึงข้อสงสัยต่างๆ ที่มีประชาชนและข้าราชการในกรมการข้าวร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการบีซีจีข้าวรักโลกของกรมการข้าว ก็ได้ถูกโอนย้ายไปเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยในบางโครงการ แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย เช่น งานวันข้าวแห่งชาติในปี 66 ใช้งบในการจัดงาน 5 ล้านบาท แต่สิ่งที่เราลงไปเจอคือมีการใช้ให้หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ​ เป็นผู้จัดจ้างงาน เป็นผู้ทำงาน และใช้อุปกรณ์ภาครัฐในการจัดงาน ทั้งๆ ที่ในทีโออาร์เขียนว่าให้ออร์แกไนซ์เป็นผู้จัดงาน ซึ่งเป็นคำถามที่เราถามไปยังกรมการข้าว แต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว ยังไม่ได้คำตอบ และล่าสุดในวันที่ 4-6 มิ.ย. จะมีการจัดงานวันข้าวแห่งชาติ ซึ่งกรมสมเด็จพระเทพฯ​ เสด็จฯ ทรงเป็นประธานในงานนี้ โดยกรมการข้าวใช้งบ 15 ล้านบาท เราจึงอยากขอคำชี้แจงจากอธิบดีกรมการข้าวว่าเหตุใดเมื่อพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ มาทรงเป็นประธาน ทำไมถึงต้องเพิ่มงบขึ้นอีก 10  ล้านบาท ถือว่าเหมาะสมหรือไม่กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันนี้

นายกรุณพลกล่าวต่อว่า ยังมีงบประมาณการจัดซื้อปุ๋ยจุลินทรีย์ รวมถึงโครงการข้าวรักโลก ทั้งที่ปัจจุบันเราทราบดีว่าปุ๋ยในประเทศขาดแคลน ทำให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นจาก 700 บาท เป็น 1,000 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาปุ๋ย ทำให้เกิดโครงการปุ๋ยจุลินทรีย์ แต่ตัวชี้วัดการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ทำให้ผลลัพธ์การผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งเราเห็นงบประมาณบางส่งที่ส่งปุ๋ยจุลินทรีย์ไปตามศูนย์ข้าวต่างๆ ในบริมาณที่เท่ากัน ทั้งๆ ที่ปริมาณศูนย์ข้าวแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งตั้งแต่รองอธิบดีกรมการข้าวเข้ามาชี้แจงจนถึงบัดนี้ยังไม่ได้คำตอบ

ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า ตั้งแต่ กมธ.ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณและนายยศวริศนั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ประธาน กมธ.หรือเป็น สส.ของพรรคก้าวไกลลงไปรับหนังสือ แต่เมื่อเรื่องถูกส่งเข้ามาใน กมธ.แล้วก็เป็นหน้าที่ของ กมธ.ที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในส่วนของกรมฝนหลวง มีข้อสังเกตที่แนบมาในหนังสือร้องเรียนคือมีการล็อกสเปกการจัดซื้อเครื่องบินจำนวน 2 ลำ มูลค่า 1,188 ล้านบาท โดยให้ประเทศประเทศเดียวในการส่งทีโออาร์เข้าร่วมประมูล และมีการไปดูงานที่บริษัทที่ส่งทีโออาร์เข้ามาร่วมประมูล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ๋ง ดอกจิก ยอมรับว่าเคยเข้าไปพบคณะทำงานของนายสมศักดิ์ในสมัยที่เป็น รมว.ยุติธรรม เรื่องปัญหากำไล EM ว่า ไม่ทราบ แต่ไม่ได้เข้ามาพบตน ทั้งนี้ แต่ละกระทรวงมีงานมีโครงการต่างๆ เขาอาจจะไปเก็บข้อมูลหรือหาข้อมูล แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของตน ตนไม่ทราบ เขาอาจจะไปพบใครต่อใครหรือคนรู้จักกันก็อาจจะไปเจอกันได้ คงไม่มีประเด็นหรือมีเรื่องอะไร

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ได้เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการของนายศรีสุวรรณ ซึ่งก็คือนายเอกลักษณ์ หรือ "เอก ปากน้ำ" ซึ่งเป็นตัวกลางในการประสานงานเจรจาที่จับกุมได้วันนี้ เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับตำรวจในการติดตามจับกุมแก๊งนี้ให้ได้ทุกราย

นายธนดลบอกอีกว่า รู้จักนายเอก มาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยอีกฝ่ายเคยมาร้องเรียนหลายครั้ง ตั้งแต่ตนอยู่ในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และแอดไลน์กันไว้ จากนั้นนายเอกก็ได้ติดต่อมาหลายครั้ง อีกฝ่ายก็พูดคุยดี ไม่ได้ข่มขู่ แต่ตนไม่เล่นด้วย และเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ ก่อนแจ้งนายณัฏฐกิตติ์ และส่งมอบหลักฐานให้ตำรวจ ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าวและโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว มีการทุจริตตามที่ขบวนการของนายศรีสุวรรณกล่าวอ้างหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัสได้ตั้งคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริงของโครงการดังกล่าวทั้งหมดแล้วว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร.