กบน.อุ้มเบนซิน1บาท ธปท.จ่อหั่นเป้าจีดีพี

แบงก์ชาติจ่อหั่นเป้าจีดีพีไทยปี 66 และ 67 หลังตัวเลขเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด พร้อมรอผลประชุม กนง. 7 ก.พ. “เผ่าภูมิ” เผยความเห็นทางการ ป.ป.ช. ยังไม่ถึงมือรัฐบาล รับขยับไทม์ไลน์ดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะทำให้เร็วที่สุด “ปานปรีย์” ยันขึ้นเงินเดือน ขรก.ตาม ครม.อนุมัติ "กบน." ไฟเขียวใช้กองทุนน้ำมันอุ้มเบนซิน 1 บาท ลดภาระประชาชน

เมื่อวันที่ 31 มกราคม น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์   และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย   (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค.และไตรมาส 4 ปี 2566 โดยรวมขยายตัวชะลอลง ตามรายรับภาคการท่องเที่ยวและมูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำที่ชะลอลงจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า ส่วนหนึ่งจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว  อาทิ การที่เศรษฐกิจจีนพึ่งพาตนเองมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องชี้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนอยู่ในทิศทางชะลอลงด้วย ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนของทั้งรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจ

"การส่งออกเดือน ธ.ค.ไม่รวมทองคำลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 0.1% จากเดือนก่อน การลงทุนภาคเอกชนลดลง 2.4% จากเดือนก่อน การใช้จ่ายภาครัฐไม่รวมเงินโอนหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการยังขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย" น.ส.ชญาวดีระบุ

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.67 กิจกรรมทางเศรษฐกิจคาดว่ายังได้รับแรงส่งจากการบริโภคและภาคการท่องเที่ยว แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของการค้าโลก ผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของภาครัฐ

"กรณีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับประมาณการจีดีพีปี 2566 เหลือ 1.8% นั้น ธปท.กำลังทบทวนประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจออกมาล่าสุด ซึ่งเครื่องชี้วัดต่างๆ ที่ใช้ใส่ในประมาณการไม่ได้แตกต่างกันมาก เพราะมีการหารือเรื่องสมมติฐานด้วยกันอยู่ตลอด แต่จะเป็นเท่าไหร่ ต้องรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)" โฆษก ธปท.ระบุ

อย่างไรก็ตาม การจะนิยามเรื่องวิกฤตหรือไม่ ตามหลักการของนักเศรษฐศาสตร์เป็นการมองในภาพรวมของเศรษฐกิจ เช่น จีดีพี หรือเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยมีนิยามแตกต่างกันไปหลากหลายแบบ โดยในภาพรวมที่สะท้อนผ่านเครื่องชี้วัดต่างๆ ในขณะนี้ยังไม่เห็นอะไรที่ทำให้เศรษฐกิจสะดุด แต่หากมองในภาพย่อยเช่น รายธุรกิจหรือรายคน ยังมีจุดที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ ซึ่งคำว่าวิกฤตขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของแต่ละแห่ง

ด้านนายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน    ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังฟื้นตัวอยู่ แต่ฟื้นตัวได้ช้า โดยตัวเลขเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ ในไตรมาส 4 ที่ออกมาเป็นการยืนยันในภาพนั้น โดย ธปท.จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ลง โดยให้รอในที่ประชุม กนง. ที่จะมีผลในเดือน ก.พ.นี้ จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ทั้งการส่งออกและการผลิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือนพ.ย.2566 ที่ประชุม กนง.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 2.4% ในปี 2566 และสำหรับปี 2567 และ 2568 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.2  และ 3.1% ตามลำดับ ทั้งนี้ การประชุมนัดแรกของ กนง.ปี 2567 จะมีในวันที่ 7 ก.พ.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรอความคิดเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อให้เป็นการรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน  ขณะเดียวกัน ต้องรอฟังความคิดเห็นจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เตรียมสรุปความคิดเห็นมาด้วย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ในการรับฟัง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อผูกมัดว่าจะต้องปฏิบัติตามหรือไม่ แต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังและนำมาปรับ สิ่งไหนที่ดีดำเนินการต่อ หากได้รับข้อเสนอทั้งหมดแล้ว จะมีการสังเคราะห์ข้อมูลข้อเสนอแนะ ก่อนที่จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่อีกครั้ง

"ยอมรับว่าต้องมีการขยับไทม์ไลน์โครงการ อาจจะต้องเลื่อนไป แต่จะพยายามทำให้สั้นที่สุด เพราะเข้าใจดีว่าเจตนารมณ์ของโครงการนี้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและระยะเวลาต้องเร่งด่วน โดยจะต้องมีเม็ดเงินลงไปในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าขาดช่วงตัวงบประมาณที่ล่าช้า จึงจำเป็นจะต้องมีเม็ดเงินลงไปทดแทนในส่วนที่เป็นฟันหลอตอนนี้" นายเผ่าภูมิระบุ 

เมื่อถามว่า การขยับไทม์ไลน์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะไปถึงไตรมาส 3 หรือ 4 หรือไม่ นายเผ่าภูมิกล่าวว่า เรื่องระยะเวลาจะเร่งรัดที่สุด เพราะทุกคนมีความกังวลใจ จำเป็นที่จะต้องมีเม็ดเงินใหม่ลงไป ดังนั้น ทุกคนจะทำงานด้วยความรัดกุมและรวดเร็ว แต่ไทม์ไลน์จะใช้เวลาสักพัก จะไม่ขยับไปมาก เพราะตอนนี้แค่รอตัวหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช.เท่านั้น เมื่อได้คำแนะนำจาก ป.ป.ช. รัฐบาลจะมีคำตอบให้ ป.ป.ช. ด้วย

เลขานุการ รมว.การคลังกล่าวว่า ยังคงหลักเกณฑ์เดิมของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากมีข้อเสนอแนะให้ปรับเกณฑ์ พร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่ทุกความคิดเห็นจะถูกตัดสินใจโดยคณะกรรมการชุดใหญ่ว่าจะพิจารณาอย่างไร ปัจจุบันยังไม่มีข้อเสนอการปรับเกณฑ์ ยังคงใช้เกณฑ์เดิมที่เสนอไป หลังได้ปรับเกณฑ์จากที่ได้หาเสียงไว้แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำเรียกร้อง ไม่ใช่ความตั้งใจแรกของพรรคที่หาเสียงไว้ ที่ตั้งใจจะให้ทุกคน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ ยืนยันไม่มีการปรับเรื่องวงเงินกู้ด้วย

ขณะที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ  ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวถึงความคืบหน้าารขึ้นเงินเดือนข้าราชการว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบไปแล้ว โดยปีนี้จะมีการขึ้นระดับหนึ่ง และปีหน้าจะขึ้นไปอีก ส่วนจะขึ้นแบบเต็มที่นั้น ต้องจะดูเศรษฐกิจของประเทศและดูรายได้ของประเทศ แต่เชื่อว่าจะสามารถทำตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้เมื่อครบ 4 ปี

วันเดียวกัน นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสนับสนุนผู้ใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซิน 1 บาท/ลิตร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หลังสิ้นสุดมาตรการลดการจัดเก็บภาษีกรมสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1 บาท เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวน โดยราคาน้ำมันเบนซินวันที่ 1-30 มกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 95.72 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานยังมีความผันผวน

ทั้งนี้ ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 ติดลบ 84,349 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 37,875 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 46,474 ล้านบาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’

“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ