กก.คึก!พิธานำทัพ แถลงเปิดแผนรุกรัฐบาล ดินเนอร์ชื่นมื่นไม่ปรับครม.

"พิธา" เผยไออุ่นที่คุ้นเคย  ขณะก้าวเข้าสภาครั้งแรกหลังหยุดปฏิบัติหน้าที่ 6 เดือน จ่อแถลงแผนงานพรรคศุกร์นี้ แย้ม กก.บห.ประชุมเดือนเม.ย. จะกลับมานั่งหัวหน้าฯ ขึ้นกับสมาชิก สส.ก้าวไกล คึกคักต้อนรับเข้าห้องประชุมสภา มี สส.ครบ 500 คนแล้ว “ภูมิธรรม”ยินดี “พิธา” กลับมาทำหน้าที่ สส. หวังปรับตัวดีขึ้นร่วมมือกันแก้วิกฤตประเทศ​ ยันไม่หวั่นไหวกระทบเสียงหนุนรัฐบาล  "เรืองไกร" จ่อยื่น กกต.สอบกราวรูด “รมต.-สส.-สว. ยันลูก-เมีย” หลังพิธารอดหุ้นไอทีวี ยังติดใจถือหุ้นเดียวก็ผิดแล้ว ดินเนอร์กระชับมิตรพรรคร่วมคึกคัก แกนนำเข้าร่วมครบ

ที่รัฐสภา เวลา 10.30 น. วันที่ 25  มกราคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางเข้ารัฐสภาครั้งแรก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2566 กรณีถูกร้องว่าเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ ในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)  ซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ สส.ของนายพิธาไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ทำให้นายพิธาได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส.อีกครั้ง

โดยนายพิธากล่าวถึงก้าวแรกในสภารู้สึกอย่างไรบ้างว่า ไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็น 6 เดือนที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียดายเวลา 6 เดือนที่หายไปหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เสียดายที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งคงไม่มีใครบอกได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วดีขึ้น จะกลายเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่เราบริหารจัดการเวลาได้ ใช้เวลา 6 เดือนในการพบปะประชาชน ทำงานกับเพื่อน สส.ที่อยู่ข้างหลังในการลงพื้นที่ตอนถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการประชุมกับผู้นำท้องถิ่น  มาอภิปรายในวันที่ 26 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ฉะนั้นไม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

เมื่อถามว่า ภารกิจแรกในการกลับมาเป็น สส.คืออะไร นายพิธากล่าวว่า คุยกับเพื่อน สส. ทักทายกันให้หายคิดถึง อาจจะแวะไปพูดคุยกับนักศึกษาที่มาสภาในวันนี้ และเตรียมตัวอภิปราย แถลงแผนงานของพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ ว่าเป้าหมายและการทำงานในเชิงปฏิบัติของพรรคเราในปีนี้คืออะไร

เมื่อถามถึงข้อครหาต่างๆ ที่ผ่านมาของพรรค ก.ก. จะมีการเดินหน้าต่ออย่างไร นายพิธากล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชน ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็ไม่อยากเป็นสถาบันที่มีหัวหน้า 2 คน ก็ต้องรู้ที่ของตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก็ต้องให้คำปรึกษากับนายชัยธวัช ซึ่งได้มีการพูดคุยกันตลอด

"จะเรียนรู้จากความผิดพลาดและปรับปรุง โดยที่ไม่แก้ตัว ยอมรับว่าเรายังต้องพัฒนากันอีกเยอะ ประชาชนคงสัมผัสได้ถึงพัฒนาการความเป็นสถาบันการเมืองของเรา" นายพิธากล่าว

ส่วนจะดำเนินคดีกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นผู้ร้องคดีข้างต้นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ตอนนี้จะใส่ใจกับปัจจุบัน ใช้สมาธิ ทรัพยากรเวลา กับการทำงานในปัจจุบัน และอนาคตที่จะถึง ตามแผนการดำเนินงานที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้

เม.ย.เปลี่ยนหัวหน้า ก.ก.

เมื่อถามว่าจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องแยกเป็นสองส่วน หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ คือการประชุมวิสามัญของพรรคช่วงเดือนเม.ย. ในส่วนที่สอง ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งนายชัยธวัชก็ทำหน้าที่ได้ดี ตนไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ก็แล้วแต่สมาชิกพรรค ตนและนายชัยธวัชไม่มีใครยึดติดในตำแหน่ง เดือนเม.ย.เหมาะสมที่กรรมการบริหารพรรค ทำงานครบ 4 ปีตามวาระ ก็จะต้องมีการเปลี่ยน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีของตน

เมื่อถามว่า มีข้อควรระวังอะไรให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีหรือไม่  นายพิธากล่าวว่า ตนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง และไม่ได้ค้านทุกเรื่อง ค้านเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือค้านเพื่อจะแนะนำ และยังเชื่อว่ามีวาระเพื่อประชาชนอีกมากมายโดยไม่ต้องคำนึงว่ามาจากพรรคไหน 

เมื่อถามถึงความกังวลในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีนโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล ในวันที่ 31 ม.ค.ที่จะถึงนี้ นายพิธากล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนตอนคดีไอทีวี เราแยกแยะได้ ว่าอะไรควบคุมได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนที่เราควบคุมได้ เราก็ได้ทำเต็มที่

ทั้งนี้ ก่อนที่นายพิธาจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไป ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าเข้าสภารอบนี้ไม่ออกแล้วใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวติดตลกว่า “ถ้าจะออก ก็ออกไปทำเนียบรัฐบาลอย่างเดียว”

ต่อมาเวลา 11.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสด จากนั้นเวลา 11.40 น. นายวันมูหะมัดนอร์ได้แจ้งให้สมาชิกทราบถึงผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่มีลักษณะต้องห้ามการใช้สิทธิสมัคร สส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ทำให้สมาชิกภาพ สส.ของนายพิธาไม่สิ้นสุดลง จึงแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ ทำให้จำนวน สส.ปัจจุบันมีครบถ้วน 500 คน มีองค์ประชุม 250 คน 

หลังจากนายวันมูหะมัดนอร์พูดจบ นายพิธาที่รออยู่หน้าห้องประชุมสภาฯ อยู่แล้ว ก็เดินเข้าสู่ห้องประชุมทันที พร้อมกับโบกมือให้ สส. และโค้งคำนับประธานสภาฯ ระหว่างทางที่เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง โดยมี สส.พรรคเล็กฝ่ายค้านมารอจับมือแสดงความยินดี อาทิ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ที่เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับนายพิธา

จากนั้นเมื่อนายพิธามานั่งยังที่นั่งของตัวเองในฝั่งพรรค ก.ก. โดยนั่งข้าง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และมี สส.พรรค ก.ก.หลายคน เข้ามาห้อมล้อมจับมือแสดงความยินดีกับนายพิธาด้วย

พท.ไม่หวั่นไหวเสียงหนุน

ที่ทำเนียบรับฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์   แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็น สส.ของนายพิธาไม่สิ้นสุดลงฯ ว่า ขอแสดงความดีใจด้วย ที่โชคดี มีโอกาสได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในสภาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีส่งผลกระทบอะไรกับรัฐบาล เพราะเป็นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งยุติแล้วและคำตัดสินผูกพันทุกองค์กร เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ต้องช่วยและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ  วันนี้อยากเรียกร้องทุกฝ่าย ไม่ว่ารัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ต้องจับมือกัน อย่าใช้กระบวนการทางการเมืองเข้ามาทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้

ส่วนการกลับมาของนายพิธา จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลเข้มแข็งขึ้นหรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า การตรวจสอบรัฐบาลก็คงทำหน้าที่ไปเหมือนเดิม ซึ่งเราก็มี สส.เพิ่มเข้ามาอีก 1 คน ก็หวังว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น ถ้าฝ่ายค้านการเมืองแบบใหม่จริง ช่วยกันทำงานให้กับรัฐบาลให้เข้มแข็ง ก็จะสามารถแก้วิกฤตของประเทศได้ แต่ถ้ายังยึดประโยชน์ของตน ความสามารถของตน และความต้องการของตน และพรรคตนประเทศก็จะเป็นอุปสรรค และการแก้ไขปัญหาของประชาชนเชื่องช้าลง การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านคือการตรวจสอบ ซึ่งคำว่าตรวจสอบคือการเสนอแนะ ไม่จำเป็นต้องค้านทุกเรื่องที่รัฐบาลทำ  

เมื่อถามว่า เมื่อวานเห็นฝ่ายสนับสนุนพรรค ก.ก.ค่อนข้างเยอะ หากมองไปในอนาคต การเลือกตั้งครั้งหน้าจะน่าเป็นห่วงไหมสำหรับพรรค พ.ท. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองก็มีผู้สนับสนุนที่มีมาจากหลากหลายอาชีพ อย่าเพิ่งไปบอกว่ามีการสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันพูดยาก แต่ผลเลือกตั้งต่างหากที่จะชี้วัดว่าคนส่วนใหญ่สนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะทุกคนทำหน้าที่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้แทนฯ ด้วยกัน เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่นายพิธาพ้นจากการถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วทำให้พ้นจากมลทิน ขอแสดงความยินดีด้วย ประเทศก็จะได้ สส.มาทำหน้าที่อีกครั้ง 

ส่วนสถานการณ์ในพรรค ภท.  นายอนุทินกล่าวว่า ภูมิใจไทยยังเป็นพรรคขั้วรัฐบาล แม้อดีตเลขาธิการพรรคจะลาออกจากตำแหน่ง และลาออกจากพรรค แต่ความเป็นพรรคภูมิใจไทยเราก็เลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อ จากลำดับที่ 5 ที่สละสิทธิ์ เป็นลำดับที่ 6 คือนางนันทนา สงฆ์ประชา โดยได้มีการรายงานตัวเรียบร้อย เรายังมี สส. 71 เสียงเหมือนเดิม พร้อมทำหน้าที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารต่อไป

หลังจบการสัมภาษณ์ นายอนุทิน กล่าวติดตลกว่า “จบแล้ว ไม่มีอะไรเพิ่มแล้ว no news is good news” แปลว่า การไม่มีข่าว คือข่าวที่ดี

ร้องสอบ รมต.สส.สว.ถือหุ้น

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็น สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล ยังมีประเด็นใดติดใจอีกหรือไม่ ว่ามีประเด็นเรื่องหนึ่งหุ้นก็ผิด เพราะเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อเท็จจริง ของนักการเมืองรัฐมนตรี สส.และ สว. รวมถึงคู่สมรสและบุตรด้วย ซึ่งตนมองว่าการ ซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ บางทีซื้อเช้า ขายบ่าย จะไม่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 รวมถึง บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือบมจ.006 จึงเตรียมยกร่างคำร้องยื่นต่อกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปไล่ตรวจสอบ สส.ทั้งหมดว่าในระหว่างการดำรงตำแหน่ง มีใครซื้อขายหุ้นที่เป็นหุ้นสื่อ ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายตัว เพราะหลายคนแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 ซึ่งมีหลายคนบอกว่ามีบัญชีหุ้น

นายเรืองไกรกล่าวว่า เหตุผลที่นึกถึงเรื่องนี้เพราะเคยยื่นคำร้อง สส.ไปคนหนึ่ง ที่แจ้งบัญชีว่าไปถือหุ้นสื่อแห่งหนึ่ง เพิ่งทราบข้อเท็จจริงว่าเขาซื้อหุ้น หลังจากเป็น สส.แล้ว จึงทำให้คิดว่าความไม่รู้ของเขาอาจเกิดจากโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นในนามของเขา เมื่อเห็นตัวอย่างเช่นนี้จึงมีหน้าที่ต้องดูทั้งหมด โดย กกต.ต้องไปขอข้อมูลในทั้งหมดมา ซึ่งตนคงใช้เวลาร่างคำร้องประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะขอให้ตรวจสอบไปถึงคู่สมรสและบุตรด้วย เพราะเป็นลักษณะต้องห้ามและขัดกันของผลประโยชน์ จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ต้องตรวจสอบ ถ้าเจอก็ต้องส่งศาล

"เราสงสัยว่าระหว่างอยู่กัน 4 ปี ก่อนพ้นจากตำแหน่งไปขายหุ้นออก แล้วช่วงนี้ก็ทำกำไรไปก่อน ซึ่งถือเป็นลักษณะต้องห้าม" นายเรืองไกรกล่าว

นายเรืองไกรกล่าวด้วยว่า กรณีที่ศาลวางหลักว่าหุ้นเดียวก็ไม่ได้นั้น คงไปตอบหลายคนที่คำนวณสัดส่วนหุ้น ซึ่งตนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรในเรื่องนี้ เพราะตอนที่เป็น สว.เคยร้องเรื่องหุ้นสัมปทานมาแล้ว ซึ่งศาลวินิจฉัยมาแล้วว่าหุ้นเดียวก็ถือไม่ได้ ส่วนกรณีนายพิธา ศาลวินิจฉัยว่ามีการถือหุ้นจริง แต่หุ้นดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นหุ้นสื่อแล้ว เนื่องจากงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง และสัญญาที่ถูกยกเลิก และไอทีวีไปฟ้องเรียกค่าเสียหายและให้คืนคลื่น ซึ่งตรงนี้เข้าใจได้ ว่าฟ้องให้คืนคลื่นไม่ได้เนื่องจากเป็นกฎหมาย ที่ออกมาแล้วว่าให้เอาคลื่นนี้ไปให้ Thai PBS

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทนายรัชพล ศิริสาคร เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดีหุ้นสื่อไอทีวี ที่ได้เคยแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้องเมื่อ 13 มิ.ย.2566 ให้ดำเนินคดีกับนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี ปี 2566 และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ร้องเรียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าข่ายเรื่องการแจ้งความเท็จ ปลอมเอกสาร หลังพบข้อมูลจากสื่อมวลชนว่ารายงานผลการประชุม ขัดแย้งกับคลิปวิดีโอการประชุมที่ถูกนำมาเสนอผ่านสื่อมีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีหรือไม่

ดินเนอร์พรรคร่วมฯ คึกคัก

ค่ำวันเดียวกัน เวลา 18.00 น. ที่ร้านอาหารบ้านตานิด อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล รับประทานอาหารร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 เพื่อพูดคุยการทำงาน มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้า ภท. เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เวลา 16.30 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ภท. เดินทางมาถึง ก่อนที่เวลา 17.25 น. นายเศรษฐามาถึง มีนายอนุทินและนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายอนุทินยังได้กล่าวกระเซ้านายกฯ ด้วยว่า นายกฯ มาถึงเป็นคนแรก

ขณะที่นายชาดากระเซ้าว่า ที่เลือกร้านนี้เพราะร้านชื่อเดียวกับนายกฯ ทำให้นายเศรษฐาถึงกับหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ก็ดีนะครับ แต่ผมยังไม่อยากเป็นตานะ”  ทำให้เรียกเสียงหัวเราะ

เมื่อเดินเข้ามาในร้านนายอนุทินได้นำนายกฯ และนายสุวัจน์ไปชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือต่างๆ สัญจรไปมา รวมทั้งได้มีการลอยลำของเรือรักษาความปลอดภัย โดยนายกฯ หันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อากาศสบายดีนะ วิวดี จากนั้นนายกฯ นายสุวัจน์ และนายอนุทินมานั่งพูดคุยอย่างอารมณ์ดี พร้อมโบกมือให้กับสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวถามนายสุวัจน์ว่า ปรากฏตัวบ่อยๆ จะมีเก้าอี้พิเศษในรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสุวัจน์หัวเราะพร้อมตบไปที่เก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง พร้อมกล่าวว่า นี่ไงนั่งอยู่ตรงนี้ไง ทำให้ทั้งนายกฯ และนายสุวัจน์หัวเราะชอบใจ

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า นานๆ นายสุวัจน์มาทีมีอะไรก็ให้ถาม เมื่อถามว่านายสุวัจน์จะเข้ามาช่วยงานอะไรในรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีการช่วยกันอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ร้านอาหารบ้านตานิดอากาศค่อนข้างเย็น และมีลมพัดตลอด ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามนายกฯ ว่าหนาวหรือไม่ ก่อนที่นายกฯ จะพยักหน้าและตอบว่า หนาว ทำท่าเหมือนคัดจมูก ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านายกฯ มีอาการไอด้วย

ทั้งนี้ สำหรับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินทางเข้าร่วม ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะแกนนำพรรค และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ในฐานะแกนนำพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค และนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ในส่วนของพรรคประชาชาติ (ปช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรค และพรรคชาติพัฒนากล้า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค เข้าร่วม

ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยว่า ครั้งหน้าถึงคิวพรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำพรรคร่วมรัฐบาล.