‘4แกนนำ’นอนคุกยาว ม็อบฉุน!เผาสาดสีศาล

ศาลเฉียบขาด! ไม่ให้ประกัน “เพนกวิน-อานนท์-ไมค์-ไผ่” ชี้ปล่อยตัวแล้วทำผิดซ้ำซากทั้งที่กำชับแล้ว “ทะแนะ” รับต้องให้ 4 แกนนำตัดสินอุทธรณ์หรือไม่ แต่ดูจากคำสั่งแล้วท่าทางยาก “ม็อบทะลุฟ้า-แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ” เหิมหนัก ไม่พอใจคำสั่งเผาชุดครุย พ่นสเปรย์และสาดสีใส่สำนักงานศาลยุติธรรม

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม ศาลอาญานัดอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวคดีดำ อ. 286/64 และคดีดำ อ.287/64 ที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 ฯลฯ

โดยก่อนเข้ารับฟังคำสั่ง นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยอมรับว่ายังไม่มีความมั่นใจ เพราะว่าหลายๆ เรื่องมีมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างตุลาการ อัยการและทางเรา เพราะฉะนั้นขอให้รอฟังคำสั่งดีกว่า เพราะเราผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว

ต่อมาศาลอ่านคำสั่งผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลอาญาไปยังเรือนจำที่คุมขังจำเลยทั้งสี่ โดยคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนายพริษฐ์ คดีดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพริษฐ์กับพวกรวม 22 คน ในคดีปักหมุดที่สนามหลวง หมิ่นสถาบันเบื้องสูง คดีหมายเลขดำ อ.2847/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์กับพวกรวม 2 คน, คดีหมายเลขดำ อ.2948/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ยื่นฟ้องนายอานนท์กับพวกรวม 6 คน คดีหมายเลขดำ อ.1668/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์กับพวกรวม 12 คน, คดีหมายเลขดำ อ.286/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ และคดีหมายเลขดำ อ.2932/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์เป็นจำเลย

โดยศาลเห็นว่า นายพริษฐ์เคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในคดีนี้ แต่ได้กระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลเคยตักเตือนและกำชับผ่านผู้กำกับดูแลมาแล้ว จนเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว อีกทั้งจำเลยมีพฤติการณ์กระทำผิดซ้ำในทำนองเดียวกันกับการกระทำที่เป็นมูลเหตุที่ถูกกล่าวหา หรือฟ้องร้องหลายคดี เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะและพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออกหรือร่วมทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก และมีความรุนแรงตลอดมา กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และในชั้นนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

ในส่วนของนายจตุภัทร์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.287/2564 และคดีหมายเลขดำ อ.2608/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักคดีอาญา 4 ยื่นฟ้องนายจตุภัทร์กับพวกรวม 18 คน ศาลเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ ที่ศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่าหากอนุญาตปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

กรณีนายอานนท์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2847/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2948/2564, คดีหมายเลขดำอ.2887/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายอานนท์ กับพวกรวม 7 คน, คดีหมายเลขดำ อ.1629/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้อง นาอานนท์, คดีหมายเลขดำ อ.2804/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ยื่นฟ้องนายอานนท์, คดีหมายเลขดำ อ.2495/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายอานนท์เป็นจำเลยนั้น ศาลเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ของศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

สำหรับนายภาณุพงศ์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2887/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2384/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 ยื่นฟ้องนายภาณุพงศ์กับพวกรวม 3 คน ศาลเห็นว่าเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ ที่ศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่สั่งไว้โดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

ด้านนายกฤษฎางค์ กล่าวภายหลังจากการไต่สวนขอประกันตัวที่จบไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ว่ามีเรื่องใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา คือ ทั้ง 4 คนยอมรับเงื่อนไขให้กักบริเวณอยู่ที่บ้าน 24 ชั่วโมง แต่แปลกใจว่าทำไมศาลถึงไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการพิจารณา ส่วนจะอุทธรณ์คำสั่งหรือจะยื่นประกันตัวครั้งต่อไปหรือไม่ คงต้องให้ทั้ง 4 คนไปตัดสินใจกันเอง แต่ได้ระบุกับทั้ง 4 คนว่า คำสั่งศาลที่ออกมาวันนี้ โอกาสที่ศาลจะปล่อยชั่วคราวอีกคงยาก และคงมีทิศทางเดิมคือหากประกันอีกก็จะไปกระทำความผิดซ้ำ

"พ่อแม่ของเขาที่เพิ่งลงมาก็ร้องห่มร้องไห้ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายเขายังไง พูดไม่ออกเหมือนกัน พ่อแม่เขาก็อยากรับลูกเขากลับไป แม่ไมค์ถึงขนาดขอกับศาลว่าขอประกันลูกไปสักเดือนหนึ่งได้ไหม แล้วกลับมาค่อยติดคุกต่อ" นายกฤษฎางค์ระบุ

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้าและแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ที่จัดกิจกรรม “เดิน หยุด ขัง” เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ในเวลา 11.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าเริ่มนัดรวมตัวที่ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ และเริ่มเดินไปยังศาลอาญา เพื่อรอฟังคำสั่งไต่สวนประกันตัว 4 แกนนำ โดยขณะเดินขบวนไปมวลชนได้ตะโกนว่า ปล่อยเพื่อนเรา และคืนสิทธิการประกันตัวเป็นระยะๆ จากนั้นมวลชนได้จัดตั้งเวทีและผลัดกันปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม และเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน มวลชนบางส่วนได้แสดงสัญลักษณ์ยืนชูสามนิ้ว และถือป้ายที่มีข้อความว่า 112 ปล่อยเพื่อนเรา และ FREE FRIEND จากนั้นมีการพ่นสีสเปรย์สีดำใส่ป้ายสำนักงานศาลยุติธรรมด้วย

ภายหลังศาลให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแกนนำทั้ง 4 คน ผู้ชุมนุมต่างตะโกนโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ และปราศรัยโจมตีการทำงานของศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมีการเผาชุดครุย แล้วผู้ร่วมชุมนุมวางดอกกุหลาบรอบกองไฟเพื่อไว้อาลัยประท้วงคำสั่งที่บริเวณหน้าประตู 8 ของศาลอาญา พร้อมทั้งได้ขว้างปาสิ่งของ ถุงใส่สีแดง ขยะ ขวดน้ำ เข้ามาในบริเวณศาลอีกด้วย จนถึงเวลา 16.00 น. จึงได้ยุติการชุมนุม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง