ครูเฮ! ครม.ไฟเขียวยกเลิกมติปี 42 ครูไม่ต้องเข้าเวรรักษาความปลอดภัย รร. นายกฯ ชี้ล้าหลังใช้คนผิดประเภท ปัจจุบันเทคโนโลยี-สภาพแวดล้อมเปลี่ยน "รมว.ศธ." ชงของบกลางเพิ่มภารโรงทั่วประเทศ 1.9 หมื่นตำแหน่ง
ที่หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงเหตุการณ์คนร้ายทำร้ายครูสาวระหว่างเข้าเวรในโรงเรียน จ.เชียงราย ว่าจะสนับสนุนให้มีการยกเลิกมติ ครม.ปี 2542 หรือออกมติ ครม.ใหม่ มายกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับการอยู่เวรรักษาการณ์ของหน่วยงานราชการ ตามหลักเกณฑ์ที่ออกมาในเดือนกรกฎาคม ปี 2542 โดยเฉพาะในส่วนของโรงเรียนทั่วประเทศ เพราะข้าราชการไม่ควรต้องมารับผิดชอบต่อความเสียหายของทรัพย์สินของทางราชการที่เกิดจากอาชญากรรม หากมีอาชญากรรมเกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะต้องดูแล ไม่ว่าจะป้องกันหรือปราบปราม ไม่ใช่หน้าที่ครู ทั้งนี้ สวัสดิภาพและความปลอดภัยของครูมีความสำคัญเหนือสิ่งของ หากจะฝากโรงเรียนไว้กับใคร ต้องฝากกับตำรวจ หรือ อส.ของฝ่ายปกครอง ไม่ใช่ครู
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.ได้พิจารณายกเว้นมติ ครม. วันที่ 6 ก.ค.2542 ซึ่งกว่า 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนไป จึงให้มีการยกเลิก โดยให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ จะรับไปพิจารณาต่อไป และได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ หรือเร่งจัดหางานไม่ให้เกิดความรุนแรงของกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเริ่มมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม. จากกรณีที่เป็นข่าวว่ามีคนร้ายเข้าไปทำร้ายครูที่อยู่เวรรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียน นายกฯ รู้สึกเสียใจมาก และปรารภว่า มติ ครม.วันที่ 6 ก.ค.2542 ที่มอบหมายให้เป็นภาระครูในการเวรยามเป็นมติที่ล้าหลัง ไม่ตรงยุคสมัย ปัจจุบันมีเทคโนโลยี กล้องวงจรปิด มีบริษัทรักษาความปลอดภัย การเอาครูไปเฝ้าโรงเรียนถือเป็นการใช้คนผิดประเภท จึงขอให้ยกเลิกมติ ครม.ดังกล่าว ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่ให้แต่ละโรงเรียนต้องจัดครูเฝ้าโรงเรียน รวมไปถึงการอยู่เวรรักษาส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ที่มีการจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอต่อนายกฯ มีความประสงค์ที่จะให้เพิ่มนักการภารโรงประมาณ 19,000 ตำแหน่ง ในกว่า 2,000 โรงเรียนทั่วประเทศ โดย รมว.ศึกษาฯ เห็นว่าอยากจะขอเป็นงบกลาง ซึ่งนายกฯ รับทราบแล้ว แต่หากไม่ได้เป็นงบกลางจริงๆ จะมีเสนอเข้างบประมาณตามปกติ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ นายกฯ ยังมีข้อสั่งการ เกี่ยวกับโรงเรียนอีกว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี และเยาวชนที่มีอายุ 15-18 ปี มีการกระทำความผิดเยอะ อย่างคดีป้าบัวผัน ซึ่งเห็นว่าเด็กยังมีพละกำลังในการทำงาน จึงได้สั่งการกระทรวงแรงงานให้หางานที่เด็กและเยาวชนที่มีอายุ 15-18 ปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุทิน’ ปลื้มโพลสะท้อน ปชช. ยก ‘มหาดไทย’ กระทรวง-รัฐมนตรี มีผลงานด้านสังคม
‘อนุทิน’ ขอบคุณประชาชนให้คะแนนมหาดไทยอันดับ 1 กระทรวงและรัฐมนตรีมีผลงานด้านสังคม เผยเป็นทั้งกำลังใจและแรงกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อประชาชนและประเทศชาติ
ลุยมาเฟียปราจีนฯ ไร้เงาคนสนิทโกทร
นายกฯ อิ๊งค์พร้อมนั่งหัวโต๊ะทีมเฉพาะกิจปราบมาเฟียตามบัญชาพ่อ
พท.ฝัน‘หน่อย’ ชิงอบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย
“อนุทิน” ตอกย้ำ “ภูมิใจไทย” ไม่ลงเล่นสนามท้องถิ่น เด็กเพื่อไทยยังหวัง
ตีปี๊บโลกยกย่องนายกฯ ‘แพทองธาร’ไปมาเลย์
“รมต.น้ำ” แห่ตีปี๊บ “ฟอร์บส์” จัดอันดับ “แพทองธาร” ติดอันดับ 29
เชื่อ2วัน‘น้ำท่วมใต้’ลดลง
นายกฯ กำชับ ศปช.เร่งบรรเทาน้ำท่วมใต้ 4 จังหวัดยังหนัก คาด 2 วันคลี่คลาย
อิ๊งค์แก้ต่างแทนพ่อ อ้างพูดให้พรรคร่วมช่วยกัน/อนุทินชี้ดรามาจบแล้ว
“อิ๊งค์” แจง "พ่อนายกฯ" พูดถึงพรรคร่วมในภาพกว้าง ต้องช่วยกัน