คุมตัว‘เฮียเก้า’สวมสิทธิส่งตีนไก่

“ดีเอสไอ” ควบคุมตัว “เฮียเก้า” นายทุนสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ไปจีนมาสอบปากคำ หลังประสานเข้ามอบตัว เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ "อดีต รมว.เกษตรฯ" และการสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ เจ้าตัวระบุสั้นๆ “ไม่ได้ทำๆ" ชุดสอบสวนเผย "เฮียเก้า" ยอมรับเกี่ยวโยงนักการเมืองชื่อดัง ปู่อยู่ที่เมืองจีนหมู่บ้านเดียวกัน

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 เวลา 15.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ  (ดีเอสไอ) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัวนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” ผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ใน 5 ของศาลอาญา ในคดีพิเศษที่ 127/2566 (คดีสวมสิทธิตีนไก่) กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้  หลังประสานขอเข้ามอบตัว

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.50 น. นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและ ตม.ดอนเมือทำบันทึกขั้นตอนการรับตัว ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำตามขั้นตอน โดยมี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน

ซึ่งระหว่างควบคุมตัวขึ้นอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความสัมพันธ์กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีต รมว.เกษตรฯ รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ แต่เจ้าตัวระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ได้ทำๆ”

ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีพิเศษที่  127/2566 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายหลี่ เซิ่งเจียว  หรือ “เฮียเก้า” นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย 2.นายหยาง ยา ซุง 3.นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของเฮียเก้า) 4.น.ส.นวพร เชาว์วัย (ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่) และ 5.นายสมเกียรติ กอไพศาล หรือ “เฮียเกียรติ” อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ และประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหาอั้งยี่และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ได้รับมอบตัวแล้ว 4 ราย  เหลือเพียงนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของเฮียเก้า) ยังไม่ประสานขอมอบตัว และขณะนี้อยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

ต่อมาเวลา 17.50 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า วันนี้นายหลี่  เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า เดินทางเข้ามอบตัวสู้คดี ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเฮียเก้ากับพวกทั้ง 5 คน  ร่วมกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์, พ.ร.บ.ฟอกเงิน และอั้งยี่

 จากการสอบปากคำเฮียเก้าระบุว่า ไปประเทศจีนเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2566 เพื่อดูธุรกิจ หลังทราบข่าวว่าถูกดีเอสไอออกหมายจับ จึงได้ประสานทนายความขอเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ในส่วนของลูกชายเฮียเก้าได้เดินทางไปต่างประเทศเหมือนกัน แต่ไปท่องเที่ยว แต่ตอนนี้เฮียเก้าอ้างว่ายังไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ เบื้องต้นเฮียเก้ายอมรับว่าทำธุรกิจการส่งออกไก่ไปประเทศจีนจริง เป็นการรวบรวมไก่จากไทยส่งออกไป ส่วนประเด็นอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งตั้งประเด็นที่จะสอบปากคำไว้ 30 ประเด็น เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่มีการแจ้ง

 พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า ส่วนความเกี่ยวโยงกับนักการเมืองชื่อดัง เจ้าตัวให้การว่ามีความเกี่ยวข้องกัน โดยมีต้นตระกูลคือปู่อยู่ที่เมืองจีนด้วยกัน และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน  ซึ่งจะต้องสอบปากคำว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ สำหรับประเด็นของธุรกิจพาร์ตเนอร์ที่ทำธุรกิจด้วยกันมีกี่ราย อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียด แต่เบื้องต้นพบมีความเชื่อมโยงกันใน 5 คน ซึ่งจะต้องดูว่าพฤติกรรมและการให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีหรือไม่ หลังจากนั้นจะเสนอผู้บังคับบัญชามีความเห็นต่อไปว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร

 ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ม.ค.​ เวลา 09.00 น. จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อสรุปรายละเอียดของการออกหมายจับทั้ง 5 คน และพยานหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมมา ว่าจะเชิญข้าราชการที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี ผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป​ 'ปปง.' เปิดให้ยื่นขอคุ้มครองสิทธิรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท