แลนด์บริดจ์ระอุ!ท้าเดิมพันเก้าอี้สส.

นายกฯ หอบคณะบินดาวอส ประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ชวนต่างชาติลงทุนโครงการ "แลนด์บริดจ์" "วิสุทธิ์” ปัด กมธ.แลนด์บริดจ์รวบรัดลงมติ ป้อง สนข.ชี้แจงชัดเจนทุกเรื่อง มีแค่ก้าวไกลพยายามไม่เข้าใจ ท้า “ศิริกัญญา”  แพ้โหวตในสภากล้าไขก๊อก สส.หรือไม่ "จุลพงศ์" ยันยกโขยงลาออกไม่ใช่เกมการเมือง ย้ำข้อมูลไม่สมบูรณ์ "สามารถ" ตั้งคำถามปมช่วยร่นระยะทาง "สส.สงขลา"  เตือนรัฐบาลขืนบิดเบือนข้อมูล เท่ากับสร้างหายนะให้กับประเทศ                    

เมื่อวันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ในเวลา 00.15 น. วันที่ 15 ม.ค. ไปยังนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส เพื่อเข้าร่วมการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม World Economic Forum (WEF) 2024 ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค. โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เข้าร่วมการประชุมด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ มีกำหนดการหารือกับ น.ส.วิโอลา อัมแฮร์ท ประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งมีวาระหารือกับผู้บริหารกูเกิล ผู้บริหารกลุ่มเทเลนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมด้วย

นอกจากนี้ นายกฯ และรองนายกฯ จะเข้าร่วม และร่วมเป็นผู้เสวนาในการประชุมและเวทีเสวนาต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและเชิญชวนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ด้วย

ทางด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงถึงการลาออกจาก กมธ.วิสามัญแลนด์บริดจ์ เนื่องจากประธาน กมธ.พยายามเร่งรัดปิดการประชุม เพื่อให้มีการลงมติผลการศึกษา ทั้งที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ชัดเจนนั้นว่า กมธ.เชิญ สนข.มาชี้แจงแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เป็นหน่วยงานหลักที่มาชี้แจงบ่อยมาก ข้อมูลจนถึงวันที่ 22 ธ.ค.2566 ถือว่าเพียงพอจะลงมติสรุปผลการศึกษาได้แล้ว ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญาระบุเหตุใดไม่ขยายเวลาการทำงานของกมธ.ออกไปมากกว่า 90 วันนั้น เพราะข้อมูลทุกอย่างเพียงพอแล้ว จะต่อเวลาออกไปให้เปลืองงบประมาณประชุมทำไม ต้องการทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด

ยัน สนข.แจงชัดเจน

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า การที่ น.ส.ศิริกัญญาระบุว่า สนข.ชี้แจงตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนนั้น ให้ไปถามกรรมาธิการคนอื่นๆ ได้ว่า สนข.ชี้แจงชัดเจนหรือไม่ ทุกคนเข้าใจหมด มีแต่ฝ่ายก้าวไกลที่ไม่เข้าใจ พยายามซักลงไปในรายละเอียดถึงขั้นที่ว่าจะมีเรือสัญชาติใดบ้างกี่ลำมาเข้าร่วมในโครงการ เหมือนกับพยายามไม่เข้าใจ บอกว่าไปหลอกลวงให้ต่างชาติมาร่วมลงทุน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโครงการนี้เป็นเมกะโปรเจกต์ บริษัทต่างชาติต้องศึกษามาเป็นอย่างดีก่อนจะมาลงทุน จะไปหลอกได้อย่างไร ขณะนี้มีบริษัทต่างชาติติดต่อมาขอร่วมลงทุนจำนวนมาก แม้แต่ตัวแทน กมธ. พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้าน ยังลงมติเห็นด้วยกับผลการศึกษา เพราะมองว่าทำให้คนภาคใต้ได้ประโยชน์ มีแต่พรรคก้าวไกลที่ไม่เอา ขณะนี้เรื่องแลนด์บริจด์เป็นแค่ขั้นตอนการศึกษา ขึ้นอยู่กับสภาจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วย จะส่งเรื่องให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป ถ้าสภาไม่เห็นด้วย เรื่องก็จบไป รวมถึงต้องดูผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน

"ไม่อยากทะเลาะกับเด็กให้เป็นดรามา ทำไมคุณศิริกัญญาไม่ลาออกจาก กมธ.วิสามัญฯ ก่อนหน้านี้ แต่มาลาออกในนาทีสุดท้าย วันสุดท้ายก่อนจะลงมติ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าโหวตไปฝ่ายของตัวเองก็แพ้เพราะเป็นเสียงข้างน้อย ขอให้ทำอะไรตรงไปตรงมา หัดมองโลกให้กว้าง ควรมีเหตุผล ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วออกไปโวยวาย อย่าจ้องเล่นแต่การเมือง อย่าใช้อารมณ์ อายุยังน้อย อยากเป็น รมว.คลังต้องใจเย็นๆ อย่าใจร้อน ถ้าไม่เห็นด้วยก็รอไปชี้แจงในสภาทีเดียว อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้ารู้ว่าจะโหวตแพ้ในสภา จะกล้าลาออกจาก สส.หรือไม่" นายวิสุทธิ์ระบุ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของ สส.พรรคก้าวไกล และสิทธิ์ของ สส.ทุกพรรคที่อยู่ใน กมธ. ในการที่จะทำงานต่อหรือลาออก แต่ตั้งข้อสังเกตว่าหากเราไม่มองเรื่องการเมือง เอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง มีอะไรก็สามารถเสนอได้ และไม่ได้หมายความว่าการดำเนินการทุกอย่างใน กมธ. คงไม่เป็นเรื่องของการทำตามใจใคร หรือไม่ตามใจใคร ทุกครั้งที่มีความเห็นแตกต่าง หรือขัดแย้งกัน กมธ. พร้อมรับฟังอยู่แล้ว

"แม้การลาออกจากกรรมาธิการจะเป็นสิทธิ์ แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามเหมือนกัน อาจทำให้ประชาชนเสียโอกาสหรือไม่ เพราะเรื่องแลนด์บริดจ์ หากยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เขาก็อยากเห็นโครงการนี้ อีกทั้งโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล ในการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องคมนาคมขนส่งเพื่อเสริมศักยภาพจุดแข็งของประเทศ" นายอนุสรณ์ระบุ

ส่วนที่พรรคก้าวไกลระบุไม่อยากเป็นตรายางนั้น นายอนุสรณ์กล่าวว่า ไม่มีใครเป็นตรายาง แต่ทุกครั้งของการโหวตเป็นธรรมชาติ เมื่อเสียงส่วนใหญ่โหวตเป็นเช่นไรต้องดำเนินการตามนั้น และต้องทำความเข้าใจโจทย์ก่อนว่าการทำงานในชั้น กมธ.นั้น ไม่มีพรรค เพราะการตั้ง กมธ.แต่ละคณะนั้น มีสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ตามสัดส่วนของสมาชิกแต่ละพรรค ฉะนั้น ในอดีตเราเคยบอกว่าอย่าใช้เสียงข้างมากลากไป ต้องเคารพเสียงข้างน้อย เชื่อว่ารัฐบาลนี้ด้วยสัดส่วนและบรรยากาศการทำงานเขาก็พร้อมรับฟังเสียงที่เห็นต่างหรือเสียงข้างน้อยใน กมธ. อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกรณีที่มีข้อเสนอแนะให้ กมธ.สัดส่วนพรรค ก.ก.ที่ลาออกคืนเงินเบี้ยประชุม นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถเสนอได้ แต่ขอให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ ในส่วนของ กมธ.ไป ซึ่งที่ผ่านมา กมธ.ของพรรคก้าวไกลทำงานกันอย่างเต็มที่

ก.ก.ปัดเกมการเมือง

ขณะที่ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า เป็นไปอย่างที่ น.ส.ศิริกัญญาได้ให้สัมภาษณ์ ไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง เพราะเราดูที่เนื้อหาของรายงาน แต่หากรายงานไม่สมบูรณ์ ไม่สมควรที่จะให้รายงานเล่มนี้ผ่านเข้าไป ไม่ว่าโครงการนี้จะทำหรือไม่ก็ตาม ซึ่งรัฐบาลได้ใช้งบประมาณศึกษาโครงการนี้ไปมากถึง 68 ล้านบาท แต่กลับได้เพียงรายงานที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ มีคำถามค้างอยู่มากมาย ที่ไม่มีคำตอบกลับมาจาก สนข. กระทรวงคมนาคม

เมื่อถามว่า หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดทางรัฐบาลถึงสนใจโครงการแลนด์บริดจ์เป็นพิเศษ นายจุลพงศ์กล่าวว่า หากโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ไม่ว่ารัฐบาลไหนเสนอมาเราควรสนับสนุน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เพียงแต่ว่า ตามชื่อ กมธ.ชุดนี้ ศึกษาเกี่ยวกับโครงการพื้นฐานการขนส่ง เราไม่ได้ศึกษาว่าจะต้องสร้างนิคมอุตสาหกรรมประเภทไหน ในเมื่อชื่อของ กมธ.ชุดนี้ เจาะจงมาเรื่องการขนส่ง ฉะนั้นเราต้องการตัวเลขที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าเมื่อรัฐบาลเป็นเก่าเป็นคนเริ่ม แล้วรัฐบาลชุดใหม่จะต้องมาล้ม ตนว่าขึ้นอยู่กับโครงการมากกว่า ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่

“น่าสนใจว่า หากสมมติว่าผมชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน และผมระบุว่าจะได้กำไรเท่านั้นเท่านี้ พอนักลงทุนเหล่านั้นมาศึกษาเอง แล้วไม่เป็นไปตามที่เราเคยพูด คนพูดที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร ในเรื่องความน่าเชื่อถือของประเทศ เราเป็นกังวลเรื่องนั้น เพราะจริงๆ แล้ว ตัวเลขก็ยังออกมาไม่ชัดเจน แต่แน่นอนว่านายกฯ คงไม่ได้มาดูในรายละเอียด ก็คงจะดูแต่ภาพกว้างและมีคนสรุปให้ ฉะนั้นเรื่องนี้คือความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากประเทศไทย ที่จะชักชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน" นายจุลพงศ์กล่าวทิ้งท้าย

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ของรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊กว่า แลนด์บริดจ์ "ระนอง-ชุมพร" หรือช่องแคบ "มะละกา" ประตูสู่เอเชีย ในขณะที่รัฐบาลกำลังทุ่มสรรพกำลังผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ให้เป็นรูปธรรม ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้าแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร เกิดขึ้นจริง จะช่วงชิงประตูสู่เอเชียจากช่องแคบมะละกาได้หรือไม่ 

โดยช่องแคบมะละกาตั้งอยู่ระหว่างประเทศมาเลเซียและประเทศสิงคโปร์กับประเทศอินโดนีเซีย (เกาะสุมาตรา) เป็นเส้นทางการเดินเรือที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมากแห่งหนึ่งของโลก ท่าเรือสิงคโปร์มีบทบาทสำคัญในการรองรับเรือที่แล่นผ่านช่องแคบมะละกา โดยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับต้นๆ ของโลกมานานหลายปี ไม่ว่าจะพิจารณาจากน้ำหนักสินค้าทุกประเภท หรือจากปริมาณคอนเทนเนอร์ก็ตาม ปัจจัยหลักที่จูงใจให้เรือมาใช้บริการที่ท่าเรือสิงคโปร์จำนวนมากก็คือ มีทำเลที่ดีทำให้เกิดเป็นศูนย์รวมของเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลกกว่า 200 สาย ให้บริการเชื่อมโยงท่าเรือกว่า 600 แห่งทั่วโลก ปัจจัยอื่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของท่าเรือสิงคโปร์ก็คือมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร มีคุณภาพการให้บริการที่ดี และมีการบริหารงานที่โปร่งใส

คาดกันว่าถ้ามีแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร จะช่วยร่นระยะทางและระยะเวลาการเดินเรือระหว่างฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของไทยได้เมื่อเทียบกับการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกา หลายคนเห็นด้วยว่าระยะทางนั้นสั้นกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าระยะเวลาจะสั้นกว่าหรือไม่ ไม่แน่ใจเพราะว่าจะต้องมีการขนถ่ายสินค้าหรือน้ำมันจากเรือสู่รถไฟ รถบรรทุก หรือท่อส่งน้ำมันที่ฝั่งทะเลด้านหนึ่ง แล้วขนสินค้าหรือน้ำมันด้วยรถไฟ รถบรรทุก หรือท่อส่งน้ำมันไปยังอีกฝั่งหนึ่ง จากนั้นก็ขนสินค้าหรือน้ำมันขึ้นเรือเพื่อขนไปส่งยังจุดหมายปลายทางต่อไป จึงน่าห่วงว่าจะประหยัดเวลาได้จริงหรือ

ย่นเวลาได้จริงหรือไม่

ลองคิดดูว่าถ้ามีเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 100,000 ตัน จะใช้เวลานานเพียงใดที่จะสูบน้ำมันจากเรือลงสู่ท่อ หรือถ้ามีเรือบรรทุกสินค้าขนาด 50,000 ตัน จะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะขนสินค้าจากเรือสู่รถ และจะต้องใช้รถบรรทุกจำนวนมากขนาดไหน ข้อเป็นห่วงนี้ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงให้กระจ่าง เวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะจูงใจให้เรือมาใช้บริการ เพราะเวลาหมายถึงค่าใช้จ่าย ไม่ว่าเวลาที่แล่นเรืออยู่ในทะเลหรือเวลาที่จอดเทียบท่า ล้วนต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ถ้าแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร สามารถประหยัดเวลาได้ ก็จะสามารถจูงใจให้เรือมาใช้บริการแทนการแล่นผ่านช่องแคบมะละกา แต่ถ้าแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ไม่ทำให้ประหยัดเวลาได้ ก็ยากที่จะจูงใจให้เรือมาใช้บริการ

คำตอบต่อข้อกังวลนี้ ติดตามดูได้จากผลตอบรับของเอกชนว่าสนใจจะมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร หรือไม่ ถ้าลงทุนแล้วได้กำไร เขาก็จะลงทุน นั่นหมายความว่าแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร จะช่วยร่นระยะเวลาได้ ทำให้มีเรือมาใช้บริการในปริมาณที่มากพอที่จะทำกำไรได้ แต่ถ้าลงทุนแล้วขาดทุน เขาจะไม่ลงทุน นั่นหมายความว่าแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ไม่สามารถจูงใจให้เรือมาใช้บริการแทนช่องแคบมะละกาได้ ด้วยเหตุนี้ ปริมาณเรือที่จะมาใช้บริการจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจที่จะลงทุนในโครงการนี้ของเอกชน ซึ่งเขาจะต้องคาดการณ์ว่าจะมีเรือมาใช้แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร มากน้อยแค่ไหนนั้น โดยคำนึงถึงประเภทของสินค้าที่เรือจะขนมา และจุดต้นทางและปลายทางของสินค้า

เช่น 1.เรือบรรทุกน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางสู่ประเทศญี่ปุ่น จะเปลี่ยนเส้นทางจากช่องแคบมะละกามาใช้แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร มากน้อยเพียงใด 2.เรือบรรทุกคอนเทนเนอร์จากยุโรป (ท่าเรือร็อตเตอร์ดัม) สู่ญี่ปุ่น จะเปลี่ยนเส้นทางจากช่องแคบมะละกา มาใช้แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร มากน้อยเพียงใด 3.เรือบรรทุกแร่เหล็กจากอินเดียสู่ตะวันออกไกลจะเปลี่ยนมาใช้แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร หรือไม่ 4.เรือบรรทุกถ่านหินจากแอฟริกาสู่ตะวันออกไกลจะเปลี่ยนมาใช้แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร หรือไม่

"วันนี้ประตูสู่เอเชียทางน้ำยังอยู่ที่ช่องแคบมะละกา แต่ถ้าโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร เป็นรูปธรรมขึ้นมาคงต้องรอดูกันว่าประตูสู่เอเชียจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ถึงวันนั้นคนไทยจะได้ไชโย" นายสามารถ ระบุ.

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็นถึงรายงานผลการศึกษาของ กมธ. เเลนด์บริดจ์ ที่มีปัญหา ว่า โครงการแลนด์บริดจ์ มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท จำเป็นต้องมีกระบวนการศึกษาที่ถูกต้อง ตรงตามหลักวิชาการ ทั้งด้านมิติทางเศรษฐกิจ ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน ทั้งนี้ หน่วยงานที่ศึกษาจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไป ตรงมา และสามารถตอบข้อสงสัย แสดงหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนผลการศึกษาต่อสังคมได้

”จากข่าวที่ปรากฏซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลการศึกษาเรื่องความคุ้มค่าของโครงเเลนด์บริดจ์ระหว่างสภาพัฒน์ฯ และ สนข. มีความขัดแย้งหรือเห็นต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้น ผมเห็นว่า โครงการภาครัฐทุกโครงการ จะต้องมีกระบวนการศึกษาที่ถูกต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ ไม่มีการบิดเบือนผลการศึกษาเพื่อประโยชน์ของตน ประเด็นนี้สำคัญมากนะครับ หากเรามีอคติ หรือพยายามบิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริง งานวิจัยแล้ว ผลกระทบระยะยาว ความเสียหาย คงต้องตามมาแน่ๆ โดยเฉพาะผลการศึกษาของโครงการขนาดใหญ่ที่อาจสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง" นายสรรเพชญ ระบุ

สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างข้อชวนสงสัยของนายสามารถ ที่ชวนให้คิดว่า แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร จะช่วยร่นระยะทางลงจริงหรือไม่นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูล ออกมาอธิบายกับสังคมให้กระจ่าง เพราะหากแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ไม่สามารถประหยัดเวลาการเดินเรือ เมื่อเทียบกับการเดินผ่านช่องแคบมะละกา โครงการนี้ไม่อาจประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เรือขนาดแสนตันขนถ่ายสินค้า ขึ้น-ลง ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ดังนั้น ความสำคัญทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ประเด็นธรรมาภิบาลของหน่วยงานภาครัฐเป็นสำคัญ และหากเราเปรียบเสมือนคลังสมองของชาติ อย่างสภาพัฒน์ และ สนข. ขอให้ตรงไปตรงมากับข้อมูลที่ทั้งสองหน่วยงานได้ศึกษามา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์