ทวีชี้ฟินแลนด์ส่งข้อมูล เฉลิมชัยไม่รู้จัก‘เฮียเก้า’

ดีเอสไอแจงฟันอดีต 2 รมต.-บิ๊ก ขรก. แค่ผิดต่อตำแหน่งราชการก่อน “ทวี” เผยฟินแลนด์ส่งหลักฐานมา “ไพโรจน์” ยันไม่เอี่ยวค้ามนุษย์ ด้าน “สุชาติ” เดือด จ่อตั้งทีมกฎหมายฟ้องคนทำเสียชื่อ พูดกำกวมให้คนเข้าใจผิด “เฉลิมชัย”  ไม่รู้จัก “เฮียเก้า”

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีกองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด มีมติให้กล่าวหาอดีตข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับรัฐมนตรี 2 ราย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานอีก 2 ราย รวมทั้งหมด 4 ราย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และมาตรา 86 เรื่องแรงงานไทยเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในสาธารณรัฐฟินแลนด์ กรณีเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีขบวนการหักค่าหัวคิว ในปี 63-66 ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีมติให้ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามอำนาจการไต่สวน ซึ่งอาจมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นเรื่องร้ายแรงหรือพบความผิดอื่น เช่น คดีค้ามนุษย์ หรืออาจส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบเอง ทั้งนี้ ถ้าเข้าข่ายคดีค้ามนุษย์ ต้องตรวจสอบว่ามีพยานหลักฐานถึงบุคคลใด แต่เบื้องต้นเป็นการเอาผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานจ่อฟ้องกลับหากไม่ใช่เรื่องจริง พ.ต.ต.วรณันตอบว่า เป็นเรื่องใช้สิทธิ์ตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งในการปฏิบัติงานของดีเอสไอมีหน้าที่ถ่ายทอดข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบว่าเป็นประเด็นสำคัญ ไม่เปิดเผยข้อมูลบุคคลที่ถูกกล่าวหา ไม่ระบุชื่อตัวบุคคล เพียงกล่าวแค่ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกว้างๆ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีนี้ทางตำรวจฟินแลนด์ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพบเส้นทางการเงิน และมองว่าเป็นการค้ามนุษย์ แต่บุคคลที่ถูกกล่าวหาจะหมายถึงใครบ้างนั้น คงต้องให้สอบถามกับทางดีเอสไอ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เจอปลัดกระทรวง จะเรียกมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 63-66 มีความเป็นมาอย่างไร ตนจะติดตามหาข้อมูลเพื่อจะมาดูว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เรื่องนี้นิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้กระทรวงแรงงาน โดยจะต้องหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้ได้ก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร หลังจากนั้นจะตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่การตั้งกรรมการสอบ แต่เป็นการตั้งกรรมการเพื่อหาข้อเท็จจริง

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอยืนยันว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และพร้อมยืนยันการทำงานด้วยความบริสุทธิ์ เพราะการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานทุกคนเดินทางไปทำงานด้วยความถูกต้องตามกฎหมาย ตนพร้อมให้ความร่วมมือกับทางดีเอสไอและ ป.ป.ช.ในการให้ข้อมูล และในระหว่างที่ตนเป็นอธิบดีกรมการจัดหางานนั้น ปัญหาการเรียกเก็บค่าหัวคิวไม่มีข้อมูลตรงนี้ แต่ในส่วนของผู้ประสานงานเรียกเก็บ นำส่งไปเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการระดับสูงนั้น ตนไม่ทราบข้อมูล

นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต รมว.แรงงาน  กล่าวว่า ดีเอสไอออกเอกสารว่าเป็นเรื่องเมื่อปี 63 ส่วนตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนส.ค.63 ขณะที่การส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ฟินแลนด์ จะส่งทุกเดือน มิ.ย.-ก.ค. และส่งมากว่า 10 ปี จึงมีการส่งแรงงานไปฟินแลนด์ก่อนที่ตนจะรับตำแหน่ง ส่วนปี 64-65 มีการส่งแรงงานไปต่อเนื่อง สถานทูตฟินแลนด์จะกำหนดโควตาว่าต้องการแรงงานเท่าไร แล้วประสานมายังกระทรวงแรงงาน ทางกระทรวงแรงงานจะแจ้งไปยังนายจ้างที่มีการประสานกับทางเอกชนของฟินแลนด์อยู่แล้ว เพื่อจัดส่งกันเอง ซึ่งในส่วนของการคัดคนงาน การจัดส่งต่างๆ กระทรวงแรงงานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าไปควบคุม เพียงแค่ออกกฎระเบียบว่าให้นายจ้างกับลูกจ้างมีการทำสัญญา มีหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารว่าจะได้รับค่าตอบแทนจำนวนเท่าไร

อดีต รมว.แรงงานระบุว่า เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะมีแรงงานถูกส่งกลับประมาณ 10-20 คน และร้องเรียนไปยังสถานทูต  ต่อมามีประเด็นข้อหาค้ามนุษย์ ต้องถามกลับว่า แล้วคน 3,000-4,000 คนที่เดินทางไปนั้น ทำไมถึงไม่ได้มีการร้องเรียนกระทรวงแรงงาน มีการเรียกลูกจ้างและนายจ้างมานั่งโต๊ะเจรจา และมีแบงก์การันตีแบบนี้ จะมาบอกว่าเป็นการค้ามนุษย์ได้อย่างไร องค์ประกอบเรื่องของการค้ามนุษย์ของฟินแลนด์กับของไทยแตกต่างกัน มีคนคนหนึ่งซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของไทยถูกจับข้อหาค้ามนุษย์ มีการให้การซัดทอดข้าราชการหรือใครก็แล้วแต่  ซึ่งตนไม่รู้จักและไม่เคยไปยุ่งกับเขา ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ถ้า ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วว่าตนไม่ได้มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ดีเอสไอจะชดเชยอย่างไรที่ทำให้ตนเสียหาย การที่ออกข่าวนี้มาเพราะต้องการกลบกระแสข่าวอะไรหรือไม่

“เรื่องนี้ใครให้การอะไรไว้ หรือกล่าวหาอะไรไว้โดยไม่มีข้อมูลหลักฐานไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผมจะฟ้องร้องทั้งหมด โดยได้ตั้งทีมกฎหมายพิจารณา เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่เป็นอดีตรัฐมนตรี หากผมเป็น รมว.ยุติธรรม แล้วไปเอาเรื่องเก่ามากล่าวอ้างอดีต รมว.ยุติธรรมบ้างได้หรือไม่ ไปพูดให้ข่าวอดีตรัฐมนตรีแบบนี้จะให้ต่างชาติมองอย่างไร หากมีการกล่าวอ้างถึงรัฐมนตรี หรือมีเส้นทางการเงินของใคร แต่ยืนยันว่าผมไม่เกี่ยวข้อง ต้องยืนยันมาว่ามีเส้นทางการเงินของใครและแจ้งคนนั้น ไม่ใช่ออกมาพูดกำกวมทำให้คนมองว่าเป็นผม” นายสุชาติย้ำ

วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีดีเอสไอมีการตรวจค้นบ้านคนใกล้ชิดนักการเมือง ซึ่งอาจพัวพันกับขบวนการค้าหมูเถื่อน และมีการถ่ายภาพร่วมกับนักการเมืองหลายคนว่า ไม่ว่าหน่วยงานไหนก็ตาม ไม่มีข้อมูลจากตน ทำอะไรไม่ได้หรอก ดังนั้น ข้อมูลสืบสวนสอบสวนทั้งหมดต้องมาจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมด ถ้าคุณไปทำอะไรที่ผิดวัตถุประสงค์ คุณก็รับกรรมไปแล้วกัน

"ที่ดีเอสไอดำเนินคดีรายใหญ่ล่าช้าไม่คืบหน้านั้น ผมอยากถามว่าดำเนินคดีไปถึงไหน หากไม่ทำผมจะทำเอง และส่วนตัวผมกับรองอธิบดีดีเอสไอเป็นเหมือนพี่น้องกัน รู้จักกัน ส่วนผู้ปฏิบัติต้องทำให้ถูกต้อง อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร และผมไปคุยกับ รมว.ยุติธรรม หากเกี่ยวข้องกับใครจะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดีเอสไอ ออกหมายจับขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ที่มีรายงานว่าเป็นน้องชายต่างมารดาของนายเฉลิมชัยว่า  ข่าวที่ว่านายหลี่ เซิ่งเจียว เป็นพี่น้องต่างมารดากับตนนั้น เป็นเรื่องเท็จ เพราะบิดาของตนอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 80  ปีแล้ว โดยหลังจากที่บิดาของตนมาอยู่เมืองไทยแล้ว ไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย แล้วเขาจะไปมีลูกที่จีนได้อย่างไร และตนไม่รู้จักบ้านของนายหลี่ รวมถึงไม่เคยไปบ้านและที่ทำงานของเขาด้วย

เมื่อถามถึงกรณีของบุตรชายของนายหลี่ คือนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย และนายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลานชายของนายเฉลิมชัยนั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า รู้แค่ว่าเป็นการมาขอใช้นามสกุล แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อร้องยุบรัฐบาล! ‘วีระ’ อ้างเป็นกบฏทำ เสียดินแดน / ‘ผบ.ทร.’ ลงพื้นที่เกาะกูด

ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด กำชับกำลังพลหากมีเรื่องใดขัดข้องให้รีบแจ้งเพื่อแก้ไข ขณะที่นายอำเภอเกาะกูดลั่นเป็นของไทยมากว่า

ฮือ! ขวาง ‘โต้ง’ ยึดธปท.

นักวิชาการ-กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ย้ำหากฝ่ายการเมืองเข้าไปเป็นบอร์ด ธปท. สุ่มเสี่ยงเกิดการกินรวบ เป็นหายนะต่อประเทศ “กองทัพธรรม” ขยับล่าชื่อต้าน

ปลื้ม ‘UN’ ชม แจก ‘สัญชาติ’ ยันไม่มี ‘สีเทา’

รัฐบาลปลื้มยูเอ็น ยกย่องไทยยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ โฆษกรัฐบาลยัน กลุ่มคนสีเทา หรือแรงงานต่างด้าว หรือผู้หลบหนีเข้าเมือง ไม่ได้สัญชาติไทย เผยเหตุให้รวดเดียว 4.8 แสนคน

โฆษกดีเอสไอ เผยผลสอบสินบน คลิปเสียงเทวดา DSI เอี่ยวดิไอคอน จะออกเร็วๆนี้

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ​กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีบริษัท ดิ ไอ คอน กรุ๊ป ว่า กรณีที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล จะนำพยานชุดแรก

นพดลวอนหยุดปั่นเกาะกูด ‘คำนูณ’ แนะชั่งข้อ ‘ดี-เสีย’

“นพดล” ย้ำ “เกาะกูด” เป็นของไทย เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้เสียดินแดน วอนเลิกบิดเบือนหวังผลการเมือง “คำนูณ” ชำแหละบันทึกความตกลง เป็นคุณกับกัมพูชามากกว่า