เทวดาชั้น14อยู่ยาว ‘ราชทัณฑ์’ไฟเขียว ยันป่วยดูแลใกล้ชิด รพ.ตร.ห้ามละเมิด

เทวดาของแท้! "กรมราชทัณฑ์" ไฟเขียว "ทักษิณ" นอนรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ อ้างแพทย์ยันอาการป่วยต้องดูแลใกล้ชิด หวั่นเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นอันตรายถึงชีวิต "ทวี" ท่องสูตรเดิมยังไม่ได้รับรายงาน "เศรษฐา" ลั่นทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอม็อบไม่อยากให้เกิดบรรยากาศไม่สงบ  "โฆษก รพ.ตร." ย้ำชัดไม่อนุญาต กมธ.ตร. ขึ้นชั้น 14 หวั่นละเมิดสิทธิ์คนไข้  สภาเดือด! "ก.ก." ฉุนลิ่วล้อ "พท." ประท้วง ถามแตะทักษิณไม่ได้เลยหรือ  "คปท." นัดตั้งเวทีชุมนุม 12 ม.ค.

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. กรมราชทัณฑ์​ชี้แจงกรณีส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ออกไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลภายนอก ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2566 โดยพบว่านายทักษิณมีโรคประจำตัวหลายโรค ที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ  โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า  โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง และยังคงรักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนั้น

กรมราชทัณฑ์ระบุว่า ขณะนี้นายทักษิณได้ออกไปรับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจเกินระยะเวลา 120 วัน โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับทราบถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง  โดยแจ้งความเห็นว่าผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจึงได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินการพิจารณา ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ที่ระบุไว้ว่า กรณีผู้ต้องขังต้องพักรักษาตัวที่สถานที่รักษาเป็นเวลานาน  ให้ผู้บัญชาเรือนจำดำเนินการดังนี้  กรณีการพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน  ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาจากความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาที่พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่ายังต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ประกอบกับเอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความครบถ้วนตามกฎหมาย จึงพิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567  ให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที" กรมราชทัณฑ์ระบุ

กรมราชทัณฑ์ระบุด้วยว่า ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎกระทรวง จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 โดยกรมราชทัณฑ์ยังคงยึดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามมาตรฐานสากล รวมถึงเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย กรมราชทัณฑ์จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณชนได้ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550  ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 และข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ.2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตาม

รพ.ตร.ห้าม กมธ.ขึ้นชั้น 14

ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน ของนายทักษิณจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่ทราบจากสื่อว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะเสนอมายังตนภายในสัปดาห์นี้

ถามว่า ในการประชุมหลักเกณฑ์คัดกรองผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566   วันนี้ มีกรณีของนายทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ไม่มีเรื่องนายทักษิณเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นการหารือการออกระเบียบ ไม่ได้เจาะจงกับบุคคลหรือพื้นที่ใด

"ใครจะเข้าเกณฑ์ไม่มีใครรู้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการราชทัณฑ์ ซึ่งจะมีทั้งบุคคลจากกระทรวงยุติธรรม และบุคคลภายนอกที่จะต้องมาพิจารณาร่วมกัน" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

ซักถึงการที่กรรมาธิการการตำรวจจะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจวันที่ 12 ม.ค. จะอนุญาตให้ขึ้นชั้น 14 หรือไม่ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องของอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ ส่วนที่ รพ.ตำรวจ อนุญาตให้กรรมาธิการการตำรวจเข้าศึกษาดูงานที่ชั้น 6 อาคารศรียานนท์  ตนก็ยังไม่ได้รับรายงาน

ที่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ความเห็นชอบนายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อโรงพยาบาลตำรวจต่อว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับการเสนอเรื่องมาจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งสิทธิของผู้ป่วยต้องมีด้วย และตนก็มั่นใจว่ากรมราชทัณฑ์พิจารณาดูดีแล้ว และทางกระทรวงยุติธรรมก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอน

ถามว่า เป็นห่วงหรือไม่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ที่ต่อต้านเรื่องนี้นัดชุมนุมปักหลักในวันที่นายกฯ นอนค้างทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า  คิดว่าพวกท่านรู้ว่าเราทำหน้าที่อะไรในตอนนี้ และก็เป็นไปตามกระบวนการ ทางกรมราชทัณฑ์ก็ทำเรื่องแล้ว โรงพยาบาลตำรวจก็ตอบแล้ว ขณะที่ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจก็จะเข้าไปตรวจสอบ ถือว่ามีกระบวนการตามกฎหมายที่ถูกต้อง

"ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ ขอใช้คำว่าไม่อยากให้เกิดบรรยากาศทำนองนี้เกิดขึ้นจะดีกว่า เพราะเราเองก็พยายามจะทำให้มันดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มั่นใจฝ่ายความมั่นคง ที่เขาจะดูแลอย่างดี ไม่เป็นไร" นายเศรษฐากล่าว

ที่โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ  กล่าวถึงกรณีโรงพยาบาลตำรวจมีหนังสือตอบรับให้ กมธ.การตำรวจเข้ามาศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลได้ว่า การเข้ามาศึกษาดูงานจะต้องไม่กระทบการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่กระทบสิทธิ์หรือละเมิดสิทธิ์ของผู้ป่วยที่มาใช้บริการ และไม่ทำความเสียหายให้โรงพยาบาลตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ถามว่า ชั้น 14 ที่นายทักษิณพักรักษาตัวสามารถขึ้นไปดูได้หรือไม่ พ.ต.อ.หญิงศิริกุลกล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะการจะไปดูผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณหรือผู้ป่วยรายอื่น โรงพยาบาลตำรวจคงไม่อนุญาต

"การดูงานมีหลายรูปแบบ ซึ่งทางกองอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจจะมีการนำเสนอหรือให้ข้อมูลตามทุกอย่างที่คณะกรรมาธิการการตำรวจสงสัย หรืออยากทราบข้อมูลส่วนไหน ก็สามารถตอบได้ทุกคำถาม โดยไม่กระทบกับคนไข้ แต่การจะขอไปดูคนไข้รายใดรายหนึ่ง แค่คิดก็ไม่เหมาะสมแล้ว" พ.ต.อ.หญิงศิริกุลกล่าว

ซักว่าจะมีการให้วิดีโอพูดคุยหรือเยี่ยมคนไข้ได้หรือไม่ โฆษก รพ.ตำรวจ กล่าวว่า รูปแบบดังกล่าวทาง รพ.ตำรวจไม่เคยทำ เพราะเกรงจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนไข้ โดยเฉพาะหากคนไข้ไม่อนุญาตก็ไม่สามารถทำได้ทุกกรณี

"การขอมาศึกษาดูงานของ กมธ.ตำรวจ ก็ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็นการขอดูงานในภาพรวมเท่านั้น การจะไปชั้น 14 ไม่สามารถพาขึ้นไปได้ รวมถึงการขอดูผ่านกล้องวงจรปิดในห้องควบคุม ซึ่งหากมีการขอดู ทางแพทย์ใหญ่ได้มอบหมายผู้เกี่ยวข้องเป็นคนอธิบายและให้ข้อมูลไว้แล้ว โดยจะต้องเป็นไปตามความเหมาะสม" โฆษก รพ.ตำรวจกล่าว

คปท.เปิดเวทีถลก 12 ม.ค.

ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เรื่องกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ และการสร้างความชอบธรรมเพื่อฟื้นฟูระบบนิติรัฐให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น แต่นายกฯ ได้มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ชี้แจงแทน นอกจากนี้ นายชัยธวัชยังสอบถามถึงมาตฐานการคุมนักโทษของรัฐบาลชุดนี้ด้วย

นายภูมิธรรมชี้แจงว่า กรณีการคุมขังนักโทษ รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการคุกคามหรือทำให้เกิดความหวาดกลัว สิ่งสำคัญกว่านั้นมาจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ขณะที่กฎหมายดำเนินการอยู่ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อะไรที่เป็นกฎหมายอย่าท้าทายและทำผิด

"ที่พูดถึงความเสมอภาคเท่าเทียม  แล้วพูดถึงชั้น 14 ผมเข้าใจและรู้สึกแบบเดิม เหมือนหมวด 1 หมวด 2 ท่านไม่ได้ทำความเข้าใจรายละเอียดกฎหมายที่ออกมาให้ชัดเจน ถ้าเข้าใจจะไม่รู้สึกแบบนี้ กฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่ได้เกิดในรัฐบาลนี้ แต่เกิดมาก่อน ยกความดีให้รัฐบาลที่แล้ว ที่เล็งเห็นว่าการนำผู้ต้องขังไว้ในเรือนจำ ล้นจริงๆ คุกล้น คนอยู่ข้างในลำบาก ดังนั้นจึงพยายามแก้ไขปัญหา เป็นไปตามหลักสากลให้บุคคลที่เจ็บป่วย หรือใกล้พ้นวาระ และปฏิบัติตัวดีไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกได้" นายภูมิธรรมกล่าว

รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องชั้น 14  แพทย์ยืนยันต้องถือเป็นที่สุด อย่าเอาเรื่องที่เป็นกระบวนการยุติธรรมปกติมาโยนใส่รัฐบาล แล้วทำให้เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่องความปรารถนาที่จะสร้างความไม่เสมอภาคกัน ใจเย็นๆ ทำใจกว้างๆ คิดให้ดี ถ้ายังจุกจิกกับเรื่องแบบนี้ปัญหาประเทศจะไปไม่ได้ ไม่ใช่วนเวียนอยู่ที่ชั้น 14 ขอความกรุณาเปิดให้กว้าง แล้วไปให้ไกลถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชัยธวัชถามคำถามที่สองเรื่องการคุมขังนักโทษนั้น ปรากฏว่าได้ใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนดไว้ แต่ยังไม่ถึงหนึ่งนาที นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงขอให้รักษาเวลา ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัยอนุญาตให้นายชัยธวัชใช้เวลาอภิปรายเกินได้อีก 1 นาที แต่ดูเหมือนคำวินิจฉัยไม่ได้ผล เพราะนายไชยวัฒนาประท้วงซ้ำอีกครั้ง จากนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงสวนกลับว่า คำวินิจฉัยของประธานถือเป็นที่สุด และยังกล่าวตอนท้ายว่า “ชั้น 14 แตะไม่ได้เลยหรือ เดี๋ยวผมจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก” ทำให้นายไชยวัฒนาโต้ว่า “นายวิโรจน์เละเทะ เดชะบุญของคน กทม.” ต่อมานายวันมูหะมัดนอร์พยายามไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน และตัดบทให้นายภูมิธรรมชี้แจงต่อไป

วันเดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์  อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “แนะนำ กมธ.ตำรวจจับผิด ทักษิณ 7 ข้อ”  เนื้อหาสรุปว่า การไปตรวจสอบคุณทักษิณอยู่ที่ชั้น 14 หรือไม่ และมีอาการป่วยหรือไม่ จะเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าจะตรวจสอบค้นหาความจริง ต้องตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในเรื่องนี้

นายเทพไทได้แนะนำให้คณะกรรมาธิการการตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐาน 7 ข้อ อาทิ ตรวจสอบการบันทึกภาพของทีวีวงจรปิด ชั้น 14 และบริเวณใกล้เคียง ต้องตรวจสอบระบบเอกสารของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด ขอดูคำสั่งจัดเวรยามของเจ้าหน้าที่เรือนจำ หรือผู้คุม ว่ามีหรือไม่ มีรายชื่อใครบ้าง และได้มาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เป็นต้น

ส่วนนายพิชิต ไชยมงคล แกนนํากลุ่ม คปท. โพสต์ข้อความโดยสรุประบุว่า หมอตุลย์ทำการสืบสวนทางการแพทย์เรื่องนี้มาตลอด รู้ตัวละครทางการแพทย์ทุกคน ตนได้คุยกับหมอตุลย์แล้วน่าสนใจมาก หมอตุลย์พร้อมบอกข้อเท็จจริงทางการแพทย์บนเวที คปท. 12 ม.ค. เวลา 16.00 น. สะพานชมัยฯ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ตอนหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ของนักโทษชั้น 14 จะเริ่มเป็นปัญหาบานปลายนับแต่ 11 ม.ค.เป็นไป เพราะรัฐบาลพยายามปกปิดความจริงของนักโทษอภิสิทธิ์ชนที่ไม่ยอมติดคุกสักวัน เมื่อผสมกับกรณีดิจิทัลวอลเล็ต ยิ่งจะทำให้รัฐบาลพังได้ง่ายขึ้น

"เมื่อ กมธ.ตำรวจไปตรวจสอบ รพ.ตำรวจ แต่กลับให้แค่ชั้น 6 และเป็นคนละอาคารอีก หมายความว่าต้องการกวนตีนสังคม ท้าทายอารมณ์ของประชาชนหรือ? ถ้าป่วยเจ็บไข้จริงไม่มีคนไทยคนไหนใจดำเลย อีกอย่างยิ่งคนในครอบครัวป่วย ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถไปเริงร่าที่ไหนได้เลย ต้องเฝ้าทุกวัน และยิ่งติดคุกแล้วป่วยด้วย ยิ่งต้องไปเฝ้าทุกวัน" นายจตุพรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

ครบ 75 ปีขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ 'ทักษิณ' คิดดีต่อบ้านเมือง!

เมื่อวานที่นายทักษิณ ครบรอบวันเกิด 75 ปี ลำพังถ้านายทักษิณ เป็นนักธุรกิจ มีเงินมีทอง จะโดยสุจริตหรือทุจริต ผมคงไม่ต้องเอ่ยถึง แต่นายทักษิณคือบุคคลสาธารณะ และมีอิทธิพลต่อ ความสงบสุข

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์