“สกลธี” จ่อลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ รอชัดเจนก่อน ก.พ.65 รับกลุ่ม กปปส.ถอยห่างการบริหารของ พปชร.แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อุบไต๋เรื่องคุยกับนายกฯ อ้างเป็นมารยาท ก่อนยื่นลาออกจากสมาชิก พปชร.แล้ว "ก้าวไกล" เปิดตัว 23 ม.ค. ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อายุ 41 ปี หน้าตาดีกว่า "พิธา"
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) อดีตแกนนำ กปปส. และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์ ถึงกรณีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่ามีหลายกลุ่มการเมืองเริ่มเสนอตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. พร้อมยกตัวอย่างกลุ่ม กปปส.ที่อาจเปิดตัวด้วย ว่า ขอให้เรียนถาม รมต.ชัยวุฒิดีกว่า เพราะตนกับ รมต.ชัยวุฒิอาจจะเป็นกลุ่มที่เป็นเพื่อนกินเที่ยวด้วยกัน ด้วยความที่เราคบกันมานาน รมต.ชัยวุฒิคงเห็นว่าตนทำงานใน กทม.มา 4 ปี คงมองว่าทำไมถึงไม่เสนอตัวเอง แต่ด้วยความสัตย์จริง ยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับ รมต.แต่อย่างใด
เมื่อถามว่า การส่งสัญญาณของนายชัยวุฒิทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง นายสกลธีกล่าวว่า อาจจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจำกันได้ 1 ปีก่อน ตนเป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนนางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ ลงชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่เมื่อมีอุบัติเหตุทางการเมืองก็เงียบๆ ซาๆ กันไป เป็นไปได้ว่านายชัยวุฒิอาจจะเห็นว่าตนทำงานใน กทม.มา 4 ปี มีประสบการณ์ ทำไมถึงไม่เสนอตัวเอง ช่วงนั้นมีการเตรียมการกันอยู่พอสมควร พอเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ละคนก็กระจายกันออกไป แต่ยังมีการพูดคุยกันตลอด รับประทานข้าวกันตามปกติ แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่กับ พปชร. บางคนอยู่กับทีม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.
“ขอเรียนตรงๆ ผมทำงาน กทม.จะครบ 4 ปี เดือนเมษายนนี้ มีความสนุกกับการทำงาน มีความสนใจการเมืองท้องถิ่น แต่ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าว่าความชัดเจนจะเป็นอย่างไร ผมถึงจะให้คำตอบได้ ถามว่าผมสนใจหรือไม่ ก็สนใจอยู่แล้ว เพราะอยู่ในท้องถิ่นมา 4 ปีแล้ว” นายสกลธีกล่าวเมื่อถามว่าธงส่วนตัวยังสนใจลงผู้ว่าฯ กทม.ใช่หรือไม่
นายสกลธีกล่าวอีกว่า ต้องดูเรื่องความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง และยังมีภารกิจหลายอย่างที่ยังทำค้างอยู่ หลายอย่างเป็นนโยบายมาจากนายกฯ เรายังทำไม่เสร็จ และอาจจะจบในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะโครงการพัฒนาคลองแสนแสบ ที่รับนโยบายมาจากนายกฯ ตั้งแต่เข้ามาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ต้องทำให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทาง ล้อ ราง เรือ และใช้พลังงานสะอาด ส่วนที่ต้องรอดูอาจจะเป็นการรวบรวมคนที่สนใจและมีแนวทางไปทางเดียวกัน อยากพัฒนา กทม. แต่ตนไม่ได้ปิดตาย อาจจะโดดกลับไปสนามใหญ่ก็ได้
เมื่อถามว่าเงื่อนไขสำคัญคือต้องรอดูว่า พปชร.จะสนับสนุนด้วยหรือไม่ นายสกลธีปฏิเสธทันทีว่า “ตรงนั้นไม่เกี่ยวเลยครับ ตั้งแต่นายณัฏฐพล นายพุทธิพงษ์ โดนคดีไปเมื่อเดือน ก.พ. กลุ่มของพวกผมใช้คำว่าถอยห่างออกมาจากการบริหาร อาจจะด้วยเหตุผลหลายอย่างภายใน เรียกว่าแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ พปชร.เหลืออยู่เลย” และถามย้ำว่าหากลงผู้ว่าฯ กทม.จะลงในนามอิสระใช่หรือไม่ นายสกลธีกล่าวยอมรับว่า “ใช่ครับ ถ้าลงคงจะเป็นอย่างนั้น”
เมื่อถามถึงการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นายสกลธีกล่าวว่า ทุกปีตนกับนายณัฏฐพลจะเข้าไปขอพรปีใหม่นายกฯ อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ท่านถามสารทุกข์สุกดิบเรา ท่านก็ถามนายณัฏฐพลว่า ตั้งแต่โดนคดีไปได้ทำอะไรมาบ้าง เป็นการพูดคุยกันเรื่องทั่วไปมากกว่า เมื่อถามอีกว่าได้พูดคุยเรื่องอนาคตทางการเมืองและเรื่องผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ นายสกลธีกล่าวว่า “ก็มีการคุยกัน แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะคุยกับท่านนายกฯ อาจจะเสียมารยาทหากนำมาเปิดเผย”
นายสกลธีกล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวน่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2565 ไม่เกิน ก.พ.ก็น่าจะชัด อย่างที่เรียนว่าตนอยากทำภารกิจ กทม.ให้ลุล่วงเสียก่อน ตนสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาศาลาว่าการ กทม.แล้ว
ต่อมา นายสกลธีเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดถึงเหตุผลหรืออนาคตในการทำงานการเมืองต่อจากนี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสว่านายสกลธีมาพบนายกฯ เพื่ออวยพรปีใหม่ และมีการพูดคุยเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนไม่ได้เจอกับนายสกลธี จึงไม่ทราบ และไม่รู้ เพราะนายสกลธีไม่ได้มาหาตน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลว่า ให้รอดูหลังปีใหม่ ซึ่งต้องตอบโจทย์คน กทม.ที่อึดอัดมาตลอด 9 ปี ที่ไม่ได้เลือกผู้ว่าฯ และ 11 ปีที่ไม่ได้เลือก ส.ก. รวมถึงคนที่กำลังจะมีโอกาสได้เลือกตั้งครั้งแรก หรือนิวโหวต ที่เป็นคนหนุ่มสาวจำนวนมาก โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 23 ม.ค.2565
"ซึ่งเป็นคนที่ทุกคนรู้จักหมด ที่สำคัญคือ ต้องเป็นคนที่ผมไว้ใจ เป็นคนรุ่นใหม่ และไม่ใช่นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือคนที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้" นายพิธากล่าว และว่า แคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของเราอายุประมาณ 41 เท่าผม และหน้าตาดีกว่าผม มีความเชี่ยวชาญในหลายเรื่อง โดยอยู่ในภาคเอกชน เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุขเมือง นอกจากนั้นยังมีทีมที่ปรึกษาและคนที่ทำงานอยู่ใน กทม.มาก่อนหลายปีมาร่วมด้วย
ส่วนการส่งผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นการตัดคะแนนกันเองหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่ได้คิดในลักษณะว่าจะเป็นการตัดคะแนนกัน แต่มองในลักษณะอุดมการณ์ในการทำงาน การตั้งพรรคก้าวไกลขึ้นมาเพื่อผลักดันการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ ระดับเมือง หรือการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องของเพื่อนเรา คือคณะก้าวหน้า จึงคิดว่าต้องส่งแคนดิเดตที่ดีที่สุด และนโยบายที่ดีที่สุดให้ประชาชนตัดสิน ซึ่งการพูดคุยกันในลักษณะนี้ หรือการล็อกคนก็เคยเกิดขึ้นแล้วในการเลือกตั้งซ่อม แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน