อิ๊งค์ยันไร้เซอร์ไพรส์นั่งรัฐมนตรี

"ภูมิธรรม" แจงปรับ ครม.เป็นแค่ข่าว ไม่ปฏิเสธ “อิ๊งค์” เหมาะสมนายกฯ แต่ต้องรอให้ถึงวาระ ยอมรับ  “สมศักดิ์-สุริยะ-ประเสริฐ” จ่อลาออก สส.ปาร์ตี้ลิสต์เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำหน้าที่ในสภา "แพทองธาร" ปัดมีชื่อนั่งเก้าอี้ ครม. ถ้าโผล่มาถือว่าเซอร์ไพรส์ “ลุงป้อม”น้ำหนักลด 14 กก. ยันไม่ได้ไปไหนแต่อยู่เบื้องหลัง ไม่ร่วมประชุมสภาเหตุเจ็บขาเพิ่งหาย “ธรรมนัส” บอกไม่ทิ้ง พปชร. สส.ยังอยู่กันหมด "ปชป." ประชุม กก.บห.ใหม่ครั้งแรกหวังเรียกศรัทธาคืน "เฉลิมชัย" โวให้จับตาการเปลี่ยนแปลง ย้ำไม่ซูเอี๋ยใครให้เลิกพูดว่าพรรคอะไหล่

เมื่อวันที่ 7 มกราคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า จะปรับอย่างไร และจะปรับทำไม ซึ่งตนได้ยินมาหลายเรื่อง ทั้งจะมีการปรับครม. และจะมีการปรับให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเพียงข่าวที่พูดมาอย่างต่อเนื่อง และในพรรคไม่เคยมีการพูดแบบนี้ แต่ยอมรับว่า น.ส.แพทองธารมีความเหมาะสม ไม่มีปัญหา เพียงเวลานี้จุดมุ่งหมายคืออยากให้รัฐบาลทำงานให้เข้มแข็ง ทำพรรคให้แข็งแรง เวลานี้เราใช้ยุทธศาสตร์ของ 3 ขาในการพัฒนาองค์กรของเราให้เข้มแข็ง คือสภาทำหน้าที่อย่างแข็งแรง พิจารณาดูว่ามีกฎหมายอะไรที่จะทำให้ประชาชนและลงพื้นที่ฟังเสียงของประชาชน ขณะที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้นำการบริหารประเทศ

"น.ส.แพทองธารยังต้องการทำให้พรรคแข็งแรง แต่ว่าโดยการเป็นหัวหน้าพรรคก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วว่ามีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงต้องรอให้วาระถึงและตัดสินใจ ยังเหลือเวลาอีกยาวไม่ต้องรีบคิดตอนนี้ เพราะรัฐบาลนี้เพิ่งเริ่มต้นทำงาน และคิดว่าจะอยู่ยาวให้ครบวาระ"

นายภูมิธรรมยอมรับว่า จะมี สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลาออก 3 คน คือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี,  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะเวลานี้คนที่เป็นรัฐมนตรีมีงานเต็มมือไปหมด จากที่ได้พูดคุยกับทั้ง 3 คน อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในสภา

เมื่อถามว่า จะคุยกับรัฐมนตรีที่เป็นสส.ทุกคนใน พท.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการคุยกันตั้งแต่ต้นว่าหากใครมีความสามารถด้านการบริหารก็ให้อยู่ในบัญชีท้าย ไม่ต้องไปแย่งที่ให้ สส.ตกใจ ใครเหมาะสมทำงานสภาก็เข้าอยู่ในลำดับต้นๆ แต่เนื่องจาก พท.คนที่มีความสามารถเยอะ และเดิมทีเราคาดการณ์จะได้ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ถึง 50 คน แต่การเมืองผลเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้ง 3 คนพูดเองได้ปรารภกับตนว่าจะลาออกเพื่อไปทำงานรัฐบาลให้เต็มที่ จึงขออย่าคิดว่าจะไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ตอนนี้ทั้ง 3 คนยังอยากทำงานให้เต็มที่อยู่

ด้าน นส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ จ.ร้อยเอ็ด ถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ไม่มีชื่อของตนเอง ส่วนใน 4 ปีของรัฐบาลชุดนี้จะมีโอกาสนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ช่วงเวลานี้ขอทำงานเพื่อนโยบายต่างๆ ทั้ง Soft Power และโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งจะขอผลักดันเรื่องนี้ให้เต็มที่ ส่วนเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีอนาคตค่อยว่ากัน

ปรับ ครม.ไม่มีชื่อ "อิ๊งค์"

"ปรับ ครม.ไม่มีชื่ออิ๊งค์ค่ะ ยืนยันไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนในอีก 4 ปีไม่ทราบเหมือนกัน แต่ในตอนนี้ไม่มีจริงๆ ค่ะ" น.ส.แพทองธารกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าปรับ ครม.รอบนี้ แล้วมีชื่อพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวย้ำว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เกิดขึ้น และรู้สึกเซอร์ไพรส์ ถ้าจะมีชื่อ อิ๊งค์ ไม่มีชื่อแน่นอน เซอร์ไพรส์มากนะ ถ้ามีชื่ออิ๊งค์อยู่ใน ครม.

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ไม่ค่อยอภิปรายโจมตีพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าในอนาคตพร้อมที่จะจับมือตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวสั้นๆ ว่า "เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ"

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว. สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เสียงในสภาถือว่าแน่นหนามาก ซึ่งได้รับเสียงถึง 314 เสียง แม้จะมี สส.ฝ่ายรัฐบาลบางคนลาป่วย แต่ยังได้ สส.ฝ่ายค้าน จากพรรคไทยสร้างไทย เข้ามาเพิ่ม 3 เสียง ส่วนกรณี 3 รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเตรียมลาออกจาก สส. ทางพรรคเคยพูดคุยกันว่าแต่ละคนมีศักยภาพในการทำงาน ซึ่งบางท่านอยู่ใน 2 ตำแหน่งทั้งรัฐมนตรี และ สส. ก็อาจจะอยากเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาช่วยทำงานด้วย เพราะขณะนี้ สส. ต่างก็ทำงานกันเหนื่อยมาก

ที่หอประชุมเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี (หลังใหม่) บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจร ครั้งที่ 1/2567 โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขต และ สส.พปชร. ร่วมกิจกรรม

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า การมาในวันนี้เพื่อชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่านโยบายต่างๆ  ทั้งเรื่องการจัดการที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ได้ดำเนินการมา การเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนด เราก็ทำมาแล้ว และได้มอบหมาย ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคไปทำต่อ ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การแก้ไขประมงผิดกฎหมาย ก็สามารถยกระดับได้ ตนทำมาทั้งนั้นแหละ 7-8 ปีที่ผ่านมา จึงมาแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่าตนและพรรคได้ทำอะไรไปบ้าง หลังจากนี้ผมก็จะเดินทางไปอีกหลายจังหวัดเท่าที่พรรคมี สส. เพื่อให้ประชาชนรับทราบ

เมื่อถามว่า เรียกว่าลุงป้อมคัมแบ็กได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้คัมแบ็ก ตนไม่ได้ไปไหนเลย เมื่อถามว่าก็พล.อ.ประวิตรหายเงียบไปนาน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นรองนายกฯ ก็เลยไม่ได้ดำเนินการ แต่ตนอยู่ในพรรคอยู่แล้วก็ทำงานให้พรรค เราก็อยู่เบื้องหลัง และตนก็ยังเป็น สส.บัญชีรายชื่อ แต่ยังไม่ไปประชุมสภา เนื่องจากเดินไม่สะดวกเพราะเจ็บขา เพิ่งหายมาได้ 2 วัน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามสื่อมวลชนว่า คุณตั้งไหมล่ะ ส่วนกระแสข่าวเรื่องการปรับ ครม. ก็ว่าไปตามกระแส ตนจะไปรู้ได้อย่างไร เพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว ให้ไปถามรัฐมนตรีดีกว่า

พปชร.เดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่า วันนี้ พปชร.ยังเหนียวแน่นกันอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า  แล้วมีอะไรไม่เหนียวแน่น ถามต่อว่า ก็พล.อ.ประวิตรหายไปช่วงหนึ่งทำให้ สส.สงสัย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใครหวั่นไหว สื่อ เป็นสื่อใช่ไหมที่หวั่นไหว เมื่อถามอีกว่า พปชร.ยังเดินหน้าอย่างเข้มแข็งใช่หรือไม่ หัวหน้า พปชร.กล่าวว่า เห็นงานที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเช้าหรือไม่ สส.และสมาชิกพรรคก็ยังคงเดินหน้าต่อไปในการทำงานให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า แต่ พล.อ.ประวิตรยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. หากเกิดอุบัติเหตุจนต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า หันมากล่าวกับสื่อว่าคงจะเลือกสื่อมั้ง ก่อนตัดบทให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ทักทายสื่อมวลชนว่าเป็นยังไง พร้อมระบุว่าตนสบายดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ไม่ได้เจอกันนาน แต่ยังดูสดใสแข็งแรง ผอมลงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบกลับว่า อดข้าว งดข้าวเย็น ก็สบายดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร หลังจากที่มีหนี้สินปรากฏ 757.26 บาท คืออะไร เหตุใดไม่ชำระหนี้ แต่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ต้องไปถามคนทำ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน

จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นรถยนต์ ก่อนที่จะเปิดประตูรถมาคุยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง โดยยอมรับว่าสุขภาพดีขึ้น ผอมลง เพราะว่าอดข้าว แต่ไม่ได้ทำ IF อดข้าวเย็นและข้าวเช้าอย่างเดียว มีออกกำลังกายนิดหน่อย ทำหน้าตาดูสดใสขึ้น  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตรมีน้ำหนักลดลง 14 กิโลกรัม หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเลือกตั้งที่ผ่านมา

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวลือตนเองจะไม่อยู่กับ พปชร. อาจจะเปลี่ยนใจไปอยู่กับพรรคอื่นว่า เปลี่ยนใจไปไหน ตนก็ยังทำ พปชร. ตอนนี้เป็นเลขาธิการพรรค ที่ผ่านมาก็มีการประชุมสส.พรรคทุกวันพุธที่รัฐสภา และมีการขับเคลื่อนในพรรคตลอด อีกทั้งตนก็ลงพื้นที่ของ สส. และอดีตผู้สมัคร สส.ทุกจังหวัด ดังนั้นเรื่องพรรคยืนยันว่าไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวลือที่ว่ามี สส. เตรียมย้ายพรรคหลายคน ไม่มีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มี อยู่ด้วยกันทั้งหมด เมื่อถามว่าหากจะอยู่เดินหน้ากับพรรคต่อไป จะต้องมีการปรับปรุงอะไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราต้องย้อนกลับมาดูพรรคเรา ซึ่งเรากำเนิดโดยเราเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ผสมผสานกันจากคนจากหลายๆ พรรค แนวทางการทำงานและการหาเสียงของ พปชร.ก็ยังเป็นแนวเดิม ที่สำคัญ ผลงานตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป จะมีผลเห็นเป็นประจักษ์ว่าพรรคเราที่หาเสียงไว้จะนำนโยบายของพรรคมาสู่การปฏิบัติสู่ประชาชนอย่างไร

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกมองว่าเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ซึ่งจะถูกนำเอาไปให้พรรคประชาธิปัตย์หากมาเข้าร่วมรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เอาเป็นว่าตนฟังมาจากคนที่ตัดสินใจว่าจะปรับหรือไม่ปรับว่า ไม่มีการปรับ ครม.ในช่วงนี้  ให้ฟังตน อย่าไปฟังนอกพรรคโควตารัฐมนตรีของ พปชร. ก็ยังคงเหมือนเดิม ยังขาดนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร อยู่อีกคนหนึ่ง

เมื่อถามอีกว่า การปรับครั้งหน้าจะเสนอชื่อนายไผ่ให้นายกฯ เลยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการปรับ แต่อาจจะเพิ่มเมื่อทางพรรคแกนนำเขาพร้อม ตอนนี้ยังเป็นโควตาจากพรรคแกนนำ 1 คน และโควตาจาก พปชร. 1 คน ซึ่งยังเป็นนายไผ่อยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง หัวหน้าพรรคได้มีการสั่งตนมาแล้วว่า ให้ยืนยันเป็นนายไผ่เหมือนเดิม อย่าไปเชื่อใคร  เชื่อฉัน

นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพปชร. กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.ตอนนี้ยังมีความเหนียวแน่นหรือไม่ว่า วันนี้ก็เห็นอยู่ว่ามากันเยอะ ไม่มีปัญหาอะไรหัวหน้าพรรคก็กำลังใจดีและมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนที่หัวหน้าพรรคคัมแบ็กอีกครั้งหนึ่ง คงไม่มีนัยอะไร การเมืองก็เป็นแบบนี้ ในเรื่องของวัฏจักรก็มีการเคลื่อนไหวในช่วงของแต่ละจังหวะเวลา ก็แล้วแต่คนจะมองและคาดเดาไปเอง

ปชป.หวังเรียกศรัทธาคืน

ที่ลานพระแม่ธรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่า วันนี้ถือว่าเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ กก.บห.ชุดใหม่ ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ซึ่ง กก.บห.ทุกท่านก็มาไหว้พระแม่ธรณีฯ  ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค เป็นประเพณีธรรมเนียมของ ปชป.เรา โดยภายหลังจากนี้ก็จะมีการประชุม กก.บห.ครั้งแรก ซึ่งก็จะมีการพูดคุยถึงสภาพปัญหา ภาพรวมต่างๆ รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะทำงานศึกษารูปแบบ แนวทางในการดำเนินการต่อจากครั้งที่แล้วที่มีการหารือนอกรอบก่อนที่ กกต.รับรอง และดูทิศทางการเดินของ ปชป.จากนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากบุคคลภายในแล้ว มีการทาบทามบุคคลภายนอกเข้ามาหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ขอให้รอดูการเปลี่ยนแปลงของ ปชป. ซึ่งตนขอยืนยันว่าภายในการประชุมสามัญประจำปีครั้งหน้า ท่านจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ปชป. และวันนี้สิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ทุกคนเริ่มเข้าไปติดตามการทำงานของ ปชป.ทางด้านโซเชียลต่างๆ ของพรรค ที่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาของ ปชป.อย่างไร หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ได้พูดชัดเจนในวันที่ประชุมใหญ่ของพรรคแล้วว่า ปชป.เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งและสมบูรณ์ เมื่อเรามีหน้าที่ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เราก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

“ขอฝากสื่อมวลชนทุกสื่อว่า ให้เลิกพูดคำว่า ปชป.เป็นพรรคอะไหล่ แต่ขอให้มาดูความตั้งใจของ ปชป.วันนี้ เริ่มต้นจากการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา จะเห็นว่าประชาธิปัตย์ทุกคน ทั้งคนใหม่คนเก่าทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่ ติติงในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเสนอแนะในสิ่งที่คิดว่าประเทศชาติจะได้ประโยชน์ นี่คือเป็นการทำงานของ ปชป. และ ปชป.ทำหน้าที่เข้มข้นเช่นนี้ตลอดไป ขอให้รอดูในวันที่พูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านฯ ในการดำเนินการของในสภาต่อจากนี้ ฝากด้วยว่า ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่มีซูเอี๋ยกับใคร ปชป.ตั้งมา 77 ปี จะเข้าปีที่ 78 ไม่มีไปเป็นพรรคอะไหล่ให้ใคร และไม่เคยเป็น " นายเฉลิมชัยกล่าว

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. แถลงภายหลังการประชุมว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ได้มีการแจ้งการตอบรับการเปลี่ยนแปลง กก.บห.ชุดใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารที่เป็นทางการจาก กกต. นายทะเบียนพรรคการเมือง ที่มีการแจ้งมายังพรรคเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2567 ซึ่งกก.บห.ชุดใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 40 ท่าน ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค จะต้องเริ่มต้นในทันทีเพื่อที่จะให้ประชาชนได้เห็นว่า แม้จะมี กก.บห.ชุดใหม่ แต่ ปชป.มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ จึงได้มอบหมายภารกิจให้กับรองหัวหน้าพรรคทั้ง 5 ภาค ได้มีการกำหนดกรอบการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องยุทธศาสตร์พรรค ยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่ข้อเท็จจริงของพี่น้องประชาชนในแต่ละภาค ลงลึกไปถึงรายจังหวัด เพื่อใช้ประกอบการทำงานของกก.บห.ต่อไป

นายราเมศกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนภาคประจำจังหวัด ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ยังพูดคุยถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านการรณรงค์ให้มีการบริจาคภาษีให้กับพรรคผ่านรหัส 001 ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกแคมเปญเพื่อรณรงค์ดังกล่าว ในเรื่องการสื่อสาร ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานด้านที่เกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะให้การดำเนินงานของพรรคสามารถเป็นที่รับรู้และเข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดทั้ง 77 จังหวัด นอกจากนี้ยังตั้ง น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค ซึ่งจะทำให้ทำงานอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

“กระบวนการทั้งหมดคือโครงสร้างที่กก.บห.ชุดใหม่ได้มีการพิจารณาที่จะเดินไปข้างหน้า เพื่อที่จะร่วมกันทำงานให้กับพี่น้องประชาชน พัฒนาฟื้นฟูพรรคให้ดี  เรียกคืนศรัทธาจากพี่น้องประชาชน ไม่มีสิ่งไหนดีเท่ากับการที่เราปฏิบัติลงมือทำในฐานะสถาบันทางการเมืองให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นายราเมศกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์

นายใหญ่เมินห่วงปมเศรษฐา

“ทักษิณ” ไม่ห่วง “เศรษฐา”  ปมศาล รธน. มั่นใจพา พท.กลับมาผงาดได้ ไม่ขอแตะ “ลุงตู่” หลังมีกระแสคิดถึง