ขวางโมเดลแม้วเอื้อปู

"เศรษฐา" ขึงขัง เปิดงานการฟื้นฟูหลักนิติธรรม ขจัดคอร์รัปชันให้หมดไป ขณะที่ "หมอวรงค์" จับมือ คปท.  ทวงหลักนิติรัฐ นิติธรรม หลังประเทศ เผชิญกับปัญหาของนักโทษเทวดาชั้น   14 ปลุกต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ความอัปยศครั้งใหญ่

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสารการฟื้นฟูหลักนิติธรรม วาระแห่งชาติของไทย ในงานเวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม (Rule of Law Forum: Investing in the Rule of Law for a Better Future) ที่จัดขึ้นโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) (Thailand Institute of Justice: TIJ) ร่วมกับ The World Justice Project (WJP) ว่า วันนี้รัฐบาลได้รับเกียรติจากองค์กรนานาชาติอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญนอกเหนือจากสหประชาชาติ คือ The World Justice Project หรือ WJP ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรร่วมจัดงานในวันนี้ เข้ามาทำให้หลักนิติธรรมสามารถกำหนดประเด็นที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ วัดผลได้ ด้วยการสำรวจค่าคะแนนดัชนีชี้วัดหลักนิติธรรม  หรือ Rule of Law Index เป็นประจำทุกปี ซึ่งจะกลายเป็น Feedbacks กลับมาหาหน่วยงานรัฐและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสะท้อนถึงเสียงของประชาชนและองค์กรชั้นนำอีกมากมาย

นายกฯ กล่าวว่า การฟื้นฟูหลักนิติธรรมจะทำให้ประเทศไทยมี Ease of Doing Business ที่ดีขึ้น เป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับหมู่นักลงทุนและบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เพราะการลงทุนของเขาจะได้รับการปฏิบัติบนหลักกฎหมายอย่างเป็นธรรม อีกด้านหนึ่ง การมีหลักนิติธรรมจะเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่ช่วยในการขจัดคอร์รัปชันให้หมดไปได้ ทำให้คนทำผิดไม่สามารถกระทำผิดได้ ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการ นักการเมือง ประชาชน กล้าที่จะร้องเรียน เป็นการสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันไปพร้อมๆ กัน

"ผมก็ดีใจที่เราได้เริ่มทำ เริ่มจุดประกายให้เกิดขึ้นได้ และผมขอให้เวทีในวันนี้ประสบความสำเร็จ ทำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญและยินดีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อฟื้นฟูหลักนิติธรรมของประเทศไทยไปด้วยกัน" นายเศรษฐากล่าว

ที่ที่ทำการพรรคไทยภักดี วันเดียวกันนี้ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ เข้าพบ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ

ภายหลังหารือร่วม 1 ชั่วโมง นพ.วรงค์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพรรคไทยภักดี และกลุ่ม คปท. มีการทำงานบนหลักการที่สอดคล้องกัน คือหลักการของหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเพื่อความถูกต้อง ซึ่งประเทศไทยขณะนี้กำลังเผชิญกับปัญหาของนักโทษเทวดาชั้น 14 ที่สร้างความอึดอัดใจให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการทำลายหลักกฎหมายของประเทศที่ประชาชนรับไม่ได้

ดังนั้น ประเด็นที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือ เราไม่สนใจว่าใครจะสีอะไร แต่สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นคือหลักนิติรัฐ นิติธรรม หลักกฎหมาย และความถูกต้องของประเทศ ที่พวกเราเห็นพ้อง ร่วมมือกันในการต่อสู้กับต่อแนวคิดของกระทรวงยุติธรรม ที่สร้างความอัปยศต่อกระบวนการยุติธรรม

สำหรับการนัดทำกิจกรรมของกลุ่ม คปท. ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ตนสนับสนุนและเชิญชวนพี่น้องที่รักความถูกต้องร่วมให้กำลังใจ แต่ในนามพรรคการเมืองของพรรคไทยภักดี มีข้อจำกัดเรื่อง  พ.ร.ป.พรรคการเมือง เกี่ยวกับการชุมนุมที่มีความหมิ่นเหม่ จึงไม่สามารถไปร่วมได้ ซึ่งรับสนับสนุนทุกฝ่ายที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ความอัปยศครั้งใหญ่ของประเทศ ไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน

นพ.วรงค์ยังนำภาพของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ที่ลงพื้นที่ในเรือนจำบางขวาง พร้อมระบุว่า คนแบบนี้หรือที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการยุติธรรม และดูแลหลักความเป็นธรรมในประเทศ เพราะกำลังทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ มาตรา 72 ที่กำหนดไว้ว่า ไม่มีใครมีสิทธิ์นำโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ แต่ทีมงานของ รมต.กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ ซึ่งรัฐมนตรีจะทำอย่างไร ในเมื่อภาพดังกล่าวหลุดออกมาแล้ว

นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า ในการหารือแลกเปลี่ยนในวันนี้ ยังมีเรื่องที่คาดการณ์เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีหญิง ที่เป็นนักโทษหญิง หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย จึงขอเตือนไปยังรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า  “ท่านต้องใช้ความถูกต้องเพื่อชนะทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าใช้อำนาจที่กระทำแบบนักโทษชายชั้น 14 มาเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษหญิง เพราะหากยังทำแบบนี้อยู่  จะเป็นการเติมน้ำมันเข้ากองไฟ อย่าเอาความชั่วไปชนะใจประชาชน แต่ต้องเอาหลักการที่ดีไปชนะใจประชาชน”

ด้านนายพิชิตระบุว่า พรรคก้าวไกลยังแสดงตัวในเรื่องนี้ไม่ชัดเจน ทั้งๆ ที่เป็นบทบาทของพรรคฝ่ายค้านในระบบรัฐสภา จึงอยากให้พรรคก้าวไกลแสดงจุดยืนมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้เป็นรูปธรรมของความเหลื่อมล้ำ ที่รัฐบาลใช้กฎหมายไปเอื้อประโยชน์แก่นักโทษเพียงคนเดียว เพราะที่ผ่านพรรคก้าวไกลรณรงค์เรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมมาโดยตลอด แต่วันนี้พรรคก้าวไกลกลับไม่ออกมาแสดงจุดยืน ทั้งๆ ที่สามารถทำได้ทันที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.จับตาศึก ‘อบจ.ราชบุรี’

ประธาน กกต.ยันจับตาเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีวันอาทิตย์นี้ เตือนอย่าทำอะไรผิดกฎหมาย “2 ผู้สมัคร” แห่หาเสียงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะเด็กค่าย ปชน.

ไปข้างหน้าเพื่อชาติ! อิ๊งค์วอนเสื้อแดงให้เข้าใจ ราชทัณฑ์ดิ้นโต้เสรีพิศุทธ์

"นายกฯ อิ๊งค์" เผย ครม.นิ่งแล้ว รอตรวจประวัติเสร็จทำงานได้ทันที แจงจับมือ "ประชาธิปัตย์" เพื่อเสถียรภาพรัฐบาล บอกเข้าใจหัวอกคนเสื้อแดง วอนก้าวไปข้างหน้าเพื่อชาติ