พท.ป้อง‘นายใหญ่’ เสี่ยนิดน้ำ ท่วมปาก

ไทยโพสต์ 0 "อนุสรณ์" เย้ย "ชัยธวัช" ตีประเด็น "ทักษิณ"  หวังหาจุดเปลี่ยนลมๆ แล้งๆ "ครูมานิตย์" ยันนายใหญ่ป่วยจริง ไม่ห่วงกระทบรัฐบาล เชื่อ จนท.ชี้แจงระเบียบขั้นตอนหลังปีใหม่ “เด็จพี่” โต้ “กิตติศักดิ์” อย่าชอร์ตฟีลปม “ทักษิณ” ขอคนไทยมีความสุขช่วงปีใหม่ "สว.ตัวตึง" ย้ำกระแส น.ช.ทักษิณใช้อภิสิทธิ์ไม่ติดคุกจุดติดแล้ว ท้า นายกฯ-สว.ใครไปก่อน "เทพไท" เหน็บ "เศรษฐา" น้ำท่วมปาก "ทักษิณ" อยู่ชั้น 14 สวนทางจุดยืนไม่ยอมรับระบบเส้นสาย

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่า ต้นปีหน้าเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกฯ จะกลายเป็นประเด็นขย่มรัฐบาลว่า เป็นเหมือนความหวังลมๆ แล้งๆ ของคนที่จะหาประเด็นเพื่อเป็นจุดเปลี่ยนรัฐบาล สวนทางกับนักวิเคราะห์และประชาชนที่วิเคราะห์ว่า รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ  และ รมว.การคลังจะอยู่ครบเทอม และขณะที่รัฐบาลมี 315  เสียง ถือว่าเป็นปึกแผ่นและมีเสถียรภาพ เข้าใจว่าประเด็นนายทักษิณจะเป็นประเด็นเดียวที่ทำให้ฝ่ายค้านมีลุ้น ทั้งที่ไม่มีอะไรเลย

"ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันนี้นายทักษิณก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากเห็นว่ากฎหมายหรือระเบียบราชทัณฑ์มีปัญหา ก็ควรไปเสนอแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ ไม่ใช่จ้องจะมาเล่นงานที่ตัวนายทักษิณเช่นนี้" นายอนุสรณ์กล่าว

ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่นายชัยธวัชพูดเรื่องนายทักษิณ เป็นการพูดในหลักการย่อมพูดได้ แต่ตนเชื่อว่าหลังปีใหม่ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งจากโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ คงจะได้ชี้แจงระเบียบขั้นตอนต่างๆ ตนไม่เป็นห่วงประเด็นนี้จะกระทบรัฐบาล เพราะข้อเท็จจริงคือนายทักษิณนอนรักษาตัวอยู่จริง เท่าที่สอบถามจากหลายคน ทราบว่าท่านไม่สบายอยู่จริง พวกตนก็เป็นห่วง จะไปเยี่ยมท่านก็ไม่ได้ เมื่อท่านป่วยอยู่จริงจะให้ทำอย่างไร

"เรื่องนี้ก็แล้วแต่ใครจะมอง คนฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยก็มองอีกแบบหนึ่ง เราพูดอย่างไรก็ไม่เชื่อ เพียงแต่ว่าวันนี้เป็นระเบียบขั้นตอนปฏิบัติของโรงพยาบาลและกรมราชทัณฑ์ที่คนไปเยี่ยมไม่ได้ แม้แต่ สส.พรรคเพื่อไทยที่มีความผูกพันกับนายทักษิณ ยังไม่มีสิทธิ์ไปเยี่ยมเลย อย่าว่าแต่คนทั่วไปที่เป็นห่วง หรือคนที่เป็นปรปักษ์จะขึ้นไป เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ก็พูดได้เพียงเท่านี้ แต่ยืนยันส่วนตัวและพรรคพวกที่เป็นผู้แทนที่ผูกพันกับนายทักษิณ ไม่มีใครเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะข้อเท็จจริงมันชัดเจน" นายครูมานิตย์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายการเมือง)  ของรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวถึงกรณีนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)  กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2567 ว่าม็อบจุดติดแล้ว เพราะปม "ทักษิณ" พร้อมลงถนนปีหน้า ติงนโยบายต่างประเทศนายกฯ ไม่ทันโลก ผูกมิตรตะวันตก ทำนักท่องเที่ยวจีนลดว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีของนายกิตติศักดิ์ที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เพราะนายกิตติศักดิ์ก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทยมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ตนแปลกใจก็คือ นายกิตติศักดิ์ก็ช่างกล้าออกมาเตือนรัฐบาลว่าทำอย่างนี้จะสร้างความขัดแย้ง  ทำอย่างนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่มา ทั้งที่ตัวนายกิตติศักดิ์เองก็ขึ้นชื่อในเรื่องความขัดแย้งอยู่แล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ลองพิมพ์ค้นหาชื่อนายกิตติศักดิ์ใน Google ดู สิ่งที่เราจะพบเห็นก็คือ เรื่องราวความขัดแย้งของนายกิตติศักดิ์กับใครต่อใครมากมายก่ายกอง

"เรื่องอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์  เรื่องอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องอนาคต ไม่ใช่เรื่องที่ นายกิตติศักดิ์จะหยิบฉวยมาสร้างสตอรีเพื่อนำไปสู่ความขัดแย้ง ความขัดแย้งมันจะเกิดก็เพราะนายกิตติศักดิ์ ทำตัวเป็นหมอดูผู้รู้ทุกเรื่อง ประเทศไทยวนเวียนอยู่ในความขัดแย้งมากว่า 20 ปี รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา  สร้างอนาคตให้ลูกหลาน นายกิตติศักดิ์ควรหยุดค้าความขัดแย้งได้แล้ว"

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งเป็นมิตรกับทุกประเทศ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นายกิตติศักดิ์จะเอามาพูดลอยๆ ส่งๆ แบบนี้ไม่ได้ มันทำให้ประเทศเสียหาย ปีใหม่คนไทยกำลังมีความสุข นายกิตติศักดิ์กลับออกมาพูดเรื่องเหล่านี้  ชอร์ตฟีลคนไทยซะงั้น เอาจริงๆ สิ่งที่ตนเห็นหรือรู้จักเกี่ยวกับตัวนายกิตติศักดิ์ และมองว่านายกิตติศักดิ์น่าจะถนัดก็คือเรื่องวัดเรื่องวา ถ้านายกิตติศักดิ์ออกมาชวนคนไทยสวดมนต์ข้ามปีตนจะไม่ว่าซักคำ แต่ถ้านายกิตติศักดิ์ทำหน้าที่ สว.ได้แค่นี้ ก็ขอแนะนำให้ลาออก น่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยประหยัดภาษีประชาชนไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะยังไงอีกไม่นานนายกิตติศักดิ์ก็จะหมดวาระอยู่แล้ว

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงกรณี สว.จะหมดวาระการทำหน้าที่ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 ว่า คงไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไร คลื่นลูกเก่าไป คลื่นลูกใหม่ก็มาเท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลอะไรกับ สว.อีกต่อไป เพราะ สว.ชุดใหม่จะไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีอีก  แต่ระหว่างนี้อย่ารีบเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้ สว.ชุดปัจจุบันเลือกนายกฯ ได้อีก ขณะนี้ในวง สส.และ สว.พูดกันหนาหู ระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กับ สว.ชุดนี้ใครจะไปก่อนกัน ทราบว่านายเศรษฐาก็มีปัญหาในเรื่องการบริหารอำนาจเช่นกัน ปัจจัยกำหนดความอยู่รอดของนายเศรษฐาว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นกับชนวนคดีของนายทักษิณ ว่านายเศรษฐาจะบริหารอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน

“ขณะนี้กระแสสังคมจุดติดแล้ว รับไม่ได้ที่นายทักษิณได้อภิสิทธิ์พิเศษ ไม่ต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมในคดีทุจริต ไม่เคยถูกคุมขังในเรือนจำแม้แต่วันเดียว จะเป็นตัวประเดิมจุดไฟขัดแย้งตั้งแต่ต้นปี ขึ้นอยู่กับบทบาทนายเศรษฐาจะประคับประคองอารมณ์ประชาชนได้แค่ไหน” นายกิตติศักดิ์กล่าวและว่า ถ้าทุกอย่างถึงช่วงสุกงอมพอดี นายเศรษฐาก็น่าห่วง ส่วนตัวขอฟันธง อย่างเก่งนายเศรษฐาอยู่ได้แค่ปีเดียว ไม่เกินเดือน ธ.ค. 2567 นายกรัฐมนตรีอาจถูกเปลี่ยนชื่อจากนายเศรษฐาเป็นคนอื่น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า "จากกรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร พักอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ  โดยไม่ยอมไปถูกคุมขังในเรือนจำเหมือนนักโทษทั่วไป  สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะบอกว่าเป็นการกัดกร่อนเสถียรภาพของรัฐบาลก็ว่าได้ เพราะการที่รัฐบาลไม่บังคับใช้กฎหมายกับคุณทักษิณให้เหมือนกับนักโทษทั่วไป ย่อมเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ในเรื่องหลักธรรมาภิบาล สร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้นในสังคม มีการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน

โดยเรื่องดังกล่าวสร้างความอึดอัดใจให้คุณเศรษฐา  ทวีสิน นายกฯ อยู่ไม่น้อย ตัวคุณเศรษฐาเองคงไม่อยากเห็นการเลือกปฏิบัติต่อคุณทักษิณแตกต่างกับนักโทษทั่วๆ ไป เพราะเคยแสดงจุดยืนของตัวเองก่อนรับตำแหน่งว่า ต่อต้านและไม่ยอมรับระบบเส้นสายที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมายาวนาน

กรณีของคุณทักษิณไม่ยอมเข้าเรือนจำ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องการใช้ระบบเส้นสาย คุณเศรษฐาจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้ บ่ายเบี่ยง โยนความรับผิดชอบไปให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรม ทั้งที่คุณเศรษฐา มีสไตล์การทำงานแบบซีอีโอ ถึงลูกถึงคน เกาะติดการทำงานของทุกกระทรวง ทบวง กรมอยู่แล้ว มีแต่กรณีของคุณทักษิณเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่คุณเศรษฐาปฏิเสธจะพูดถึง อาจจะเป็นเพราะน้ำท่วมปาก พูดไม่ออก ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้

"คุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ด้วยเสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ไม่มี สส.ในมือแม้แต่คนเดียว และคุณทักษิณก็เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย จะทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจก็เกรงใจเจ้าของพรรค จึงปล่อยให้คุณทักษิณลอยนวลอยู่บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อย่างไม่มีกำหนดกลับเข้าสู่เรือนจำเหมือนนักโทษทั่วไป" นายเทพไทระบุ.