เปิดกรุ‘เสี่ยนิด’รวยอู้ฟู่1พันล้าน

ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน “เศรษฐา” รวยอู้ฟู่ 1,020 ล้าน นาฬิกาหรูของแบรนด์เนมเพียบ เจ้าตัวแจงรถ Aston Martin 50 ล้าน ซื้อไว้อยู่ต่างประเทศ ไม่แจ้งรถ lexus เหตุเป็นของลูกสาว ระบุสังคมจับตารวยไม่แปลก เพราะทำงานมาจนเกษียณ ขณะที่ “ศุภมาส” ก็อู้ฟู่ 1.5 พันล้าน คู่สมรสมีโรลส์-รอยซ์คันละ 40 ล้าน 2 คัน ทองคำแท่ง 46 กก. 100 ล้าน ส่วน "ปานปรีย์" รวย 161 ล้าน 

 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง    จำนวน 13 ราย ที่น่าสนใจคือ นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 โดยนายเศรษฐาแจ้งสถานะสมรสกับนางพักตร์พิไล ทวีสิน มีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายจำนวน 3 คน  ได้แก่ นายณภัทร ทวีสิน, นายวรัตม์ ทวีสิน และ น.ส.ชนัญดา ทวีสิน นอกจากนี้ นายเศรษฐาได้แจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี ในปี 53 เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และปี 64 เป็นประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  

นายเศรษฐาแจ้งว่า ตนเองและนางพักตร์พิไล คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,020,468,727 บาท เป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐา 659,391,610 บาท เป็นทรัพย์สินของนางพักตร์พิไล 361,077,116 บาท นอกจากนี้ แจ้งว่ามีหนี้สิน ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชีของทั้งคู่ 9,732,579 บาท 

สำหรับรายละเอียดทรัพย์สินของทั้งคู่ ประกอบด้วย เงินสด 2,800,000 บาท เงินฝาก 85 บัญชี มูลค่ารวม 116,009,949 บาท เงินลงทุน 33 รายการ มูลค่ารวม 53,654,581 บาท ที่ดิน 1 แปลง พื้นที่ 1 งาน 98 ตารางวา ในพื้นที่แขวงคลองเตย เขตพระโขนง กทม. มูลค่า 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ โดยเป็นห้องชุดในพื้นที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ และบ้าน 3 ชั้นในพื้นที่ คลองเตย กทม. มูลค่ารวม 156,423,120 บาท ยานพาหนะ 4 รายการ โดยเป็นรถยนต์ของนายเศรษฐา 1 คัน คือ รถยนต์ยี่ห้อ Aston Martin รุ่น DB5 จดทะเบียนในประเทศอังกฤษ มูลค่า 50 ล้านบาท นอกจากนั้น เป็นรถยนต์ของคู่สมรส ประกอบด้วย TOYOTA Alphard รถยนต์ยี่ห้อ FIAT และรถยนต์ยี่ห้อ Tesla Model Y มูลค่ารวม 78,000,000 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 13 รายการ โดยเป็นสมาชิกสามัญ สมาคมกรีฑาสโมสร นอกจากนั้นเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิต มูลค่ารวม 88,385,074 บาท และทรัพย์สินอื่น 496,817,8169 บาท 

ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นาฬิกาของนายเศรษฐา 38 เรือน มูลค่ารวม 127,953,100 บาท นาฬิกาของคู่สมรส 31 เรือน มูลค่ารวม 84,869,300 บาท กระเป๋าของคู่สมรส 48 ใบ มูลค่ารวม 37,010,500 บาท หีบหลุยส์วิตตอง X สุพรีม ของนายเศรษฐา มูลค่า 6,000,000 บาท พระเครื่อง-ตะกรุด 6 องค์ มูลค่า 1,622,600 บาท ชุดสร้อยเพชร, ไข่มุก, กำไลตะปูฝังเพชร 31 ชุด มูลค่า 52,317,000 บาท ชุดแหวนเพชร, ไพลิน, ทับทิม, มรกต 37 ชุด มูลค่า 46,872,900 บาท ชุดต่างหูเพชร, ทับทิม, มรกต, ไข่มุก, ต่างหูหนีบ 58 ชุด มูลค่า 31,865,600 บาท เป็นต้น

นายเศรษฐายังแจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 253,636,771 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนสูงถึง 153,570,160 บาท นอกจากนี้ ยังมีเงินที่บุตรให้รายปี 20 ล้านบาท เงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท และยังมีเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุ 13,333,333 บาท ค่าใช้จ่ายต่อปี 51,630,957 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนคู่สมรสแจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 3,215,173 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระ (แพทย์) ค่าใช้จ่ายต่อปี 20,675,200 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เป็นต้น 

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีที่ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน โดยมีทรัพย์สินกว่าพันล้านบาท และของสะสมนาฬิกาและรถหรู Aston Martin มูลค่า 50 ล้านบาท ว่ารถยนต์มีคันเดียว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รถยนต์ Aston Martin 50 ได้นำเข้ามาในประเทศไทยแล้วหรือยัง นายเศรษฐากล่าวว่า “อยู่ที่ต่างประเทศ ไม่เอาเข้ามา ผมซื้อไว้เป็นรถเก่าตั้งแต่ปี 1963 เป็นรถรุ่น DB5 ที่ปรากฏในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ภาคล่าสุด ที่ขับกันในประเทศอิตาลี เป็นความชอบส่วนตัว”

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่าเป็นนายกฯ ที่รวยที่สุด นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่คิด และไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีน้อยหรืออะไร แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากทำงานมาหลายปี จนจะเกษียณ

เมื่อถามว่า รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS รุ่น LM 350h Executive แบบ 4-Seater กรุงเทพมหานคร ราคา 7.59 ล้านบาท ที่นายกฯ ใช้ในปัจจุบัน ไม่ปรากฏในการแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นของครอบครัว ของลูกสาว

สำหรับบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 โดย น.ส.ศุภมาส แจ้งสถานภาพสมรสกับ พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ มีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 2 คน 

น.ส.ศุภมาสแจ้งว่า ตนเองและคู่สมรสมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,531,121,679 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ น.ส.ศุภมาส 152,882,369 บาท เป็นทรัพย์สินของ พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ 1,378,239,310 บาท นอกจากนี้ แจ้งว่ามีหนี้สิน 615,978,746 บาท โดยเป็นหนี้สินของ พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ 615,851,325 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ

สำหรับทรัพย์สินของ น.ส.ศุภมาส ประกอบด้วย เงินฝาก 4,827,261 บาท ที่ดิน 18,570,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่น จำนวน 14 ราย มูลค่า 119,485,369 บาท อาทิ นาฬิกา 10 เรือน มูลค่า 22 ล้านบาท เครื่องประดับ 61 ชิ้น มูลค่า 69 ล้านบาท 

ขณะที่ทรัพย์สินของ พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์  ประกอบด้วย เงินฝาก 19,525,396 บาท เงินลงทุน 635,569,526 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนในบริษัท DOD ถึง 590,854,515 บาท ที่ดิน จำนวน 15 แปลง มูลค่า 162,047,500 บาท ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ใน กทม. โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 4 หลัง มูลค่า 145,000,000 บาท ในจำนวนนี้เป็นห้องชุด ดิไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ มูลค่า 70 ล้านบาท ยานพาหนะ จำนวน 7 คัน มูลค่า 96,200,000 บาท ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ROLLS ROYCE มูลค่า 40 ล้านบาท และรถยนต์ยี่ห้อ ROLLS ROYCE รุ่น CULLINAN ยังไม่จดทะเบียน มูลค่า 40 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 194,524,839 บาท โดยเป็นประกันชีวิต กับสิทธิการเช่าห้องชุดโครงการสินธร ลุมพินี มูลค่า 70 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 125,372,048 บาท ได้แก่ อาวุธปืน 4 กระบอก นาฬิกา 1 เรือน มูลค่า 10.3 ล้านบาท เฟอร์นิเจอร์ 5 ชิ้น มูลค่า 14 ล้านบาท ทองคำแท่ง 46 กก. มูลค่า 100,652,048 บาท โดยได้มาในช่วงวันที่ 27 เม.ย.66-2 พ.ค.66

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 แจ้งว่า ตนเองและนางปวีณา พหิทธานุกร คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 161,757,669 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 375,058 บาท แบ่งเป็นของนายปานปรีย์ 41,826,427 บาท ได้แก่ เงินสด 1,000,000 บาท เงินฝาก 10 บัญชี จำนวนเงินรวม 21,705,606 บาท ยานพาหนะ 3,500,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,232,821 บาท และทรัพย์สินอื่น 13,388,000 บาท 

ขณะที่ นางปวีณา พหิทธานุกร คู่สมรส มีทรัพย์สิน 119,931,242 บาท ได้แก่ เงินสด 1,000,000 บาท เงินฝากจำนวน 7 บัญชี จำนวนเงิน 6,755,513 บาท เงินลงทุน 7,450,686 บาท ที่ดิน 49,291,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 13,000,000 บาท ยานพาหนะ 1,500,000 บาท สิทธิสัมปทาน 4,683,542 บาท ทรัพย์สินอื่น 36,250,000 บาท

สำหรับทรัพย์สินที่น่าสนใจ เช่น  นาฬิกาหรูจำนวน 13 เรือน อาทิ นาฬิกา PATEK PHILIPPE ล้อมเพชรสายทองคำขาว มีมูลค่ารวม 11,600,000บาท พระพุทธรูป-รูปหล่อ จำนวน 29 องค์ อาทิ พระพุทธรูปนาคปรกสมัยนครวัด มูลค่า 5,000,000 บาท พระพุทธรูปแก้วมรกตเศียรทองคำ มูลค่า 2,000,000 บาท มูลค่ารวม 10,108,000 บาท เครื่องประดับต่างๆ อาทิ แหวนเพชร 3 กะรัต สร้อยคอเพชรรูปดอกไม้ล้อมเพชร ต่างหูไพลินรวม 25,520,000 บาท 

นอกจากนี้ นายปานปรีย์แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 3,057,691 บาท รายจ่ายต่อปี 1,240,000 บาท

ส่วนนายอิทธิพล คุณปลื้ม กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท โดยแบ่งเป็นบัญชีเงินฝากของตนเองและคู่สมรส รวม 13 บัญชี จำนวน 49,563,856 บาท ที่ดิน ที่เขตลาดพร้าวกรุงเทพมหานคร เป็นบ้านเดี่ยว มูลค่า 16,200,000 บาท รถยนต์ของตนเอง 1 คัน และคู่สมรส 1 คัน มูลค่ารวม 9,540,000บาท

ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นรวมของตนเองและผู้สมรส มูลค่ารวม 911,117 บาท อาทิ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น มูลค่า 101,117 บาท พระเครื่อง 5 องค์ ประเมินค่ามิได้ นาฬิกา Chopead และ Cartier และ Patek Philippe มูลค่ารวม 450,000 บาท 

นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ โดย น.ส.ตรีนุชแจ้งว่า ตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 477,713,386 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 176,289 บาท 

แบ่งเป็นบัญชีเงินฝากของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวม 11 บัญชี จำนวน 34,054,649 บาท  เงินลงทุนของตนเองและคู่สมรส 60,644,134 บาท มีที่ดินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 57 แปลง มูลค่า 322,707,900 บาท โรงเรียนและสิ่งปลูกสร้างของตนเองและคู่สมรส จำนวน 5 หลัง มูลค่า 34,723,800บาท ยานพาหนะของตนเอง 1 คัน คู่สมรส 3 คัน มูลค่ารวม 3,187,878 บาท.